บอนสี เป็นไม้ใบที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ซึ่งได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ลูกผสมใหม่ๆ ขึ้นมา ในแต่ละปีที่มีการจัดประกวดบอนสี จะช่วยให้ผู้เลี้ยงบอนสีปรับตัวเองด้วยการสร้างพันธุ์แปลกใหม่ขึ้น การทำเป็นการค้าสำหรับบอนสีถือว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ต้องใส่ใจพอสมควร โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ที่บอนสีจะพักตัวโดยทิ้งใบ ไม่สร้างใบใหม่ ใบเดิมเหี่ยวแห้งลง มีแต่กระถางปลูก เหลือแต่หัวใต้ดินเท่านั้น ทำให้ผู้เลี้ยงทั่วไปคิดว่าไม่ทนทาน ตายง่าย ไม่สวยงามเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ

วิธีการเลี้ยงบอนสีให้มีใบตลอดปี โดยในช่วงฤดูหนาวต้องเลี้ยงบอนสีในตู้อบ วิธีง่ายๆ โดยใช้ไม้ระแนงมาต่อเป็นโครงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 1.20 เมตร ยาว 2.50 เมตร ด้านบนทำเป็นหลังคาหน้าจั่วเพื่อป้องกันน้ำขัง ให้หลังคาสูงสัก 15-20 เซนติเมตร แล้วกรุด้วยพลาสติกใส จะได้ตู้อบบอนสีไว้พักเลี้ยงและไว้อบขยายพันธุ์บอนสีได้อย่างดี

สำหรับบอนสีที่จะนำเลี้ยงในตู้อบ ต้องมีภาชนะใส่น้ำเพื่อไว้รองก้นกระถางบอนสีไว้ด้วย โดยใส่น้ำให้มีความสูงจากก้นภาชนะที่ใช้รองกระถางบอนสีสัก 2-3 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 นิ้ว ทำอย่างนี้แล้วบอนสีจะไม่พักตัว จะแตกใบใหม่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อผ่านเดือนมกราคมให้นำบอนสีออกมาวางในโรงเรือนหรือด้านนอกได้ตามปกติ

การเตรียมดินปลูก แนะนำให้ใช้ดินร่วนผสมกับใบก้ามปูหรือใบทองหลาง อัตราส่วนผสมคือ 20 : 80 เปอร์เซ็นต์ และใส่ปุ๋ยขี้วัว 1 ช้อนกลาง/กระถาง จะทำให้บอนสีสวยงาม ก้านใบแข็ง ใบใหญ่ พวกศัตรูที่พบมีเพลี้ยแป้งสีเทาออกดำที่มดดำเป็นพาหะนำมา จึงต้องวางลูกเหม็นไว้รอบๆ ตู้อบ และโรงเรือน

ปกติบอนสีที่จะส่งเข้าประกวดได้ใช้เวลาเลี้ยงดูประมาณ 6 เดือน การขยายพันธุ์ก็ใช้วิธีการผ่าหัวบอนสีออกเป็นชิ้นเล็กๆ จุ่มสารเคมีป้องกันเชื้อรา แล้วนำไปวางไว้บนกระบะทรายในตู้อบ ใช้เวลาประมาณ 20 วัน หัวบอนสีที่อบไว้จะแตกใบอ่อน 2-3 ใบ จึงแยกลงกระถาง 4 นิ้ว เลี้ยงต่ออีก 45 วัน ใบจะใหญ่ขึ้น และ มี 2-4 ใบ จึงนำออกขายได้ ราคาต้นละ 35 บาท หรือขายควบ 3 ต้น 100 บาท

ปัจจุบัน มีการจดทะเบียนพันธุ์บอนสีโดยสมาคมบอนสีแห่งประเทศไทย และยังมีการพัฒนาสายพันธุ์บอนสีกันแบบต่อเนื่อง ขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร.086-138-4966