ส้มจุก เชิงเศรษฐกิจ ทางเลือกใหม่ของเกษตรกร

เกษตรกรในจังหวัดสงขลา ได้เริ่มหันมาปลูกส้มหัวจุกกันมาก ซึ่งเป็นส้มพันธุ์พื้นเมืองของภาคใต้ เนื่องจากเป็นส้มที่ตลาด มีความต้องการสูงและหายาก อีกทั้งราคาดี และเป็นผลไม้เศรษฐกิจทางเลือกใหม่ ที่สามารถจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างงดงามในแต่ละปี

คุณธีรพงษ์ ทองวงศ์ บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้พกเอาความรู้ และอุดมการณ์จากรั้วพ่อขุน อาสาลงสมัครการเมืองท้องถิ่นที่บ้านเกิดได้เพียงสมัยเดียว ก็หันหลังให้กับการเป็นนักการเมืองท้องถิ่น  มายึดอาชีพเกษตรกรรมตามรอยบรรพบุรุษบ้านไร่อ้อย หมู่ 5 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยโค่นต้นยาง เพื่อนำที่ดินสวนยางพารา 6 ไร่ มาปลูกส้มหัวจุก ทำให้หลายคนแปลกใจ ที่กล้าตัดต้นยางทิ้ง ทั้งๆ ที่ราคาน้ำยางและยางแผ่นสูง

คุณธีรพงษ์ ใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีส้มหัวจุกที่กำลังให้ผลผลิตออกสู่ตลาด 150 ต้น  มีแม่ค้ามารับซื้อถึงที่สวน เพื่อส่งขายในตลาดหาดใหญ่ ในราคาไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 70 บาท  และมีปริมาณการสั่งซื้ออย่างไม่จำกัดจำนวน บางครั้งไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยขณะนี้สวนส้มให้ผลผลิตได้ประมาณ  3,000 กิโลกรัม ต่อต้น ต่อปี และหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย มีการดูแลที่ดี ส้มจุกของคุณธีรพงษ์ สามารถให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 2 เท่าตัว

คุณธีรพงษ์ บอกอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเพาะพันธุ์ส้มหัวจุกของตนเอง เพื่อขยายพื้นที่การปลูกเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ต้น เพราะเป็นผลไม้เศรษฐกิจ ที่อนาคตสดใสอีกตัวหนึ่ง นับตั้งแต่เก็บเกี่ยวผลิตมา 4 ปี ราคาไม่เคยต่ำกว่ากิโลกรัมละ 70 บาท

“เพราะส้มพันธุ์พื้นเมืองของภาคใต้ ที่กำลังหารับประทานยาก มีพื้นที่การปลูกน้อยลง  และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คนส่วนใหญ่ชอบ เพราะลูกใหญ่ รสหวาน กลมกล่อม อมเปรี้ยว เนื้อหนา และเวลาปอกเปลือกผิวจะหอมมาก”

สำหรับระยะเวลาการปลูก เพียง 3-4 ปี ก็เริ่มให้ผลิตขายได้ คุณธีรพงษ์ บอกเคล็ดลับการปลูกส้มหัวจุกให้ประสบความสำเร็จว่า จะต้องมีระบบการจัดการสวนที่ดี ทั้งการดูแล ให้น้ำ ให้ปุ๋ย โดยเฉพาะพันธุ์ส้มหัวจุกที่จะนำมาปลูกต้องปลอดโรค โดยคุณธีรพงษ์ซื้อมาจากคณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้ปลอดโรค ทั้งยังมีระบบการจัดการกับแมลงวันทอง ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของส้มหัวจุก

คุณธีรพงษ์ ไม่ใช้สารเคดี แต่ใช้สารล่อแมลงไว้ในขวดพลาสติก ซึ่งได้ผลมากกว่า  และจะได้ส้มหัวจุกที่มีคุณภาพปลอดสารพิษลูกโต สามารถทำเงินได้อย่างงดงาม ปัจจุบันนอกจากสวนส้มหัวจุกของคุณธีรพงษ์จะประสบความสำเร็จในเชิงเศรษฐกิจแล้ว ยังกลายเป็นจุดถ่ายทอดความรู้การปลูกส้มหัวจุกประจำตำบลฉลุงอีกด้วย โดยมีหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งเกษตรกร เดินทางมาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง และได้ทำเรื่องส่งไปยังกรมวิชาการเกษตรเพื่อให้สวนส้มหัวจุก เป็นแหล่งผลิตพืช GAP หรือพืชปลอดสารพิษ

สำหรับเกษตรกรที่สนใจ ต้องการสอบถามข้อมูลการปลูกส้มหัวจุกให้ประสบความสำเร็จ หรือต้องการไปศึกษาดูงานในพื้นที่สามารถโทรติดต่อไปได้ที่ คุณธีรพงษ์ ทองวงศ์ โทร. 081-969-3928