เลี้ยงกิ้งก่าทะเลทราย ทำเงินหลักแสน แม้ในเนื้อที่จำกัด

กิ้งก่าทะเลทราย หรือ เบียร์ดดราก้อน สัตว์แปลกทำเงิน เป็นหนึ่งในอาชีพทำเงิน บางทีการทำอะไรที่เหมือนๆ กันนั้นก็ถือว่าธรรมดาเกินไป การเลี้ยงกิ้งก่าทะเลทรายนั้น นอกจากได้ความสวยงาม สีสันสะดุดตา ยังทำรายได้ให้แก่ผู้เพาะเลี้ยง ที่ใช้เนื้อที่ไม่มาก ก็ทำได้

คุณกอร์ปศักดิ์ นุ่มน้อย กับกิ้งก่าทะเลทราย หรือเบียร์ดดราก้อน

ที่บ้านเลขที่ 171/70 ซอยลาดพร้าว 80 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ของ คุณกอร์ปศักดิ์ นุ่มน้อย

บ้านนี้ชื่อว่า เบียร์ดดราก้อน วอริเออร์ส หรือสถานที่เลี้ยงกิ้งก่าทะเลทราย ภายในบ้านเต็มไปด้วยรูปทรงของกิ้งก่าแปลกตาและเต็มไปด้วยสีสัน ทั้งการจัดตู้เลี้ยงที่ดูสวยงาม เย็นตา คือกิ้งก่าสายพันธุ์ต่างประเทศ ที่เจ้าของคือคุณกอร์ปศักดิ์ ผู้ที่เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักและส่งออก ถือว่าเป็นศูนย์รวมของผู้รักที่จะเลี้ยงกิ้งก่าสายพันธุ์นี้มารวมกัน

คุณกอร์ปศักดิ์ นุ่มน้อย กับลวดลายที่สวยงามของเบียร์ดดราก้อน ที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม

“ยิ่งเลี้ยงแล้วมีการแลกเปลี่ยนและตั้งเป็นกลุ่มผู้เลี้ยง สัตว์แปลกที่น่ารักนี้ เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดที่ยุโรปและอเมริกา ยังต้องการนำเข้า และตอนนี้กำลังมาแรง…เลี้ยงในตู้ประดับภายในห้องหรือภายในสวนหย่อมในบ้านก็ได้ โดยจำลองสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับมังกรทะเลทราย สายพันธุ์ที่เลี้ยงได้ดีในบ้านเราและเป็นที่นิยมในหมู่นักเลี้ยงทั้งหลายส่วนใหญ่ก็จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ออสเตรเลีย แต่มีการพัฒนาพันธุ์จากประเทศแถบยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น จึงเป็นกิ้งก่าทะเลทรายนำเข้ามาจากฝรั่งเศส อเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งจะได้สีแปลกขึ้น สีสวยขึ้น เดิมจะมีสีธรรมชาติ เช่น น้ำตาล ขาว เทา ดำ แต่พัฒนาพันธุ์จะมีเม็ดสีที่เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม แดง เหลืองมะนาว เป็นต้น” คุณกอร์ปศักดิ์ กล่าว

ความสุขทางใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าความสุขทางใจพร้อมกับสร้างรายได้ไปด้วยก็น่าจะทำให้มีความสุขมากขึ้น ถ้าได้ถ่ายทอดการเลี้ยงและเผื่อแผ่ความน่ารักไปยังผู้ที่ชื่นชอบเหมือนเรานั่นแหละทำให้เกิดรายได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งข้อนี้ทางคุณกอร์ปศักดิ์ไม่เคยคิดที่จะเป็นการค้ามาก่อน แต่ทำเพราะรักสัตว์เลี้ยงทุกประเภท แต่เลี้ยงเบียร์ดดราก้อน แล้วโพสต์ในเฟซบุ๊กก็มีคนสนใจที่จะมาดู อาจจะเป็นเพราะความรักและเอาใจใส่เป็นทุนเดิม จึงทำให้สัตว์พวกนี้ออกมาสมบูรณ์สวยงาม จึงได้นำเคล็ดลับการเพาะเลี้ยงรวมถึงการให้อาหารที่ถูกวิธี จากประสบการณ์ตรงของคุณกอร์ปศักดิ์เองจนเป็นที่ถูกใจของชาวไทยและชาวต่างชาติหลายๆ ประเทศ

กิ้งก่าทะเลทราย กับสีสันจากการพัฒนาพันธุ์เป็นสัตว์แปลก เลี้ยงง่าย สร้างรายได้

ลงทุนในการเลี้ยงเยอะไหม

ต้นทุนเริ่มต้นที่หลักพันกว่าบาทขึ้นไป แต่จะมีส่วนของระบบการเลี้ยงที่จะต้องใช้งบประมาณ 4,000-9,000 บาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าใช้จำนวนมากก็มีทางลดต้นทุนด้วยการทำกล่องคอกหรือตู้เลี้ยงขึ้นมาเอง แทนตู้สำเร็จรูปได้

ส่วนใหญ่ซื้อมาเป็นสัตว์เลี้ยงก่อน หลังจากนั้นก็ศึกษาไปด้วย เริ่มเพาะเลี้ยงจากตัวสองตัวขึ้นไป ถ้าลงทุน 1 คู่ แพงๆ มีโอกาสที่จะได้เงินหลักแสนจากหนึ่งคู่ มีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักหลายหมื่น ขึ้นอยู่กับรูปทรงและสีสัน

ดินฟ้าอากาศแบบไหน เหมาะกับสัตว์สายพันธุ์นี้

เบียร์ดดราก้อน มาจัดเป็นตู้คล้ายตู้ปลา สวยงาม สร้างคุณค่าทางจิตใจ

กิ้งก่าทะเลทราย เบียร์ดดราก้อน (Bearded Dragon) ชอบที่ร้อนแห้ง ส่วนกิ้งก่าคาเมเลี่ยน (Chameleon) จะชอบต้นไม้และความชื้นที่มากกว่า แต่ต้องไม่ชื้นเกินไป จะต้องการความชื้นก็ต่อเมื่อลอกคราบเท่านั้น แต่ต้องการแสงแดด เพื่อช่วยเปลี่ยนแคลเซียมที่ได้รับสารอาหาร หรือยูวีบี ช่วยดูดซึมแคลเซียม ยูวีเอเพื่อกระตุ้นการอยากอาหารและปรับสภาพผิวหนังให้ดูสวยงาม สุขภาพดี และกระตุ้นเรื่องของการผสมพันธุ์ แต่อย่าให้โดนฝนเพราะจะทำให้เขาเกิดโรคได้ง่าย เพราะธรรมชาติของเขาอยู่ในที่แล้ง เป็นสัตว์ที่ทนความร้อนแห้งแล้งได้ดี สถานที่เลี้ยงถ้าไม่มีเวลานำไปตากแดดทุกๆ วัน ก็สามารถใช้หลอด UVA และ หลอด UVB ได้ ซึ่งแนะนำให้มี เพราะในความเป็นจริง เราไม่สามารถนำสัตว์ไปตากแดดได้ทุกวัน หรือถ้าได้ก็จะได้ช่วงเวลาสั้นๆ เพราะอากาศในบ้านเรานั้นกลางวันจะร้อนเกินกว่าที่สัตว์จะทนได้ แต่สัตว์ยังคงต้องได้รับแสง UVB 8-10 ชั่วโมง ต่อวัน ในการเจริญเติบโต หลอดไฟ UVA และหลอดไฟ UVB ช่วยได้

ลวดลายสีสันสวยงาม ยิ่งสีแปลก ยิ่งราคาแพง

รู้จักคำว่ากิ้งก่าทะเลทราย

เชื่อว่าหลายท่านไม่รู้จักสัตว์แปลกเหล่านี้ มีหลากหลายสายพันธุ์มาก ปัจจุบันสามารถผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ให้เกิดเม็ดสีที่สวยงาม เน้นสายพันธุ์มีราคาและเป็นที่นิยม ที่ฟาร์มมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่เพาะพันธุ์อยู่และจำหน่ายให้เครือข่ายประจำที่ส่งออกต่างประเทศมี 2 สายพันธุ์ คือ กิ้งก่า เบียร์ดดราก้อน (Bearded Dragon) และ กิ้งก่าคาเมเลี่ยน (Chamelean)

ออกไข่ครั้งละหลายฟอง

การเลี้ยงกิ้งก่าทะเลทรายทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ ใช้พื้นที่น้อย กินอาหารง่าย กินน้อย เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ทนต่อสภาพอากาศและโรคระบาด การเพาะพันธุ์ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่ต้องเข้าใจวิถีธรรมชาติ เรื่องอุณหภูมิ แสง สภาพอากาศ

ฤดูร้อนสัตว์จะเจริญเติบโตดีมีความสุข ต้องการน้ำน้อย เลี้ยงในกรงและลังพลาสติกโปร่งใส รองก้นด้วยทรายละเอียดเฉพาะทางสำหรับสัตว์เลื้อยคลาน เมล็ดข้าวโพดอัด (Better Cob) กระดาษลูกฟูกรองพื้นก่อสร้าง ขุยมะพร้าว กระดาษขาว A4 เป็นต้น

สีสันสวยงามที่ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์

การขยายพันธุ์

การผสมพันธุ์ก็เหมือนสัตว์ทั่วๆ ไป ต้องมีการถูกตาต้องใจกันก่อน ส่วนใหญ่เจ้าของจะมีตัวผู้ตัวเมียไว้หลายๆ ตัว เผื่อไว้บางทีก็มีสิบตัวอาจจะไม่ผสมเลยก็ได้ ถ้าเขาอายุมากผสมพันธุ์ไม่ได้ก็เก็บไว้เลี้ยงเขาจนตาย ก็เป็นการรับผิดชอบอย่างสูงต่อชีวิตสัตว์

แม่พันธุ์จะวางไข่หลังผสมพันธุ์ได้ 1 เดือน โดยวางไข่ทิ้งไว้ ปล่อยให้ลูกออกจากไข่และเจริญเติบโตเองตามธรรมชาติ ไม่ผูกพัน สันโดษ ตามธรรมชาติจะไม่รวมกลุ่ม

หลากสีสันของสัตว์แปลกในฟาร์มเพาะเลี้ยง

สำหรับราคาจะดูกันที่รูปทรงตามมาตรฐานความต้องการของตลาด และมีรูปทรง สีสัน สุขภาพดี ตัวที่มีสีผิวสวย ลวดลายแปลกตา เป็นสีหายาก จะขายในราคาตัวละ 15,000-20,000 บาท แต่หากเป็นตัวเล็กลายธรรมดา ขายเหมายกคอก เฉลี่ยตัวละ 500 บาทขึ้นไป สร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี

เบียร์ดดราก้อน หรือ เบียร์ด เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทะเลทรายแถบออสเตรเลีย กินแมลงและสัตว์เล็กๆ และพืชเป็นอาหารหลัก ในที่เลี้ยงเราสามารถให้หนอนนก จิ้งหรีด เป็นอาหารได้ ส่วนพืชแนะนำให้เป็นผักใบเขียว ปลอดสารพิษ เช่น กวางตุ้ง ผักสลัด แครอต ฟักทองขูด และเสริมวิตามินต่างๆ ให้เหมาะสม

สีสันยิ่งสดแปลกยิ่งได้ราคาดี

ลักษณะโดยทั่วไป เบียร์ดดราก้อน หรือกิ้งก่าทะเลทราย เมื่อเล็กจะมีลำตัวสีออกเทา โดยสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นที่หลังและขา แต่ทั้งนี้ อาจมีทั้งสีแดง น้ำตาล และทอง ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้กลมกลืนกับสีของก้อนหินและทรายในถิ่นที่มันอาศัยอยู่ เพราะสีสันตามธรรมชาติที่สดใสนี่เอง เบียร์ดดราก้อน จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก โดยเฉพาะ สายพันธุ์ แซนด์ไฟร์ (Sandfire) สีออกแดงๆ และยิ่งถ้ามีสีสันสดใสแปลกตาเป็นพิเศษแล้ว ก็จะยิ่งมีราคาแพงกว่าปกติมาก โดยเฉลี่ยราคาปกติอยู่ที่ 2,500-4,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและสีสัน

ใช้พื้นที่น้อยมากในการเพาะเลี้ยง

เวลาลอกคราบ เบียร์ดดราก้อน จะเปลี่ยนสีดูหม่นลง มีปื้นสีเทาหรือขาวขึ้นทั่วลำตัว เริ่มลอกคราบจากส่วนหัว ลำตัว ขา และหาง และส่วนย่อยที่เปลือกตา หู แผงหลัง ในช่วงลอกคราบ อากาศต้องชื้น เพราะความชื้นตามธรรมชาติ ช่วยสร้างน้ำมัน ระหว่างชั้นผิวหนัง ช่วยให้ผิวหนังเก่าอ่อนตัว ลอกง่าย ถ้าเลี้ยงบริเวณอากาศแห้งจะทำให้ลอกคราบยาก กว่าจะหมดทั้งตัวใช้เวลานาน ผู้เลี้ยงสามารถช่วยลอกคราบได้ โดยดึงผิวออกเบาๆ ถ้าลอกคราบไม่หมดจะเกิดปัญหา คราบจะรัดแน่น ทำให้เนื้อเยื่อส่วนนั้นตาย เพราะขาดเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาท

เบียร์ดดราก้อน เป็นกิ้งก่าที่เลี้ยงง่าย นิสัยเชื่อง มันสามารถกินแมลง จิ้งหรีด หนอน หรือพืชผักอ่อนๆ ได้ เรียกว่ากินได้แทบทุกอย่าง เมื่อโตเต็มที่แล้ว จะมีขนาด 8-12 นิ้ว ดังนั้น พื้นที่หรือสถานที่เลี้ยงควรกว้างขวางพอสมควร พื้นผิวโรยด้วยทรายสะอาด แซมด้วยโขดหิน และที่ซ่อนตัว มีแหล่งน้ำ และแสงแดดส่องถึง เพราะในธรรมชาติมันต้องการได้รับรังสี UVA และ UVB ระวังปัญหาเรื่องอากาศเย็น แก้ไขได้โดยใช้หลอดไฟทังสเตนส่องสร้างความอบอุ่น ถือว่าเลี้ยงในบ้านเราได้แบบสบายๆ เพราะเขาชอบร้อนและแห้ง

การเลี้ยงเพื่อเชิงพาณิชย์

คุณกอร์ปศักดิ์ เริ่มต้นเพราะใจรัก แต่ก็กลายมาเป็นธุรกิจโดยไม่รู้ตัว เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็เช่นกัน เริ่มต้นจากการเลี้ยงเพียงไม่กี่ตัว แต่กลายเป็นธุรกิจเพราะมีคนมาเห็นหรือจากการแลกเปลี่ยนด้านความรู้ ก็เกิดการขยายวงกว้าง โดยการมีผู้ที่สนใจมาขอซื้อบ้าง ทำให้เกิดการขยายตัวใหญ่ขึ้น จนถึงขั้นส่งออกต่างประเทศ แต่ก็มีผู้เลี้ยงบางรายที่ซื้อแม่พันธุ์จากผมไปเลี้ยงจากซื้อเพียง 1 คู่สามารถสร้างรายได้ต่อยอดเป็นเงินแสนต่อเดือนก็มี

คุณกอร์ปศักดิ์ ได้รับการสั่งซื้อจากต่างประเทศมาไม่ขาดสาย ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงของโรคระบาดก็ยังพอมีคนสนใจ ถึงไม่มากมายในช่วงเกิดวิกฤตโควิด-19 ก็ยังพอมีรายได้

บางสายพันธุ์ให้ความสวยที่รูปทรงและหาง

ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนสำคัญในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกชนิดที่นำไปสู่ความสำเร็จ

“ทัศนคติที่ดี การมองโลกในแง่ดี แยกแยะได้ระหว่างความฝันกับความเป็นจริง ก่อนที่จะเลี้ยงต้องศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติ นิสัยใจคอของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดก่อน เช่น สถานที่ กำลังทรัพย์ การบริหารเวลา ค่าใช้จ่าย การเลี้ยงสัตว์ที่เป็นสัตว์เลี้ยง เหมือนงานศิลปะ มูลค่าอยู่ที่ความพอใจ ไม่มีถูก ไม่มีแพง สวยหรือไม่สวยขึ้นอยู่กับรสนิยมและกำลังทรัพย์ สัตว์ทุกตัวมีคุณค่าในการเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวเท่าเทียมกัน ถ้าเราคิดที่จะทำเป็นธุรกิจความรับผิดชอบและรักษามาตรฐานการเลี้ยงสำคัญมากต่อการสร้างเครดิตสร้างรายได้ให้ยั่งยืนไปข้างหน้า ผมเป็นทั้งผู้ขายและผู้เพาะพันธุ์ที่มีประสบการณ์ตรงมาหลายปี ถือว่ามีประสบการณ์ระดับหนึ่ง แต่ผมยังต้องศึกษาเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ในเรื่องของการเพาะเลี้ยงกิ้งก่าทะเลทราย หรือเบียร์ดดราก้อน (Bearded Dragon) ครับ” คุณกอร์ปศักดิ์ กล่าว

คำสั่งซื้อมาจากประเทศแถบไหน

ตลาดใหญ่ของคุณกอร์ปศักดิ์อยู่ที่ยุโรปและอเมริกา เมื่อก่อนคำสั่งซื้อจากประเทศจีนมีมาก แต่หลังจากจีนประสบปัญหาเรื่องโรคระบาดใหญ่ คำสั่งซื้อจึงลดลง และอีกอย่างทางจีนก็เพาะเลี้ยงส่งขายภายในประเทศก็เริ่มที่จะมีมากขึ้น ทุกวันนี้ก็มีคำสั่งซื้อส่วนใหญ่จากตลาดอเมริกาและยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ก็มีมาเรื่อยๆ

การดูแล

การให้อาหาร ระวังอาหารที่มีไขมันเยอะ ได้แก่ พวกหนอนยักษ์ จะให้ดีคือพยายามให้หนอนยักษ์เป็นแค่อาหารเสริม ถ้ารู้สึกว่าเบียร์ดดราก้อน อ้วนเกินไปแล้ว ก็อย่าปล่อยให้อ้วนอยู่อย่างนั้น รีบลดน้ำหนักลง งดหนอน ให้จิ้งหรีด สะดิ้ง ที่ผ่านการคัดเลือกที่ไม่มีผลกับลำไส้ หรือการให้อาหารผักเป็นหลัก เช่น ผักใบเขียวที่ปลอดสารพิษยิ่งดี ที่สำคัญ เบียร์ดดราก้อน ไม่จำเป็นต้องกินทุกวัน ให้อาหาร 5-6 วัน ต่อสัปดาห์ได้ หรือมีบางวันให้น้อยหน่อย เพื่อช่วยให้ย่อยหมด ไม่มีไขมันสะสม และกระตุ้นพฤติกรรมการอยากอาหาร จะได้เดินออกกำลังกายบ้าง เพื่อลดความอ้วน แต่อย่าลืมให้ได้รับแสงแดดหรือแสงจากหลอดไฟความร้อนและยูวี

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณกอร์ปศักดิ์ นุ่มน้อย บ้านเลขที่ 171/70 ลาดพร้าว 80 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 เบอร์โทร. (092) 405-6307