เผยแพร่ |
---|
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีพนักงานสถาบันการเงินในกรุงเทพฯ มาปลูกบ้านอยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 12 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และปลูกข้าวในบ่อคอนกรีตเพื่อเก็บไว้บริโภคภายในครัวเรือนลดรายจ่าย จึงรุดตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อไปถึงพบ นางปองกานต์ เนตรน้อย อายุ 46 ปี พร้อมกับ นายธนยศ เนตรน้อย อายุ 47 ปีสามี กำลังช่วยกันเติมน้ำและเก็บต้นวัชพืชในบ่อคอนกรีตทรงกลม ที่ภายในปลูกข้าวจนต้นสูงชูช่อออกรวงสีทองสวยงาม
นางปองกานต์ เปิดเผยว่า พื้นฐานดั้งเดิมของครอบครัวเป็นชาวนาที่ปลูกข้าวไว้กินและขายให้กับโรงสี แต่ด้วยทางบ้านต้องการให้มีการศึกษาที่ดี ไม่ต้องมาก้มหน้าทำนาด้วยความยากลำบาก จึงส่งตนเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จนกระทั่งเติบโตและมีหน้าที่การงานที่ดีเป็นพนักงานในสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่การใช้ชีวิตในสังคมเมืองที่มีความเร่งรีบ ภาวะความกดดันสูง รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีแต่สารพิษ
ทำให้ตนและคนในครอบครัวหันกลับมามองชีวิตว่าต้องการอะไร จนค้นพบว่าการมีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกมากนั่นคือคำตอบ จากนั้นจึงกลับมาปลูกบ้านพักบนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ แล้วทำการเกษตรแบบผสมผสาน ทั้งปลูกมะนาว พริก มะละกอ รอบบริเวณบ้าน พร้อมกับขุดบ่อกักเก็บน้ำและใช้เวลาวันหยุดมาดูแล
“หลังจากที่ชาวนาต้องประสบปัญหาภัยแล้ง ไม่สามารถปลูกข้าวได้ แต่ราคาข้าวที่ชาวนาขายได้กลับตกต่ำ ในขณะที่ผู้บริโภคต้องซื้อข้าวขาวในราคาสูง แล้วทำไมเราไม่ลองปลูกข้าวไว้กินเองในครัวเรือนบ้างซึ่งนอกจากช่วยลดรายจ่ายแล้ว ยังสามารถกำหนดคุณภาพข้าวได้เอง จากนั้นก็เริ่มศึกษาวิธีการปลูกข้าว จึงตัดสินใจทดลองปลูกข้าวในบ่อคอนกรีตทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20 เมตร จำนวน 72 บ่อ โดยใช้พันธุ์ข้าวหอมมะลิจากจ.บุรีรัมย์” นางปองกานต์ เผย
นางปองกานต์กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนในการปลุกก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากการเพาะต้นกล้าให้ได้อายุ 60 วัน นำลงปลูกในบ่อคอนกรีตที่เตรียมดินผสมปุ๋ยคอก ซึ่งใช้ต้นกล้าข้าวประมาณ 20 ต้นต่อ 1 บ่อ หรือดูที่ความเหมาะสมไม่ให้หนาแน่นเกินไปเมื่อต้นข้าวแตกกอในอนาคต ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มปลูกจะต้องหมั่นใส่น้ำ เพื่อหล่อเลี้ยงข้าวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งข้าวออกรวงและสามารถเก็บเกี่ยวได้ใช้เวลาประมาณ 120 วัน หรือ 4 เดือน โดยข้าว 1 บ่อ สามารถให้ผลผลิตข้าวขาว 1 กิโลกรัม
รวมทั้งหมดตนจะได้ข้าวขาวประมาณ 72 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปีของครอบครัว ทั้งนี้จากการทดลองปลูกข้าวในบ่อคอนกรีต นางกานต์ เผยว่า ข้อดี คือความสะดวกและง่ายต่อการกำจัดวัชพืช ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี สามารถควบคุมปริมาณน้ำ และสารอาหารได้อย่างเหมาะสม ทำให้มั่นใจได้ว่าข้าวมีคุณภาพและปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์