| ที่มา | สัตว์เลี้ยงสวยงาม |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุจิต เมืองสุข |
| เผยแพร่ |
วังน้ำเขียว เขาใหญ่ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ติดอันดับโอโซนอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
คุณสุจิตรา จันทร์ผ่อง สาวเมืองกรุง ที่ไม่มีประสบการณ์การทำสวนและการเลี้ยงสุนัขมาก่อน ช่วยครอบครัวบริหารธุรกิจที่มี ด้วยไอเดียที่เห็นจากการซื้อขายสุนัขเมื่อ 10 ปีก่อน “ไซบีเรียน ฮัสกี้” เป็นสายพันธุ์ที่มีการซื้อขายในราคาดี ไม่ตก จึงเป็นแรงกระตุ้นให้อยากเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ เพื่อทำฟาร์มเพาะจำหน่าย
ในมุมแรกที่คิดคือ ทำฟาร์มสุนัข แต่ด้วยประสบการณ์การเลี้ยงสุนัขที่เริ่มต้นจากศูนย์ แม้จะศึกษาไปเรื่อยๆ ตลอดการเลี้ยง และซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์นำเข้ามาจากฟาร์มใหญ่ๆ ก็ยังเกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องแก้ไขไป จากประสบการณ์ที่ไม่มาก
คุณสุจิตรา ยอมรับว่า การเลี้ยงสุนัขที่มองจากภาพภายนอกเข้าไป ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่จริงๆ แล้ว มีปัญหาและความยากมาให้แก้ไขตลอด เช่น ปัญหาสุขภาพของสุนัขที่มีมาตั้งแต่เกิด อาการป่วยจากโรคที่ไม่คาดคิด ทำให้ต้องดูแลและใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ไม่ใช่การเลี้ยงปล่อย เพาะขายแล้วได้เงิน อีกทั้งการเลี้ยงสัตว์ก็จำเป็นต้องอาศัยความรักและความเข้าใจในนิสัยของสัตว์นั้นๆ ด้วย
“10 ปีก่อน ซื้อจากฟาร์มใหญ่ๆ พ่อแม่พันธุ์ที่นำเข้า หรือมีใบรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข ซื้อเริ่มแรกมาเพียง 2 ตัว จากนั้นก็ซื้อเพิ่มอีก ทำให้มีจำนวนมากขึ้น เริ่มแรกเลี้ยงที่บ้านในกรุงเทพฯ ก่อน แต่จำนวนสุนัขที่มากขึ้นจึงต้องการหาพื้นที่เลี้ยงสุนัขที่ต่างจังหวัด เพื่อป้องกันปัญหาเสียงและกลิ่นที่อาจกระทบกับเพื่อนบ้าน”
คุณสุจิตรา ถูกใจที่ดินบริเวณเขาใหญ่ จำนวน 6 ไร่ เธอตัดสินใจซื้อและปรับพื้นที่ ตั้งใจจะทำเป็นฟาร์มสุนัข แต่ด้วยประสบการณ์การทำสวน ทำไร่ ที่ไม่ได้มีติดตัว จึงปลูกต้นไม้ไว้จำนวนหนึ่ง และวางแผนจัดสรรพื้นที่ 6 ไร่นี้ ให้เป็นรีสอร์ต มีที่พักเริ่มต้นเพียง 3 หลัง และทำฟาร์มสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เล็กๆ ไว้บริเวณเดียวกับรีสอร์ต ที่เปิดให้บริการ
ช่วงที่เปิดให้บริการที่พัก มีลูกค้าเข้ามาพักและให้ความสนใจกับสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่เลี้ยงไว้
ด้วยนิสัยของสุนัขสายพันธุ์นี้ ที่ขี้เล่น ไม่ก้าวร้าว ทำให้คุณสุจิตรา ปล่อยให้ลูกค้าที่เข้าพักรีสอร์ตเล่นกับสุนัขได้ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายและไม่หวงสุนัข รวมทั้งยังเปิดบริการให้กับลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยง นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักที่รีสอร์ตได้ด้วย
จากนั้นไอเดียการจัดการพื้นที่ก็เพิ่มขึ้น จากเดิมมีรีสอร์ตเพียง 3 หลัง ก็เพิ่มจำนวนให้รองรับลูกค้าได้มากขึ้น เป็น 8 หลัง และเริ่มทำคาเฟ่เล็กๆ บริการเครื่องดื่ม อาหารรับประทานเล่น และเบเกอรี่ ภายในรีสอร์ต มีสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงจำหน่าย ซึ่งหากเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการเข้าพักที่รีสอร์ตอยู่แล้ว สามารถเล่นกับสุนัขที่ฟาร์มได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการคาเฟ่ ก็สามารถเล่นกับสุนัขได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน
คุณสุจิตรา บอกว่า สุนัขทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 20 ตัว เฉพาะสายพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ประมาณ 20 ตัว อีก 4-5 ตัว เป็นสายพันธุ์อื่น ที่เลี้ยงไว้ด้วยกัน
แต่ละวันของการดูแล จะปล่อยสุนัขออกมาที่ลานโล่ง สำหรับลูกค้าเล่นกับสุนัขวันละ 2 รอบ แต่ละรอบสุนัขคนละชุด เพราะธรรมชาติของสุนัขสายพันธุ์นี้ จะแย่งการเป็นจ่าฝูง หากปล่อยรวมกันทั้งหมดอาจจะกัดกัน จึงต้องแยกชุด โดยชุดแรก จะปล่อยเล่นที่ลานโล่งเช้าถึงบ่ายๆ จากนั้นเป็นชุดเล็ก บ่ายๆ ถึงเย็น
เมื่อถามถึงการทำฟาร์มสุนัข ที่ดูเป็นความตั้งใจแรกของคุณสุจิตรา เธอบอกว่า แรกเริ่มก็ตั้งใจทำฟาร์มสุนัข เพาะขยายพันธุ์ จำหน่าย แต่เมื่อเลี้ยงไป เกิดความผูกพัน การขายออกจึงไม่ใช่ประเด็นหลักของการเลี้ยงสุนัข เมื่อมีการผสมก็มีการขายเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ทำเป็นกิจวัตร และตั้งใจผสมเพื่อให้ลูกสุนัข เพราะในที่สุดความรัก ความสงสารที่มีมาก ทำให้เก็บลูกสุนัขไว้เลี้ยงเอง และไม่ตั้งใจขายในเชิงพาณิชย์สักเท่าไร
คุณสุจิตรา เล่าให้ฟังว่า ในแต่ละวันจะต้องทำความสะอาดที่นอน กรงเลี้ยง เพื่อลดกลิ่นและเพื่อความสะอาดของสุนัข สุนัขแยกอยู่กรงละตัว ยกเว้นบางกรงที่สุนัขสนิทสนมกันให้อยู่กรงละ 2 ตัวด้วยกัน การอาบน้ำทำเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่อาบน้ำ ต้องแปรงขนร่วมด้วย และต้องเป่าขนให้แห้ง มิฉะนั้นจะเป็นที่มาของโรคผิวหนังได้
อาหารของสุนัข ใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปเป็นอาหารหลัก เสริมด้วยอาหารเสริมคลุกกับอาหารเม็ดสำเร็จรูปทุกวัน แต่ละวันอาหารเสริมไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ได้มา อาทิ ไก่บดสุก ฟักทอง กะหล่ำปลี แครอต ทุกอย่างทำให้สุกก่อนแล้วจึงนำไปคลุกกับอาหารเม็ดสำเร็จรูป ส่วนไข่ต้มและกล้วยน้ำว้า เป็นอาหารเสริมที่มีให้ทุกวัน เป็นการบำรุง
แม้ว่า การเลี้ยงสุนัขของคุณสุจิตรา ไม่ได้บริหารจัดการในเชิงพาณิชย์แล้ว แต่การดูแลสุนัขยังคงมีความละเอียด นุ่มนวล แต่ต่างจากฟาร์มใหญ่
กรณีสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่เคยจำหน่ายออกจากฟาร์มไป หากลูกค้าประสบปัญหา ไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ คุณสุจิตรา ก็รับคืนมาดูแล ทำให้ในฟาร์มมีสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ แตกต่างกันในทุกช่วงวัย
คุณสุจิตรา ฝากถึงคนรักสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น หากต้องการพาสุนัขออกมาสูดโอโซนและพักผ่อนไปพร้อมกัน สามารถแวะมาพักที่ I am Siberian Khaoyai Resort and Husky Farm ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หรือแวะใช้บริการเครื่องดื่ม อาหารรับประทานเล่น เบเกอรี่ ได้ที่ Sibie Cafe’ ลองชมภาพความสวยงาม น่ารัก ของน้องหมา สถานที่ และคาเฟ่ ได้ที่ เพจ I am Siberian Khaoyai Resort and Husky Farm หรือ Error! Hyperlink reference not valid.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Lind ID: iasrahf หรือโทรศัพท์ (081) 086-7999 ยินดีต้อนรับ
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2564
