กำจัด “ราดำ” บนผิวลองกอง ลดต้นทุน เห็นผลจริง ผู้บริโภคปลอดภัย

จากประสบการณ์ของเกษตรกร ผู้ได้รับการยอมรับด้านการเกษตร ผู้ผลิตผลไม้ “ลองกอง” ที่มีชื่อเสียงในแถบพื้นที่ภาคตะวันออก อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี กับเทคนิคการกำจัด “ราดำ” บนผิวผลของผลไม้ ประเภท “ลองกอง” ให้หมดไป

“ราดำ” ตัวการสำคัญที่ทำให้ลูกผลของลองกองไม่สวย ไม่น่ารับประทาน และไม่เป็นที่ปรารถนาของผู้บริโภค  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลองกองท่านนี้  คิดหาหนทางที่จะไม่ใช้สารเคมีที่ก่อผลกระทบต่อผู้บริโภค และประหยัดต้นทุนในการกำจัด “ราดำ” บนผลลองกองโดยปลอดสารเคมี

คุณธีรเชษฐ์  บำรุงรักษ์ เกษตรกรในพื้นที่ตำบลฉมัน  ผู้ถือได้ว่ามีประสบการณ์และมีเทคนิคในการดูแลพืชผลทางการเกษตรให้เป็นผลไม้ที่ปลอดภัย อีกทั้งเพื่อประหยัดต้นทุนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกอีกทางหนึ่ง

ด้วยประสบการณ์ด้านการเกษตร มากว่า 20 ปี ครูธีรเชษฐ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ครูแดง” อดีตข้าราชการครู ที่ผันตัวเองมาทำสวนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เล่าว่า ขณะนี้ชาวสวนผลไม้ตระหนักดีถึงการผลิตผลไม้ปลอดภัยหรือที่เรียกกันว่า “ผลไม้อินทรีย์” ที่ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญกับผู้บริโภค ที่จะได้รับประทานผลไม้ที่ปลอดภัย ห่างไกลจากสารพิษ เนื่องจากในอดีตพี่น้องชาวสวนเรามุ่งเน้นการใช้สารเคมี  ยาฆ่าแมลง ประกอบในการทำการเกษตรกันอย่างมาก แต่เมื่อกระแสของการใส่ใจสุขภาพเป็นที่ประจักษ์ชัดขึ้น  ชาวสวนเราก็ต้องตระหนักถึงผลที่จะกระทบกับผู้บริโภคให้มากขึ้นเช่นกัน

หากจะพูดถึงการทำสวนผลไม้ “ลองกอง” กับการใช้สารเคมีแล้วนั้น  ต้องบอกว่า สิ่งสำคัญที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ การใช้สารเคมี ฆ่าแมลง “ราดำ” ที่มักจะมาเกาะที่ผิวของผลลองกอง ทำให้ผิวลองกองมีสีดำคล้ำ ไม่สวย ไม่ได้ราคา ที่สำคัญเมื่อผู้บริโภคเห็นจะไม่เลือกซื้อ ทำให้ชาวสวน ต้องทำการกำจัด “ราดำ” ให้มีน้อยที่สุดหรือให้หมดไปจากผิวผลของลองกอง โดยต้องเริ่มกำจัดตั้งแต่ระยะที่ลองกองเริ่มเป็นลูกอ่อน จนกระทั่งแก่เต็มที่

เชื้อราดำนี้จะเข้ามาเกาะทั่วผิวของผลลองกอง  ตั้งแต่ลองกองเริ่มเป็นลูกอ่อนกระทั่งระยะที่ผลแก่จัดถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ด้วยเหตุนี้ ทำให้ชาวสวนต้องใช้สารเคมีในการกำจัดไม่น้อยกว่า 3-4 ครั้ง ต่อช่วงฤดูกาลออกผล ฉะนั้นสารเคมีที่ใช้จะกำจัด “ราดำ” จะสะสมในผิวของผลลองกอง และอาจซึมสู่เนื้อ กลายเป็นสารพิษตกค้างกระทบต่อผู้บริโภคไม่น้อยเช่นกัน ที่สำคัญเกษตรกรผู้ปลูกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการซื้อยากำจัด “ราดำ” ให้หมดสิ้นไป

แต่ครูแดง เกษตรกรผู้คิดค้น  วิธีการกำจัด “ราดำ” บนผิวลองกอง ที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมี เริ่มจากการสังเกตว่า “ราดำ” ที่มาเกาะผิวลองกองนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร

“ราดำมาเกาะผิวลองกองเพราะต้องการมาหากินน้ำหวาน หรือมาเพราะความหอมหวานที่ก่อเกิดขึ้น เมื่อลองกองเริ่มเป็นผลอ่อนและจะเข้ามาเกาะกินน้ำหวานที่ผิวลองกอง มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลลองกองเริ่มโตเต็มที่ จนกระทั่งถึงระยะที่ผลแก่จัด ถือได้ว่า “ราดำ” เข้ามาตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นลูกอ่อนขนาดเท่าหัวไม้ขีด และเพิ่มจำนวนมากขึ้น เมื่อผลลองกองเริ่มมีเนื้อ  มีน้ำหวานออกจากผล

ดังนั้นจึงมีการทดลองนำน้ำมาฉีดที่ผลลองกองในระยะที่ “ราดำ” เริ่มเกาะตั้งแต่ในระยะแรก ผลปรากฏว่า “ราดำ” หลุดออกจากเปลือกผลลองกอง

ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดความคิดที่จะใช้แรงของน้ำ ช่วยในการชะล้างเจ้า “ราดำ” ที่ทำลายความสวยงามของผิวลองกองให้สิ้นไปโดยไม่พึ่งพาสารเคมี

ครูแดง จึงเริ่มกระบวนการคิดประดิษฐ์เครื่องมือ โดยต่อระบบน้ำด้วยท่อพีวีซีไว้บริเวณกลางลำต้น โดยใช้ความสูงของท่อ เกือบเท่ากับความสูงของต้นลองกอง หรือสูงเกือบถึงปลายต้น  ในการกะระยะต้องให้สูงกว่าช่อดอก ช่อผล ที่อยู่สูงที่สุดของต้นลองกองในต้นนั้นๆ แล้วเริ่มใช้วิธีการให้น้ำในระบบนี้  ตั้งแต่เริ่มมีการติดลูกอ่อนจนกระทั่งเก็บผลผลิตได้

วิธีนี้ทดลองแล้วได้ผลจริง แรงดันของน้ำที่ออกตามหัวเหวี่ยงสปริงเกลอร์ จะกระทบผิวผลของลองกองในแต่ละช่อพวงและจะชะล้าง “ราดำ” ตัวร้ายให้หลุดไปอย่างน่ามหัศจรรย์ อีกทั้งถือได้ว่าเป็นให้น้ำแก่ต้นไม้ด้วยอีกทาง

ครูแดง กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ที่สำคัญต้องประเมินจำนวนการติดตั้งหัวน้ำเหวี่ยงสปริงเกลอร์ ว่าจะต้องใช้กี่หัวเหวี่ยงต่อ 1 ต้น  โดยต้องคำนึงถึงขนาดทรงพุ่มของต้นลองกอง เพื่อให้การกระจายของน้ำไปโดยรอบทิศทางที่มีการออกลูกผลของลองกอง หากต้นลองกอง ขนาดเล็ก – ปานกลาง ควรติด 1-2 หัวเหวี่ยงสปิงเกลอร์ แต่หากต้นลองกองใหญ่ อาจต้องติดถึง 3 หัวเหวี่ยงสปิงเกลอร์  เพียงเท่านี้เกษตรกรก็จะประหยัดต้นทุน ไม่ทำลายธรรมชาติ ปลอดสารเคมี  ผลผลิตลองกอง ของท่านก็จะปลอดภัยด้วย “อินทรีย์ ออแกนิค (Organic Organic)” อย่างแน่นอน

วัสดุอุปกรณ์

1.ท่อPVC ขนาด 6 หุน ความยาวเท่ากับเศษ 3 ส่วน 4 ของความสูงของต้นลองกอง

2.ข้องอ ขนาด 90 องศา

3.ต่อตรง

4.ข้อต่อแยก 3 หัว

5.หัวเหวี่ยงสปริงเกลอร์ 3 อัน