สัมมนาเชิงปฏิบัติการ “อินทผลัม กินผลสดในเมืองไทย” ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจได้ มีตลาดรองรับ (ตอนที่ 1) ชมและชิมสวนอินทผลัมปรีชา ย่านชานกรุง

หลายปีก่อนหน้านี้มีน้อยคนที่รู้จักพืชอย่าง “อินทผลัม” หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่เพียงผลไม้ตากแห้งธรรมดาที่ส่งมาขายจากดินแดนอาหรับซึ่งไม่มีความพิเศษอะไร แต่ที่จริงแล้วเจ้าอินทผลัมนี้ นอกจากจะเป็นผลไม้ต่างถิ่นที่มีราคาค่อนข้างสูงแล้ว ยังคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพอีกด้วย

อินทผลัม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Date Palm และมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Phoenix dactylifera เป็นพืชในตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งแบบทะเลทราย โดยผู้ผลิตอินทผลัมรายใหญ่ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย แอลจีเรีย และประเทศในแถบอาหรับ ความสำคัญของอินทผลัมมักใช้บริโภคในเทศกาลสำคัญของชาวมุสลิม แต่ในระยะหลังพบว่าไม้ผลชนิดนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพจึงทำให้ตลาดผู้บริโภคเพิ่มกว้างมากขึ้นมาทันที

คุณปรีชานำชมผลผลิตในสวนรุ่นสุดท้าย

ที่ผ่านมาการบริโภคอินทผลัมของคนไทยมักอยู่ในรูปผลแห้งที่นำเข้ามาจากทางตะวันออกกลางซึ่งมีราคาสูงมาก โดยคนไทยพยายามปลูกอินทผลัมแบบผลแห้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากประสบปัญหาลักษณะภูมิอากาศต่างจากทางตะวันออกกลาง ดังนั้น การปลูกในเชิงพาณิชย์ที่ดีสำหรับประเทศไทยคือแบบกินผลสดเท่านั้น

แต่ปรากฏว่าข้อมูลในเชิงลึกของอินทผลัมน้อยมาก คนไทยที่สนใจส่วนมากมักปลูกตามกัน หรือบางคนค้นคว้าข้อมูลจากประเทศต้นทางเสียมากกว่า จึงทำให้การปลูกอินทผลัมของคนไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีลักษณะกระจัดกระจาย ได้บ้าง ล้มเหลวบ้าง

จนในท้ายสุดกลับพบว่าตอนนี้มีหลายสวนค้นหาความจริงของอินทผลัมอย่างแท้จริงได้สำเร็จ เป็นอินทผลัมรับประทานผลสดแบบไทยๆ จนบางรายก้าวหน้าไปถึงขั้นแปรรูปส่งออกมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จนเกิดเป็นความสนใจของผู้ปลูกรายใหม่ที่ต้องการเข้ามาแบ่งปันรายได้จากการจำหน่ายอินทผลัม

ลักษณะหลุมปลูกและระบบน้ำต้องสอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริงในแต่ละแห่ง

เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านได้จัดสัมมนาอินทผลัมขึ้น ซึ่งในฐานะไม้ผลที่คนไทยยังรู้จักกันน้อยมาก จึงทำให้มีผู้สนใจเข้ารับฟังข้อมูลกันเป็นจำนวนมากเพราะเป็นการให้ข้อมูลในเชิงลึกทั้งการปลูก การแปรรูป รวมถึงการตลาด

จวบถึงวันนี้อินทผลัมนับเป็นพืชไม้ผลที่คุ้นชื่อของคนไทยอยู่ไม่น้อย มีผลผลิตที่เป็นผลสดออกวางจำหน่ายหลายแห่ง หลายคนได้ชิมรสชาติแล้วต่างบอกตรงกันว่าอร่อย หวาน กรอบ มีประโยชน์ทางโภชนาการด้านสุขภาพ แม้ราคาขายผลสดยังสูง แต่สำหรับผู้ที่รู้จักอินทผลัมเป็นอย่างดีก็ยินดียอมจ่ายเพราะรู้ว่ามีให้รับประทานเพียงปีละครั้ง

นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านยังคงให้ความสำคัญกับอินทผลัมอยู่เหมือนเดิม แล้วมองว่าเมื่อคนไทยให้ความนิยมบริโภคอินทผลัมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หลายคนคิดว่าการปลูกอินทผลัมซึ่งขึ้นชื่อว่าต้นไม้ทะเลทรายจะเจริญเติบโตได้เฉพาะในพื้นที่ตามจังหวัดที่มีความเหมาะสม โดยไม่คิดว่าในพื้นที่เขตจังหวัดนนทบุรี รอยต่อกับมหานครอย่างกรุงเทพฯ ที่ถูกโอบล้อมรอบด้วยถนนตัดใหม่หลายเส้น พร้อมกับหมู่บ้านจัดสรร หลายโครงการจะมีสวนอินทผลัมขนาดใหญ่จำนวนหลายร้อยไร่ผุดขึ้นมาได้

ผู้บรรยายในสวนชี้ว่าผลผลิตต้องมีการตัดแต่งให้มีจำนวนพอเหมาะ

ดังนั้น ในปีนี้ (2561) นิตยสารเกษตรรายปักษ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดจึงจัดทริปสัมมนาเชิงปฏิบัติการในรูปแบบเสวนาสัญจรขึ้นที่ “สวนอินทผลัมปรีชา” ของ คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์ ที่จังหวัดนนทบุรี โดยชวนสมาชิกผู้อ่านจำนวนเกือบร้อยท่านไปบุกสวนพร้อมฟังข้อมูลการปลูก การดูแล ปัญหาที่ต้องรับมือ รวมถึงยังได้เข้าไปชิมผลอินทผลัมสดจากต้นชนิดบิดใส่ปากแล้วทุกคนต่างยอมรับว่ากรอบ อร่อย ไม่ฝาด อย่างที่คาด

ความจริงคุณปรีชาไม่ได้เติบโตมาในสายเกษตร แต่ด้วยบุคลิกและความเชื่อมั่นภายใต้หลักคิดตัวเองว่า “ทำอะไรก็ได้ถ้าตั้งใจทำแล้วจะประสบความสำเร็จ” จึงทำให้ชายวัย 80 ท่านนี้ล้วนแต่ประสบความสำเร็จในทุกอย่างที่ลงมือทำ

สมัยหนุ่มคุณปรีชาเป็นช่างตัดเสื้อ แล้วเปลี่ยนมาขายปุ๋ยและเคมีทางการเกษตร ต่อมาหันมาทำฟาร์มเลี้ยงเป็ด จากนั้นมาค้าขายที่ดินอยู่หลายปี แล้วมาจับที่ดินบริเวณที่เป็นสวนในปัจจุบันจำนวนกว่า 500 ไร่ กระทั่งหยุดทุกอย่างแล้วเบนเข็มมาด้านไม้ดอกไม้ไม้ประดับเพราะมีความชอบ ด้วยการสะสมต้นโป๊ยเซียน เฟื่องฟ้า แล้วยังเข้าไปคลุกคลีกับวงการ โดยรับตำแหน่งเป็นประธานชมรมโป๊ยเซียนแห่งประเทศไทย

อินทผลัมผลสดที่จัดใส่ถุง

จากนั้นเปลี่ยนมาเล่นชวนชมซึ่งเริ่มจากจำนวนน้อยก่อน ขณะเดียวกัน ค่อยเรียนรู้และทำความเข้าใจพันธุ์ไม้นี้อย่างดีจึงได้เพิ่มจำนวนพร้อมกับสร้างจุดเด่นความน่าสนใจของชวนชมให้มีหลายรูปแบบ ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด

บนเส้นทางไม้ดอกไม้ประดับ คุณปรีชายังมองเห็นช่องทางทำเงินอีกหลายชนิด และสิ่งที่เขามองต่อไปคือการเปลี่ยนชื่อของต้นลั่นทมมาเป็นลีลาวดี พร้อมไปกับการผลักดันไม้ชนิดนี้ให้เป็นไม้ประดับจึงทำให้คุณปรีชามาจับลีลาวดี โดยได้สร้างจุดเด่นและความน่าสนใจตรงที่ทำให้มีสีดอกจำนวนหลายสีเพื่อเป็นการสร้างมูลค่า ซึ่งได้ทำกว่าร้อยสี จนมีชื่อเสียงโด่งดังได้รับความนิยมจากบรรดาคนรักต้นไม้มาก และถือว่าเป็นสวนลีลาวดีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ

คุณปรีชานับเป็นรายแรกและรายใหญ่ของจังหวัดนนทบุรีที่ปลูกอินทผลัมขายผลสดและต้นพันธุ์ เขาชี้ว่าไม้พันธุ์นี้ปลูกไม่ยาก แต่คนปลูกควรเข้าใจให้ลึกซึ้งแล้วทุ่มเทเท่านั้น ทั้งนี้ รุ่นแรกที่ปลูกผ่านไปนับว่าประสบความสำเร็จดีแม้จะเป็นมือใหม่ แล้วย้ำว่าผู้ที่สนใจปลูกควรศึกษาหาข้อมูลในลึกซึ้งเสียก่อนลงมือปลูก เพราะไม่ต้องการให้ล้มเหลวอย่างหลายคนที่ผ่านมา

ต้นพันธุ์อินทผลัมคุณภาพที่พร้อมปลูก

คุณปรีชา บอกว่า การปลูกอินทผลัมควรเริ่มจากหาพื้นที่เหมาะสมทั้งคุณภาพดินและแหล่งน้ำ จากนั้นต้องหาพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาตัวเขาเองเคยผิดพลาดมาแล้ว ทั้งการเลือกพันธุ์และวิธีปลูกที่ดูในยูทูป ทั้งนี้ เดือนที่ปลูกไม่มีการระบุชี้ชัดคุณจะปลูกเดือนไหนสะดวกก็ได้ ส่วนเรื่องดินนั้นอินทผลัมชอบดินปนทราย ลูกรังปนทราย หรือดินเหนียวปนทรายก็ได้ สำหรับปริมาณการให้น้ำต่อต้นจะต้องดูจากเนื้อดินในแต่ละแปลงเป็นหลักเพราะไม่เหมือนกัน อย่างที่สวนจะให้น้ำครั้งละประมาณ 15 นาที

“ช่วงเริ่มปลูกให้ใช้ปุ๋ยตัวหน้าสูงอย่าง 25-7-7 หรือสูตรเสมออย่าง 16-16-16 ให้ใส่ทุก 15 วัน ครั้งละกำมือต่อต้น พอต้นมีขนาดใหญ่พร้อมจะให้ผลผลิตจะต้องปรับเป็นจำนวน 1 กิโลกรัมทุก 15 วัน แล้วจะใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วยก็ได้

แบบใส่กล่อง

ในกรณีที่เป็นดินปนทรายให้ขุดหลุมลึกไม่ควรเกินศอก ก้นหลุมจะใส่ปุ๋ยสูตรเสมอหรือไม่ก็ได้ แต่ควรรอให้รากเจริญเติบโตก่อนแล้วค่อยใส่ตาม แล้วไม่แนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอกชนิดใดเลยเพราะเสี่ยงต่อด้วงที่จะลงไปวางไข่ แล้วก่อนมีดอกในราวเดือนธันวาคมและเดือนมกราคมจะใส่ปุ๋ย 8-24-24 ทั้งนี้ ต้นที่ปลูกและดูแลอย่างดีจะให้ดอกเมื่อประมาณ 2 ปี”

คุณปรีชา บอกว่า การปลูกอินทผลัมในแต่ละพื้นที่มีคุณภาพดินต่างกัน อย่าไปนำความสำเร็จของสวนคนอื่นมาเป็นบรรทัดฐาน เนื่องจากสภาพกายภาพของแต่ละพื้นที่มีความต่างกัน ดังนั้น ลักษณะการปลูกถ้าพื้นที่เป็นดินเหนียวควรปลูกแบบกระทะคว่ำหรือยกโศก แต่ถ้าเป็นดินทรายควรทำเป็นแอ่ง

ผู้บรรยายในสวนชี้ว่าผลผลิตต้องมีการตัดแต่งให้มีจำนวนพอเหมาะ

“สำหรับพื้นที่ปลูกที่คาดว่าน้ำจะท่วมแน่ควรจะปรับให้มีขอบคันดินกั้นสูงขึ้นมาในลักษณะรูปโดนัท ขณะเดียวกัน แนวทางนี้จะช่วยเก็บกักปุ๋ยให้อยู่ในบริเวณจำกัด อีกทั้งพื้นที่ปลูกต่างกันจะให้ผลผลิตไม่ตรงกัน อย่างถ้าปลูกภาคเหนือและภาคกลางจะพบว่าทางภาคกลางจะให้ผลผลิตก่อน เพราะทางเหนือเจอหนาวเลยทำให้สุกช้า”

สำหรับการดูแลผลผลิตคุณปรีชาบอกว่าควรห่อผล ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ละเลยไม่ได้ อีกทั้งผลที่ห่อยังต้องคอยหมั่นตรวจสอบดูข้างในทุก 10 วัน เพราะบางผลอาจเน่าต้องดึงออก การห่อผลจะเริ่มหลังผสมเกสรแล้วประมาณ 2 เดือน โดยจะห่อถึง 2 ชั้น ให้ชั้นในเป็นกระดาษ ส่วนชั้นนอกเป็นถุงเขียว แต่สบายใจได้อย่างหนึ่งเนื่องจากอินทผลัมเป็นไม้ผลที่แมลงวันทองไม่เจาะผล เพราะเปลือกแข็ง ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเลย ส่วนผลที่เสียหายจะนำไปแปรรูป

“ทางด้านการผสมเกสรสมัยนี้ง่าย สะดวกมาก ไม่ว่าจะปลูกพื้นที่มาก-น้อยก็มีอุปกรณ์ไว้ช่วย อย่างที่สวนของผมก็ใช้ที่ผสมเกสรแบบชนิดหลอด แต่ถ้าเป็นสวนขนาดใหญ่มากอาจต้องใช้เป็นเครื่อง ต้องบอกว่าการผสมเกสรของอินทผลัมมีโอกาสติดง่าย ถ้าช่วงไหนมีลมแรงอาจต้องใช้ถุงมาบังลมเพื่อช่วยให้การผสมเกสรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วการผสมเกสรสามารถทำได้ตลอดทั้งวันตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ เหตุผลที่ต้องผสมเกสรเพราะอินทผลัมเป็นพืชที่มีทั้งต้นตัวผู้และตัวเมีย สำหรับท่านที่ปลูกจำนวนมากกว่า 50 ต้นควรเก็บเกสรตัวผู้ไว้ ขณะที่ต้นตัวผู้จากเนื้อเยื่อก็มี ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์จาวีช บาฮี ฯลฯ”

เจ้าของสวนอินทผลัมชี้ว่า ในกรณีที่ต้นตัวเมียมีเกสรออกก่อนตัวผู้ จะต้องไปหาซื้อเกสรตัวผู้มาผสม โดยใช้เกสรตัวผู้สัก 1 ช้อน ก็สามารถใช้กับต้นตัวเมียได้จำนวนมาก ซึ่งวิธีใช้เกสรตัวผู้จะต้องใช้เกสรตัวผู้ 1 ช้อน ผสมกับแป้งทานคั่มหรือแป้งเด็กจำนวน 5 ช้อน

คุณแม่สดใส

“ที่สวนของผมผสมเกสรติดทุกต้นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ต้นเนื้อเยื่อก็จะได้เท่านี้ เคยได้ยินพูดว่าสามารถผสมติดถึง 100 เปอร์เซ็นต์นั้นคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนเวลาผสมเกสรที่เหมาะที่สุดคือช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นหรือหลังน้ำค้างแห้งแล้ว”

ส่วนโรคที่พบคุณปรีชาชี้ว่ามักเจอในช่วงรอยต่อฤดูอย่างปลายฝนต้นหนาว หรือปลายหนาวต่อร้อน มักพบโรคราสนิม ซึ่งถ้าพบแล้วต้องรีบฉีด แต่ถ้าไม่พบไม่จำเป็นต้องฉีดเพราะต้องการให้ต้นอินทผลัมมีความสมบูรณ์ และการทำให้มีความสมบูรณ์จะต้องเริ่มต้นจากการดูแลให้ดีทั้งเรื่องดิน ปุ๋ย และน้ำในทุกระยะการปลูก แต่ในกรณีที่พบว่ามีศัตรูพืชมาเจาะต้นควรใช้สบู่ซันไลต์ฟลาวเวอร์มาราดต้นให้ไหลลงดิน

สำหรับเรื่องที่หลายคนกังวลใจว่าจะไปขายให้ใคร ที่ไหน ขอบอกว่าอย่าไปกังวลเพราะอินทผลัมยังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศ อย่างที่สวนของผมผลิตไม่พอขาย แถมยังมีออเดอร์ล่วงหน้าด้วย สิ่งที่พวกท่านควรกังวลมากที่สุดคือทำอย่างไรให้ผลผลิตมีคุณภาพสมบูรณ์เต็มที่

ขณะนี้ที่สวนมีต้นพันธุ์จำหน่าย เป็นต้นที่มีขนาดนำไปปลูกได้ทันทีในราคาตั้งแต่ 2,000-3,500 และ 5,000 บาท ส่วนราคาจำหน่ายผลผลิตที่สวนกิโลกรัมละ 500-600 บาท

“การปลูกอินทผลัมไม่ได้ยากอย่างที่คิด อีกทั้งเป็นพันธุ์ไม้ที่ดูแลง่าย ทนทาน แข็งแรง ขอเพียงให้ผู้ปลูกใส่ใจอย่างใกล้ชิดเท่านั้น ปลูกได้นานหลายสิบปี ใครที่คิดจะเริ่มปลูกบอกได้เลยว่าเป็นพืชที่น่าสนใจ ตลาดยังรองรับได้มาก การลงทุน อาจสูงในช่วงแรกเพราะต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ปลูก แต่หลังจากนั้นใช้เงินน้อยลง จนได้ผลผลิตแล้วจึงเริ่มคืนทุน” คุณปรีชา กล่าวในตอนท้าย

สำหรับท่านที่พลาดโอกาส ยังสามารถเดินทางไปชมสวนอินทผลัมปรีชาได้เอง แล้วยังมีอินทผลัมสดไว้จำหน่ายหลายรูปแบบทั้งซื้อเป็นกิโลหรือแบ่งใส่ถุง รวมถึงยังมีแบบแปรรูปเป็นอินทผลัมแห้งและน้ำอินทผลัมด้วย

สวนอินทผลัมปรีชา อยู่ไม่ไกลแค่นนทบุรีใกล้กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ (081) 309-6086 หรือติดตามใน fb: สวนอินทผลัมปรีชา Date Palm Preecha Garden