คุยเฟื่องเรื่องควาย…แฝด

สวัสดีท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่านครับ ฉบับนี้ขอลัดคิวเล่าเรื่องของตัวเองและที่สวนสักนิดครับ เพราะมีเรื่องตื่นเต้น ดีใจ และสารพัดความรู้สึกดีๆ หลากหลาย ด้วยว่าที่สวนบ้านน้อกบ้านนอก บ้านโนนหมากเค็ง ตำบลโนนหมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ได้ถือกำเนิดเจ้าควายแฝดคู่แรกขึ้นมา โดยการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ (ควายทับกันเอง)

แรกเริ่มเดิมที ผมไปซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้เมื่อปี 2554 เป็นพื้นที่สวนและนา โดยมีพื้นที่สวนประมาณ 10 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่นาและพื้นที่รับน้ำอีกส่วนหนึ่ง แรกๆ ก็ปลูกทุกอย่างที่อยากปลูก ทั้งจัดหามาเอง และเพื่อนๆ นำมาฝากปลูก ไม้ป่า ไม้ผล ไผ่ พืชผักยืนต้นต่างๆ มากมาย แต่ด้วยข้อจำกัดของการที่ไม่ได้อยู่ประจำ ผมก็เลยเน้นไม้ป่า ไม้ยืนต้นเป็นหลัก ปลูกเท่าที่มีแรงและเวลา ได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น ค่อยๆ ปลูกเสริมไปเรื่อย

ปัจจุบัน ไผ่แค่ 10 กอ ก็ให้หน่อจนเหลือกิน แต่ก็ได้ปลูกไปไม่น้อยกว่า 30 กอ เผื่อว่าเป็นของฝากเพื่อนๆ อีกด้วย  ขี้เหล็ก สะเดา มันปู ชะอม ติ้ว ชะมวง มะม่วงหิมพานต์ ผักอัจฉริยะเหล่านี้ปลูกเพียงครั้งเดียวได้เก็บกินไม่ต้องทำอะไรมาก ไม่นับผักสมุนไพรต่างๆ ที่เอาเมล็ดไปหว่านไว้ ในช่วงแล้งก็ประสบปัญหาเรื่องน้ำอยู่บ้าง แต่ก็อาศัยว่านานๆ โฉบไปให้น้ำสักครั้งพอยืดอายุกันไป โดยมีไม้ป่าที่ยืนต้นแล้วเสมือนเป็นพี่เลี้ยงให้ด้วย เรียกว่าปลูกผสมผสานแบบให้เทวดาช่วยดูแลก็ประมาณนั้น

พี่ชายผม อาจารย์สุริยา พิมพ์ทอง ปัจจุบันก็สอนเด็กๆ อยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว ด้วยความที่รักและผูกพันกับควายมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อถึงวัยทำงานและเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็เลยซื้อควายมาเลี้ยงในสวน ส่วนหนึ่งออกลูกออกหลาน อีกส่วนหนึ่งซื้อมาเพิ่มโดยเฉพาะตัวผู้เพราะกลัวเลือดชิด จึงทำให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัจจุบันมีควายในฝูงไม่น้อยกว่า 50 ตัว

พูดเรื่องนี้ก็ขอเล่าสักนิด สมัยผมเป็นเด็ก (เหมือนผู้เฒ่าเล่าความหลังไหมครับ) ช่วงปิดเทอมก็จะเป็นเด็กเลี้ยงควาย ต้อนฝูงควายออกจากคอกพร้อมหนังสะติ๊ก ข้อง กระป๋อง สวิง มีดขอ ห่อข้าวและน้ำดื่ม ในย่ามที่สะพายจะมีกระสุนดินเหนียวปั้นตากแดดลูกกลมบรรจุอยู่ สะพายข้องที่มีห่อข้าวและน้ำอยู่ข้างในพร้อมมีดขอด้ามสั้น คอนกระป๋องและสวิงไว้ด้านหลัง ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยแรง ขี่หลังควายไปอย่างสบายใจเฉิบ ที่ขาดไม่ได้ในการเลี้ยงควายคือหมา หมาไทยธรรมดานี่แหละครับ จะช่วยวิ่งไล่ต้อนฝูงควายได้อย่างดี ไม่รู้ว่าเป็นด้วยสัญชาตญาณหรือการฝึกฝน เพราะไอ้แดงหมาคู่ใจผมไม่เคยขาดในงานเลี้ยงควายสักครั้ง ไปไหนไปกันตลอด เสร็จจากไล่ควายแล้วยังไปช่วยไล่จับนกจับหนูอีกด้วย

ถึงนอกทุ่งริมหนองน้ำ ผมก็จะปล่อยควายให้เล็มหญ้าในทุ่งนั้น ไม่ต้องผูกหลัก เพราะในยามแล้งหญ้าจะเขียวอยู่รอบๆ หนองน้ำนั่นเอง ควายไม่ไปหากินไกลแน่นอน จัดสัมภาระแขวนไว้บนกิ่งไม้ สะพายย่ามพร้อมหนังสะติ๊กเดินวนหาอาหารสักรอบ นก หนู กิ้งก่า หรือกระทั่งแย้ ด้วยวิถีชีวิตเด็กบ้านนอก การดำรงชีพต้องสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ กินในสิ่งที่มีให้ได้

หากได้สัตว์เหล่านั้นมา จะมากน้อยก็ต้องผ่านกระบวนการถนอมอาหาร จัดการก่อไฟกองน้อยย่างสัตว์ที่ได้มาแล้วแขวนไว้ เสร็จแล้วก็คว้าสวิงไปช้อนไปงมปลา ในช่วงแรกจะหาพื้นที่ช่วงน้ำจะขาดตอน ปั้นดินกั้นไว้แล้วใช้กระป๋องวิดน้ำออกจนเกือบแห้งค่อยจับปลาใส่ข้อง เลือกเอาเฉพาะปลาที่ไม่ตายง่าย เช่น ปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ ส่วนปลาเล็กปลาน้อยก็ปล่อยน้ำมาให้ว่ายลงหนองไป เพราะของกินมีไม่น้อยเราจึงไม่ได้จับปลาทุกตัวมากินเสียทั้งหมด อย่างน้อยในส่วนที่เหลือก็จะได้ขยายพันธุ์ต่อไป

ปลาส่วนหนึ่งจะถูกย่างไฟกินเป็นอาหารกลางวัน เพราะส่วนมากแม่มักจะห่อข้าวพร้อมปลาร้าสับให้เท่านั้น ที่เหลือจากนั้นก็มาหากินเองในช่วงที่ควายกินหญ้า ใครไม่เคยสัมผัสจะไม่รู้หรอกว่า เพียงข้าวเย็นในห่อใบตอง บิชิ้นปลาที่ย่างสุกใหม่ๆ เข้าปาก หยิบปลาร้าสับแนมด้วยผักที่หาได้ตามหนองสักนิด เท่านี้ก็เป็นมื้ออาหารที่เลิศรสมากแล้ว อิ่มหนำสำราญดีก็หาคาคบไม้ปีนขึ้นไปนอนรับลมยามบ่ายสักตื่น

ควายชอบนอนปลัก ในช่วงบ่ายที่แดดเต้นระริก ควายก็จะเดินหาปลักหาหนองเพื่อนอนแช่น้ำ ทางหนึ่งเพื่อไล่แมลงที่มาตอม ส่วนอีกทางหนึ่งคือเป็นการพักผ่อนเมื่อยามอิ่มหญ้าแล้ว การได้นอนแช่ในปลักหรือในน้ำแล้วเคี้ยวเอื้องช้าๆ นั่นคือความสุขยิ่งนัก ใครไม่เคยเลี้ยงควายอาจไม่ได้สัมผัสเรื่องราวแบบนี้

ถึงยามตะวันรอนๆ ก่อนพาควายกลับบ้านก็เดินเก็บผักสักนิด ผักติ้ว ผักกระโดน ผักเสม็ด เพียงเลาะตามโคกไม่นานก็ได้เป็นกอบเป็นกำ เพียงพอสำหรับมื้อค่ำแล้ว ก่อนที่จะนำสวิงไปช้อนกุ้ง ช้อนปลาซิว สักรอบ เพราะต้องการสดๆ นำไปปรุงอาหารในมื้อเย็น เมื่อช้อนเสร็จใส่กระป๋องน้ำก็นั่งหลังควายกลับบ้านได้เลย

คืนวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 พี่ชายโทร.แจ้งข่าวมา

“ควายเราออกลูกแฝดนะ”

“หือ! จริงเหรอพี่ เป็นไงบ้าง”

“ปลอดภัยทั้งสอง ได้ตัวผู้ทั้งคู่เลย”

“แล้วแม่ควาย”

“เรียบร้อยดี แม่ลูกแข็งแรง นี่ตัวแม่อายุ 8 ปีแล้วนะ”

“ได้น้องไหมพี่”

“ให้แม่มันกินแล้ว ต้องบำรุงหน่อย”

อีกหนึ่งวงจรชีวิตของคนเลี้ยงควายก็คือ “น้องควาย” หรือ “รกควาย” นั่นเอง นี่เป็นผลพลอยได้หลังควายออกลูก เราก็จะรอเก็บน้องควายนำไปปรุงอาหาร ทั้งนึ่ง อ่อม หรือหมก ด้วยความเชื่อว่าเป็นยานั่นเอง แต่บางครั้งหากควายออกลูกกลางคืนโดยที่เราไม่รู้ก็จะไม่เหลือ เพราะแม่ควายจะกินหมดเสียก่อน จึงต้องมีช่วงเวลาที่ยื้อแย่งกันพอสมควร

จากสวนที่เงียบๆ ตอนนี้บรรยากาศที่สวนก็คึกคักไม่น้อย มีคนรักควายหลายท่านแวะเวียนมาชม บ้างก็หาเลขที่เกี่ยวข้อง บ้างก็มีเจรจาขอซื้อขณะนี้เป็นเงินหลายแสนบาท แต่พี่ชายผมขอเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ประจำสวน เพราะนานๆ จะได้เจอแบบนี้ บางครั้งบางคนอาจไม่เคยเจอด้วยซ้ำไป

ผมตั้งชื่อเจ้าหนุ่มน้อยคู่นี้ว่า คูณเงิน และ คูณทอง มีการรับขวัญด้วยพวงมาลัยและประโยคที่เป็นมงคลต่างๆ ตามความเชื่อตั้งแต่โบราณมาว่า หากมีเรื่องราวดีๆ แบบนี้ ให้ทำแต่เรื่องดี พูดดี ปฏิบัติดี แล้วทุกอย่างจะมีแต่ดีขึ้น ก็ขอให้เป็นดังความเชื่อเถิดครับ จะได้มีเรื่องราวดีๆ มานำเสนอท่านผู้อ่านอยู่เรื่อยๆ

“ตอนนี้มีควายกี่ตัวแล้วพี่”

“สี่สิบกว่า ยังลุ้นว่าจะออกลูกมาอีกกี่ตัว”

“หากมีคนมาขอแบ่งซื้อบ้างจะขายไหมครับ”

“หากจะเอาไปเลี้ยงก็ขาย ลองมาดูแล้วกัน”

“แล้วแฝดคู่นี้ล่ะ”

“ไม่ขายจ้า นี่เขามาคูณเงินคูณทองให้”

“แล้วหากมีคนสนใจ จะติดต่อพี่ได้ยังไงครับ”

“โทร.มาได้ครับ (087) 817-6031 หากติดสอนก็ยังไม่รับสายนะครับ”

วันนี้พี่ชายผมแต่งเต็มยศเลย เพราะที่วิทยาลัยทำพิธีวันพ่อแห่งชาติพอดี ก็เลยขอบันทึกภาพครูเลี้ยงควายไว้สักหน่อย นี่แหละครับ อาจารย์สุริยา พิมพ์ทอง หากสนใจก็ลองติดต่อกันได้ครับ เผื่ออยากจะแบ่งควายไปเลี้ยงสักตัว หากถือหนังสือฉบับนี้ไปด้วย มีอะไรพิเศษแน่นอนครับ