“ศูนย์ปลาสวยงาม บางกอกฟาร์ม” ฟาร์มปลาคาร์พนำเข้าขนาดใหญ่ มาตรฐานของไทย มีของครบ จบที่เดียว

ปลาคาร์พ เป็นปลาสวยงามขนาดใหญ่ มักว่ายรวมกันเป็นกลุ่ม เสน่ห์ของปลาชนิดนี้มาจากสีและลายบนลำตัว สร้างความเพลิดเพลินขณะว่ายไป-มา จึงเหมาะกับการเลี้ยงในบ่อ ที่รายล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิดนำมาตกแต่งเป็นสวน ยิ่งสร้างบรรยากาศความร่มรื่นชวนพักผ่อน และเพื่อให้เป็นไปตามความตั้งใจ ผู้เลี้ยงปลาคาร์พควรใส่ใจกับการคัดเลือกสายพันธุ์ ตลอดจนแหล่งซื้อที่นำมาเลี้ยงในบ่อด้วย

“บางกอกฟาร์ม” เป็นฟาร์มปลาคาร์พนำเข้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 102 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ บนเนื้อที่ 15 ไร่ คัดสรรปลาคาร์พอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คุณได้สายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ แข็งแรง สีสันสดสวย คมชัด แล้วยังจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์เลี้ยงปลาคาร์พทุกชนิด พร้อมมีบริการครบวงจรมากมาย ตลอดไปถึงยังจำหน่ายหนังสือคู่มือการเลี้ยงปลาคาร์พ ยารักษาโรค เรียกได้ว่ามีของครบ จบที่เดียว

คุณธนะ (ซ้ายสุด) ต้อนรับครอบครัวที่มาซื้อปลาคาร์พ

คุณธนะ คิ้วคชา เจ้าของ “บางกอกฟาร์ม” กล่าวถึงความเป็นมาของฟาร์มแห่งนี้ว่า ก่อตั้งโดยคุณพ่อ ซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบงานอดิเรกด้วยการเลี้ยงบอนไซกับเลี้ยงปลาสวยงาม โดยเฉพาะปลาคาร์พที่ซื้อมาจากญี่ปุ่น กระทั่งมีจำนวนมากขึ้นจึงเปิดเป็นฟาร์มจำหน่ายในปี 2525 ซึ่งตอนนั้นเช่าพื้นที่จำนวน 15 ไร่ แถวสุขุมวิท จนปี 2541 ได้ย้ายมาสร้างเป็นฟาร์มปัจจุบันที่มีพื้นที่จำนวน 15 ไร่เช่นกัน

ปลาคาร์พที่บางกอกฟาร์มจำหน่ายอยู่สั่งซื้อมาจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งเพาะขายปลาคาร์พคุณภาพของโลก โดยญี่ปุ่นจะเพาะปลาคาร์พในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม และปลาทุกตัวจะเกิดในช่วงนี้เท่านั้น จากนั้นนำไปเลี้ยงต่อในบ่อดิน กระทั่งถึงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน จึงนำมาคัดแยกลักษณะ ขนาด เพื่อกำหนดราคาขาย แล้วจึงนำไปเลี้ยงในกรีนเฮ้าส์จนกระทั่งโตประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีลูกค้าจำนวนมากจากทั่วโลกเดินทางมาเลือกซื้อปลาคาร์พตามลักษณะและราคาตามความต้องการ

หลากสี หลายลาย สร้างความเพลิดเพลินขณะว่ายไป-มา

ลักษณะเด่นหรือเสน่ห์ของปลาคาร์พอยู่ตรง 1. สี อันนี้สำคัญมาก โดยสีที่ได้รับความสนใจมากคือสีแดงเข้มสด หรือถ้าเป็นสีขาวก็ต้องเป็นขาวบริสุทธิ์ อันต่อมา 2. คือ รูปร่าง ปลาคาร์พที่มีลักษณะสวยและถูกต้องคือต้องมีรูปร่างแบบลูกรักบี้ที่ตรงกลางตัวจะอ้วนซึ่งส่วนมากเป็นตัวเมีย และสุดท้าย 3. คือ ลวดลายบนตัวปลา ซึ่งแต่ละตัวไม่เหมือนกัน อีกทั้งลักษณะลวดลายยังถือเป็นเกณฑ์ในการจัดประกวดด้วย ซึ่งลายที่สวยสมบูรณ์จะต้องมีสองฝั่งลำตัวเท่ากัน มีสีเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การดูลวดลายจะต้องเป็นผู้มีความชำนาญเพื่อคัดเลือกและกำหนดราคา ดังนั้น ลักษณะเด่นดังกล่าวนำไปใช้เป็นเกณฑ์เพื่อกำหนดราคาด้วย

“บางกอกฟาร์ม” มีปลาจำนวนกว่า 30 สายพันธุ์ จำนวนหลายพันตัวต่อปี โดยสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ โคฮากุ (ขาว-แดง), ซันเก้ (ขาว-แดง-ดำ) และตันโจ (ตัวขาวหัวกลมสีแดงเหมือนธงชาติญี่ปุ่น) เป็นพันธุ์ที่ขายดีมาก ภายในฟาร์มบนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ มีบ่อเลี้ยงปลาจำนวน 76 บ่อ ออกแบบบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น มีระบบและกระบวนการเลี้ยงดูแลปลาทุกตัวอย่างดีจากมืออาชีพที่เชื่อถือได้ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์นานกว่า 38 ปี

นอกจากนั้น ยังจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์เลี้ยงปลาคาร์พทุกชนิด พร้อมมีบริการครบวงจรมากมาย อาทิ แนะนำการเลี้ยง สร้างบ่อปลาคาร์พ การจัดการดูแลบ่อ บริการรับล้างบ่อปลาคาร์พและส่งอาหารปลาคาร์พถึงบ้าน ตลอดไปถึงยังจำหน่ายหนังสือคู่มือการเลี้ยงปลาคาร์พ ยารักษาโรค ถือได้ว่าเป็นฟาร์มปลาคาร์พนำเข้าที่ใหญ่และมาตรฐานของประเทศ ในรูปแบบ Fancy Fish Center หรือศูนย์ปลาสวยงาม

บ่อเลี้ยงปลาคาร์พที่มีความแตกต่างของพันธุ์ ขนาด และราคา

สำหรับการเลี้ยงปลาคาร์พ คุณธนะ บอกว่า ก่อนเลี้ยงควรเริ่มจากการหาฟาร์มมาตรฐานก่อนเพื่อขอคำแนะนำวิธีเลี้ยงอย่างถูกต้อง โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงปลาคาร์พมาออกแบบการสร้างบ่อ การดูแลความสะอาด การให้อาหาร ตลอดจนจำนวนปลาที่เหมาะสมกับขนาดบ่อ แต่จากลักษณะความสวยงามของปลาชนิดนี้ควรเลี้ยงในบ่อดีกว่า เพราะเมื่อแหวกว่ายกันเป็นฝูงที่มีหลายสีรวมกันทำให้ดูสวยงาม โดยบริเวณรอบบ่ออาจจัดเป็นสวนไว้พักผ่อน หรือเลี้ยงในตู้ไว้ในห้องนั่งเล่นตามบ้านพัก สร้างบรรยากาศเพลิดเพลิน

“หากเลี้ยงในบ่อควรเป็นบ่อซีเมนต์เพราะช่วยให้น้ำใสได้ดีกว่า เนื่องจากซีเมนต์ช่วยให้ตะไคร่น้ำเกาะ ขณะเดียวกัน ตะไคร่น้ำเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้น้ำใส เนื่องจากสิ่งสกปรกจากปลาจะหลุดไปเป็นอาหารของตะไคร่จึงทำให้น้ำไม่ขุ่น เป็นการสร้างสมดุลทางธรรมชาติ ซึ่งลูกค้าบางรายอาจไม่เข้าใจแล้วใช้เป็นบ่อพลาสติกเลี้ยงจึงทำให้น้ำขุ่นได้ง่าย ส่วนการเลี้ยงในตู้นั้นจะใช้อุปกรณ์กรองช่วยทำให้น้ำใส”

บ่อปลาคาร์พตามบ้านอย่างน้อยควรมีขนาดกว้าง-ยาว 3 คูณ 4 เมตร และความลึกไม่ควรน้อยกว่า 1.20 เมตร ทุกบ่อต้องมีบ่อกรองที่มีขนาดไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของบ่อเลี้ยงเพื่อให้ระบบกรองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับน้ำ หากเป็นน้ำประปาซึ่งมีคลอรีน จะต้องแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 วัน จึงนำมาใช้เลี้ยง

ลูกค้าเลือกปลาคาร์พที่ชอบอย่างมีความสุข

ปลาที่เลี้ยงต้องมีจำนวนเหมาะกับขนาดบ่อ คุณธนะให้รายละเอียดว่า ถ้าบ่อเลี้ยงขนาด 30 ตันควรเลี้ยงปลาคาร์พขนาดตัวไม่เกิน 40 เซนติเมตรจำนวน 60 ตัว (1 ต่อ 2) จะมีความสวยงาม ไม่แออัดขณะปลาว่าย แต่ถ้าปลามีขนาดใหญ่ขึ้นจะต้องลดจำนวนปลาลงให้เหลือเท่าขนาดบ่อ หรือสัดส่วน 1 ต่อ 1 และควรซื้อปลาราคาถูกมาเลี้ยงก่อน อย่างปลาญี่ปุ่นที่มีราคาเฉลี่ย 1,000-2,000 บาท และมีขนาดปลาเริ่มตั้งแต่ 15 เซนติเมตรขึ้นไป จนถึงประมาณ 80 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือขอคำแนะนำจากฟาร์มที่ต้องการซื้อ

สำหรับเรื่องอาหารปลา คุณธนะ บอกว่า ในช่วงแรกเริ่มต้นทำฟาร์มต้องสั่งซื้อมาจากญี่ปุ่น มีต้นทุนสูง จึงว่าจ้างบริษัทเอกชนในประเทศผลิตอาหารปลาคาร์พที่มีสูตรชนิดเดียวกับทางญี่ปุ่น ทั้งนี้ อาหารปลาคาร์พมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการเร่งโต เร่งสี ขึ้นอยู่กับอายุปลาและวัตถุประสงค์ของผู้เลี้ยง

บ่อขนาดใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น มีระบบกรองน้ำคุณภาพ ทำให้น้ำใส

อาหารปลาคาร์พของบางกอกฟาร์มพัฒนาสูตรมาเป็นอย่างดี มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน คุณภาพสูง เร่งสี เร่งโต โดยเฉพาะสาหร่ายสไปรูลิน่าที่ช่วยทำให้ปลาคาร์พมีสีเด่น สดใสขึ้น อย่างไรก็ตาม อาหารไม่เพียงนำมาใช้กับปลาในฟาร์ม แต่ยังผลิตเพื่อขายด้วย โดยผู้สนใจสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์หรือโทรศัพท์สั่งซื้อได้ พร้อมกับมีบริการจัดส่งให้ถึงบ้านด้วย

ท่านที่สนใจแวะชมความสวยงามของปลาคาร์พได้ที่ “ศูนย์ปลาสวยงาม บางกอกฟาร์ม” ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 102 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. โทรศัพท์ 02-914-1527 หรือ fb: bangkokfarm หรือ www.bangkokfarm.net

ถ้วยและโล่รางวัลมากมายที่บ่งบอกถึงมาตรฐานฟาร์มและปลา

……………….

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564