ไม้ขุดล้อมสีหนุการ์เด้น ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

ตลาดต้นไม้ในบ้านเรา หากเป็นไม้ขุดล้อม ที่หนึ่งไร้เทียมทาน ต้องที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่นี่ พื้นที่การผลิตมีกว่า 5,000 ไร่ ชนิดของไม้มีให้เลือกมากมาย สำหรับขนาดมีให้เลือกตั้งแต่เท่านิ้วมือ ไปจนถึง 2-3 คนโอบ

คนในพื้นที่บอกว่า พื้นดินโล่งแจ้ง สามารถทำให้เป็นป่าใหญ่ได้ภายในวันเดียว ด้วยไม้ขุดล้อมของชาวตำบลชะอม ซึ่งก็เป็นอย่างคำที่เขาพูดจริงๆ

ราวๆ ต้นฝนของทุกปี มีงานมหกรรมไม้ขุดล้อมขึ้นที่ตำบลชะอม ผู้ริเริ่มคืออดีตนายอำเภอแก่งคอย ท่านธวัช สุระบาล

“ปลูกต้นไม้ วันเดียว…โต ไป..ชะอม แก่งคอย”  คือสโลแกนของการจัดงานไม้ขุดล้อม

งานปลูกไม้ขุดล้อมที่ตำบลชะอม มีมานานแล้ว แรกเริ่มเดิมที มีหน่วยงานของเอกชนเข้าไปส่งเสริมให้ปลูก แต่ปรากฏว่า มีข้อขัดข้องบางประการ ชาวบ้านที่ปลูกอยู่ จึงหาทางช่วยเหลือตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการตลาด จนต่อมาไม้ขุดล้อมที่ตำบลนี้เป็นที่ยอมรับของผู้ซื้อ รายนามผู้ปลูกยุคเริ่มต้นได้แก่กำนันสมชาติ พึ่งทรัพย์ คุณพยุง เชียงทอง คุณสายบัว พาศักดิ์ และเกษตรกรท่านอื่นอีกจำนวนหนึ่ง

“สีหนุการ์เด้น” เป็นผู้ปลูกไม้ขุดล้อมรุ่นกลางๆ รวมระยะเวลาที่ดำเนินงานมาอยู่ที่ 10 ปี เจ้าของคือคุณนุกูล คุณบุปผา ธรรมมา อยู่บ้านเลขที่ 87/1 หมู่ 8 ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี 18110

เปลี่ยนจากพืชไร่

เป็นไม้ขุดล้อม  

คุณนุกูลและคุณบุปผา สามี-ภรรยา ประกอบอาชีพเดิมทางด้านการปลูกพืชไร่  อาทิข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง พืชเหล่านี้ ให้ผลผลิตเร็ว ปลูกราว 3-4 เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว แต่ราคาค่อนข้างผันผวน อย่างปีใดที่ผลผลิตข้าวโพดโดยรวมของประเทศมีน้อย ราคาค่อนข้างสูง ผู้ปลูกพอยิ้มได้ จากนั้นก็จะผลิตกันมาก เมื่อผลผลิตมีมาก ราคาก็ตกต่ำ

มันสำปะหลังก็คล้ายๆ กัน

ให้สามีและภรรยาคู่นี้ปลูกมันสำปะหลังและข้าวโพด ทั้งคู่อยู่ได้แน่นอน เพราะคนอีกจำนวนมากยังอยู่ได้ แต่เพราะมีทางเลือก มีตัวอย่าง คุณนุกูลและภรรยา จึงทดลองปลูกไม้ขุดล้อม ตามที่คนอื่นปลูก ถึงแม้จะเป็นผู้ปลูกรุ่นกลางๆ แต่ถือว่า สีหนุการ์เด้นประสบความสำเร็จไม่น้อย จากผลิตครั้งแรก 2 ไร่ ปัจจุบันมีปลูกอยู่ราว 100 ไร่

“ทำมา 10 ปีแล้วครับ ก่อนหน้านี้ทำไร่ข้าวโพด มันสำปะหลัง ล่าสุดสวนกล้วยน้ำว้า ผมรุ่นกลางๆ รุ่นแรกๆ …พี่สายบัว รุ่นพี่สุวิทย์ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วรุ่นสุดท้าย หมายถึงค่อนข้างเปลี่ยนแปลง คือหันไปปลูกมันสำปะหลัง  ต้นไม้หากไม่ผลิตแบบครบวงจรคือปลูก จำหน่ายเอง จะอยู่ลำบากนิดหนึ่ง  ของผมทำ 100 ไร่ เริ่มแรกเอาแน่นอนไม่ได้ พวกพ้องทำ ก็ทำตามเขาไป เช่นเดียวกันต้นไม้ ผมเริ่ม 2 ไร่ เป็นอาชีพใหม่ ไม่กล้าจะลงทุนอะไร จากนั้นการตลาดดี จึงทุ่มเทเต็มที่ ของผมครบวงจร ปลูกเอง ขายเอง จัดส่งให้ ปลูกให้ พันธุ์ไม้ไม่ค่อยเปลี่ยน ครั้งแรกทำประดู่ แต่โตมาหน่อยมีปัญหาเรื่องโรคแมลง ก็เลยปลูกหลายๆอย่าง  ตลาดต้องการอะไรขุดขึ้นมาขายได้  ตอนนี้ มีกว่า 10 ชนิด มะฮอกกานี อินทนิล ปีป ประดู่ ทองกวาว พญาสัตบรรณ ตีนเป็ดน้ำ ประดู่แดง ราชพฤกษ์ จำปี ปาล์มต่างๆ ดีที่สุดเป็นไม้ไม่ทิ้งใบช่วงฤดูแล้ง มะฮอกกานีดูดี ไม้ใหญ่ส่งนอกได้” คุณนุกูลบอก

แหล่งกล้าไม้อยู่อำเภอภาชี

แนวทางการผลิตของคุณนุกูลนั้น คล้ายคนอื่น คือไปซื้อกล้าไม้จากอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอภาชีมีเกษตรกรเพาะกล้าไม้จำหน่ายมืออาชีพ สนนราคากล้าละ 1.50-2 บาท เป็นที่รู้กันว่า เพาะกล้าไม้อะไรแล้วขายได้

อย่างมะฮอกกานี คุณนูกูลให้ข้อมูลว่า แหล่งเมล็ดพันธุ์อยู่แถบตลิ่งชัน กรุงเทพฯ แต่คุณนุกูลไม่ได้ตระเวนไปหาเมล็ดมาเพาะเอง หน้าที่ เป็นของคนภาชี

เหตุที่ชาวชะอมไม่นิยมเพาะกล้าไม้เองนั้น  หนึ่ง…ไม่มีความชำนาญ สอง…สถานที่ไม่เหมาะสม…สามปัจจัยเรื่องน้ำไม่เพียงพอ อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากนั้น เป็นการแบ่งงานแบ่งอาชีพกันทำ พูดแบบชาวบ้านก็คือ “ไม่กินทั้งขี้ทั้งขน”

พื้นที่ดิน 1 ไร่ กว้าง 40 เมตร ยาว 40 เมตร รวมแล้ว 1,600 ตารางเมตร สามารถปลูกต้นไม้ลงไปได้ ทุกตารางเมตร นั่นหมายถึงพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกต้นไม้ได้ 1,600 ต้น เวลาผ่านไปราว 1 ปี ต้นไม้บางชนิดจำหน่ายได้ต้นละ 50 บาท หากขายได้หมดเป็นเงิน 80,000 บาท หากขายไม่ได้ เวลาผ่านไปเป็นปีที่ 2-3 อาจจะขายได้ต้นละ 100 บาท แต่ไม่แน่เหมือนกัน บางคราวหากผลิตกันมากๆ ราคาอาจจะลดต่ำลงเหลือต้นละ 20-30 บาท ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส

คุณนุกูลบอกว่า ตนเองปลูกไม้ขุดล้อมจำหน่ายมากมายหลายชนิด แต่ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันได้แก่มะฮอกกานี อินทนิล ประดู่ ทองกวาว พญาสัตบรรณ ตีนเป็ดน้ำ ประดู่แดง ราชพฤกษ์ จำปี เหลืองปรีดิยาธร ปีป เป็นต้น

ความนิยมของต้นไม้ ของผู้ปลูก ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย อย่างเช่นขณะที่หางนกยูงฝรั่งออกดอกดี ช่วงนั้นคนจะวิ่งหาหางนกยูงฝรั่ง หรืออินทนิลบานมากๆคนก็ซื้ออินทนิลไปปลูก

ไม้ขุดล้อมยังมีอนาคต

ปลูกและจำหน่ายกันมานาน สำหรับไม้ขุดล้อมที่ตำบลชะอม

นอกจากปลูกกันที่ตำบลชะอมแล้ว ยังมีขยายไปตำบลอื่นของอำเภอแก่งคอย รวมทั้งเลยไปทางเขตอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายกอีกเล็กน้อย

จากประสบการณ์ที่ทำมานาน คุณนุกูลบอกว่า ไม้ขุดล้อมยังไปได้

ผมมีลูกน้อง 10 คน ไม่มีหยุด ทำได้ตลอดปี บางครั้งต้องทำกลางคืนกัน ยังเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้ดี คนที่อื่นอยากทำ…ผมว่าน่าจะทำได้ ไม้ขุดล้อมแหล่งใหญ่อยู่ชะอม แหล่งรองลงมาอยู่ท่ามะเขือ กำแพงเพชร หรือไม้หอมอยู่ดงบัง ปราจีนบุรี ไม้ถุงอยู่องครักษ์ นครนายก ถ้าเกิดใหม่ทำได้ ผมเคยพูดว่าชะอม ไม่เคยมีอยู่ในสารระบบว่าจะมีไม้ใหญ่ไม้เยอะๆอยู่ในประเทศไทย ไม่น่าจะมีก็เกิดได้ ก็เหมือนทั่วๆไป แต่โชคดี อาจจะใกล้กรุงเทพฯ ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างเช่นการคมนาคมสะดวก เขาต้องเลือกที่นี่ สระบุรีเป็นศูนย์กลาง ที่จะไปอิสาน กลาง ใต้ หากไปอยู่ทางเชียงใหม่จะไปภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ โอ้โฮไปยากเหมือนกัน” คุณนุกูลให้แง่คิด

การตลาด

และคำแนะนำในการดูแลต้นไม้

เส้นทางจากอำเภอแก่งคอย สระบุรี มุ่งสู่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก จะผ่านตำบลชะอม แหล่งไม้ขุดล้อมที่ใหญ่สุดในประเทศไทย

ผู้ที่จำหน่ายต้นไม้อยู่ริมถนนใหญ่ จำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง

คุณนุกูล อยู่ลึกเข้าไปในหมู่บ้านราว 2-3 กิโลเมตร แต่เจ้าตัวยังจำหน่ายต้นไม้ได้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้าของมีการปรับตัว เปิดตัวต่อสาธารณะ รวมทั้งทำแบบครบวงจร ตั้งแต่ปลูกเอง จนรับปลูกให้กับผู้ซื้อ

“ปีหนึ่งๆ มีนักศึกษามาดูงาน อย่าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เราก็ให้ข้อมูล มหาวิทยาลัยยูท่าห์ สหรัฐอเมริกามาผมก็เป็นวิทยากร …สิงคโปร์ซื้อ

ไปตู้ละต้นคอนเทนเนอร์ เป็นไม้ใหญ่ รถมาที 30-40 คัน ตลาดต่างประเทศมีอินเดีย ดูไบ สหรัฐอาหรับอิมิเรตต์  การซื้อขายเป็นเรื่องปกติ ล้างราก ที่ไม่มีปัญหาเลยคือจีน ไม้ 4 นิ้ว ก่อนโอลิมปิคซื้อไปมาก งานใหญ่สุดเคยซื้อมากสุด 2 ล้านบาท รายอื่นๆก็ 2-3 แสนบาท ถ้าให้ปลูก คิดค่าแรงต้นละ 50 บาท ต้นขนาดไม่ใหญ่ คือบวกค่าขุดหลุมค่าค้ำยัน”

คุณนุกูลบอก และเล่าต่ออีกว่า

“ทำต้นไม้ต้องมีทุนบ้าง ใจสู้ เพราะว่าบางครั้ง 2 ปีปลูกอยู่กับดินจึงขายได้  ตอนนี้ปากช่องมาซื้อมาก ต่างประเทศมาซื้อเรื่อยๆ ไปตะวันออกกลางมาเรื่อยๆ…สรพงศ์ ชาตรี มาซื้อต้นไม้ที่นี่ …เสียมของชาวชะอม ทำหน้าที่ทั้งเสียมและขวาน ผลิตที่นี่ที่เดียว ทำจากเหล็กแหนบ มีช่างอยู่ เดี๋ยวนี้ ราคา 550 บาท เมื่อก่อน 200 บาท ที่เราทำมาผมขายปีละกว่า หมื่นต้น ราคา 50 บาท ถูกสุด ใหญ่สุด 1.8 หมื่นบาท เขานำไปปลูกเอง มีโอกาสตายค่อนข้างเยอะ บางคนไม่รู้ มีแบ็คโฮ ปลูกลึกตาย จริงๆแล้ว ปลูกแค่มีสะแลนดำๆเท่านั้นจะไม่ล้ม ปลูกลึก 3-5 เดือนตาย เมื่อเขาซื้ออธิบายให้เขาทราบ ขุดหลุมลึกขุดเท่านี้นะ รดน้ำ กรณีที่ตายมี”

คุณนุกูลบอกว่า กรณีที่ต้นไม้ตายมีสาเหตุมาจาก

หนึ่ง…ขุดหลุมลึกเกินไป

สอง….น้ำขาด

สาม…น้ำมากเกินไป พื้นดินกรุงเทพฯมีปัญหาเรื่องน้ำมากเกิน กรุงเทพฯดินเหนียวน้ำซึมผ่านยาก ไม่รดน้ำ น้ำขาดก็ตายได้

วิธีการรักษา รดน้ำไม่มากหรือน้อยเกินไป อาจจะเว้นวัน ช่วงแรกๆถี่หน่อย จากนั้นอาทิตย์ละครั้ง ปลูกต้นไม้ควรต้นฤดูฝนเดือนมีนาคม เพราะว่าต้นไม้บ้านเราไม่สู้หนาว กันยายน น้ำมากเกินไป

ไม้ตำบลชะอมมีคุณภาพ

คุณนุกูลอธิบายว่า ลมเมืองไทยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ถึงปลูกด้วยเมล็ดก็มีโอกาสล้ม  ไม้ที่ตนปลูกมีล้มบ้าง แต่ส่วนใหญ่รากก็ขยายออก เพื่อความอยู่รอดของต้นไม้  ดูแลดีเกินไปต้นงาม อาจจะล้มได้ ดังนั้นปีสองปีแรกอย่าดูแลดีจนเกินไป ปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติบ้าง อย่าเร่งมากนัก

“คนที่เลือกไม้ฉลาด…เขาเลือกไม้แคระแกร็น เลือกอย่างนั้น เพราะผ่านการอดทนมาก่อน เมื่อปลูกลงดินมีโอกาสรอดมาก เลือกสวยๆมีโอกาสตาย…สินค้าที่ชะอมดีอย่างไร…ปลูกแล้วโตเร็ววันเดียว ดูแลรักษาง่าย สู้ไฟได้ ใครจะถอยรถเหยียบเห็น ปลูกกล้าเล็กๆตายง่าย หากปลูกด้วยต้นเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้วดูแลรักษาง่าย โอกาสรอด 80 เปอร์เซนต์ หากปลูกด้วยกล้าเล็กๆโอกาสตาย 80 เปอร์เซนต์ ตรงกันข้ามเลย ไม้ขุดล้อมให้ร่มเงาได้ดี…เร็ว ปรับภูมิทัศน์ได้สวย  ไม่ค่อยมีใครพูดถึงการใช้สอยไม้ที่ปลูก แต่ไม้บางอย่างใช้สอยได้ อย่างมะฮอกกานี ผมแนะนำ อย่างอื่นตะเคียน  มะฮอกกานียุโรปทำด้ามปืน ทำพื้นบ้าน เป็นผลพลอยได้จากการปลูกเพื่อความสวยงาม ที่โรงพยาบาลสระบุรีมีอยู่ต้นหนึ่ง ตั้งแต่สมัยนายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช ปลูกตั้งแต่ ปี 2510-2511 เดี๋ยวนี้ 3 คนโอบ ต้นนั้นมโหฬารเลย ตรง…สวยมาก  มีที่ว่างปลูกไว้ ใครปลูกไว้ ตอนนี้อายุ 30-40 ปี มีโอกาสได้ใช้ กระถินเทพาก็ดี มีคน ส่งเนื้อไม้ไปที่จังหวัดแพร่ ผมก็ปลูกไว้ดีกว่าปล่อยให้รกร้าง”คุณนุกูลบอก

ผู้สนใจเรื่องของไม้ขุด ถามไถ่กันได้ที่คุณนุกูล คุณบุปผา ธรรมมา ตามที่อยู่ หรือโทร.086-1270259, 081-9822991 และ081-9473406