ผู้เขียน	สุจิต เมืองสุข
เผยแพร่	วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2564

วัย 41 ปีของ คุณสรรค์ชัย โกสยะมาศ หรือ คุณหนุ่ย หนุ่มนครราชสีมา เป็นวัยที่หลายคนตั้งตัวจากการทำงานเพื่อครอบครัว แต่สำหรับคุณหนุ่ย เขาเริ่มมานับย้อนหลังไปกว่า 10 ปีแล้ว

จากนักศึกษานิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา ที่เข้ามาร่ำเรียนในเมืองกรุง เมื่อได้งานทำในสายงานตรงตามที่ศึกษามา 4 ปี ก็หวนคิดถึงบ้านเกิด อยากมีอาชีพที่อิสระและทำเงินได้ด้วยตนเอง สิ่งแรกที่กลับมาบ้าน คือการเปิดร้านขายหนังสือ ขายเครื่องเขียน และขยับมาเป็นมินิมาร์ทในปัจจุบัน

จริงๆ แล้วคุณหนุ่ยสามารถหาเงินได้จากการมีอาชีพอิสระของตนเองตั้งแต่อายุ 15 ปี

เพราะคลุกคลีอยู่กับคุณลุงที่มีฟาร์มไก่ชน สนามชนไก่ ทำให้ได้เห็นทุกซอกทุกมุมของการเลี้ยงไก่ชน การดูแล การพาไก่ออกชน รวมถึงเทคนิคต่างๆ ของการเลี้ยงไก่ชน ความซึมซับที่ได้รับมาทำให้คุณหนุ่ยชอบมาตั้งแต่เด็กและมีไก่ชนตัวแรกที่เลี้ยงดูแลด้วยตนเอง กระทั่งพาเข้าสนามไปชนชนะ ได้เงินเดิมพันและมีคนมาติดต่อขอซื้อไก่ชนตัวนั้นไปในราคาหลักพัน รวมๆ เงินที่สร้างด้วยตนเองขณะที่อายุ 15 ปี สูงเกือบ 10,000 บาท จึงเป็นสิ่งที่ติดตรึงในใจของคุณหนุ่ยมาโดยตลอด

“ไก่ชน มีเสน่ห์ สนุก ได้เงิน สมัยเด็กๆ คิดแค่ว่า ทำอะไรก็ได้สนุกและได้เงิน แต่พอโตมาต้องมาเรียนในกรุงเทพฯ ก็ห่างมา เรียนจบทำงานก็ไม่ได้เลี้ยง จนผมอยากกลับไปทำงานอิสระของตนเอง ที่คิดไว้คือเปิดร้านขายหนังสือ ขายเครื่องเขียน ตอนนั้นพอจะมีเวลาว่าง จึงอยากหารายได้เสริม และสิ่งที่นึกได้ตอนนั้น คือการทำฟาร์มไก่ เพราะสนุกและได้เงิน”

คุณหนุ่ยเริ่มต้นทำฟาร์มไก่ชนจริงจัง ตั้งแต่เริ่มคิด นับถึงเวลานี้ราว 10 ปี

เขาซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพาะ เลี้ยง ซ้อม แล้วนำไปชน

ถามว่าทำไมต้องชน คุณหนุ่ยตอบด้วยความเข้าใจง่ายๆ ว่า ไก่ที่ผ่านสนามและชนชนะมา ลูกไก่จะขายได้ หากยังไม่เคยทำผลงาน โอกาสขายลูกได้จะลดลง ราคาก็ไม่ดี

คุณหนุ่ยตั้งชื่อฟาร์มว่า “โกสยะ” มาจากนามสกุล ซึ่งมีความหมายแบบไทยๆ ว่า ผ้าไหม หรือทองคำ และความหมายตามภาษาบาลีสันสฤตคือ การเติบโตอย่างมั่นคง

และเลือกสายพันธุ์ไก่ชนที่ดีมาผสม เพื่อให้ได้ลักษณะตามต้องการ โดยเลือกไก่พม่า ไก่ไซง่อน และไก่บราซิล เรียกสั้นๆ ว่า พม่า-ง่อน-บราซิล

จุดเด่นของไก่พม่า มีที่ลีลา แผลตีลึก ไก่ไซง่อนมีวงเนื้อที่ดี กล้ามเนื้อที่ดี โครงสร้างที่ดี ไก่บราซิลมีโครงสร้างและกระดูกที่แข็ง เมื่อนำมาผสมกัน ทำให้เราได้ลักษณะเด่นของแต่ละสายพันธุ์ออกมา ซึ่งปัจจุบันฟาร์มโกสยะ มีพ่อพันธุ์ 16 ตัว แม่พันธุ์มีไม่น้อยกว่า 100 ตัว

ทุกวันกิจกรรมสำหรับการทำฟาร์มไก่ชนคือ การทำความสะอาดโรงเรือน โรงนอน ให้อาหาร นำไก่ที่เตรียมชนออกกำลังกาย กาดน้ำ ออกแดด ทดลองปล้ำ ไก่ที่เชิงชนดีก็นำไปพัฒนาต่อ ไก่ที่เชิงชนไม่ดีจะนำไปจำหน่ายเป็นไก่เนื้อ ส่วนไก่ตัวเมียที่เกิดจากพ่อแม่พันธุ์เดียวกันในคอกเดียวกัน เมื่อไก่ตัวผู้ชนชนะในสนาม ราคาไก่ตัวผู้ที่สูงขึ้น ไก่ตัวเมียก็จะมีราคาขายออกที่ใกล้เคียงกันไปด้วย

กิจวัตรประจำวัน เริ่มตั้งแต่ 09.00 น. และสิ้นสุดลงเวลา 16.30-17.00 น. ของทุกวัน

“ไก่ที่เริ่มหนุ่มอายุประมาณ 8 เดือน จะถูกคัดมาทดสอบ โดยจะแยกมาครอบสุ่ม สุ่มละ 1 ตัว ทุกเช้าจะนำไปออกกำลังกายด้วยการยืนกล่องคือ การทำกล่องทรงสูง 1.50 เมตร ปล่อยไก่ลงไป ไก่จะพยายามบินหรือกระโดดขึ้นมา เมื่อเข้าบินหรือกระโดดขึ้นมา เราก็จับลงไปไว้ตามเดิม ไก่จะทำซ้ำๆ เป็นการออกกำลังกายในส่วนของปีกและขา เริ่มต้นวันละ 10 ครั้ง แล้วเพิ่มจำนวนขึ้นตามความสามารถของไก่ ออกกำลังกายด้วยการยืนกล่องนาน 1 สัปดาห์ จากนั้นนำไปลองปล้ำกับคู่ปล้ำ ดูชั้นเชิงการปล้ำ การตี ถ้าถูกคู่ปล้ำตีเป็นแผล ก็ต้องพักรักษาตัวให้หาย จากนั้นก็นำมาซ้อมใหม่ตามเดิม โดยนำไปวิ่งสุ่ม แล้วก็วนกลับไปยืนกล่อง ต่อจากนั้นจึงนำไปกาดน้ำ ผึ่งแดด และให้กินมื้อเช้า”

สำหรับอาหารไก่ให้วันละ 2 ครั้ง มื้อเช้าเป็นเนื้อย่างขนาดเท่าข้อมือ จำนวน 2 ชิ้น ไข่ต้มผ่า 1/8 ชิ้น จากนั้นให้ฮอร์โมน สมุนไพรปั้น กาดน้ำ ผึ่งแดด กว่าจะครบกระบวนการประมาณ 14.00 น. แล้วนำไก่มาป้อนสมุนไพรสด ได้แก่ แตงกวา มะเขือเทศ กระชาย ตะไคร้ หัวหอม กระเทียม และบอระเพ็ด จากนั้น ปล่อยเดินในที่กว้างประมาณ 30 นาที แล้วพาเข้าสุ่ม ให้กินมื้อเย็นเป็นข้าวเปลือกอย่างเดียว แล้วคลุมมุ้ง คลุมสุ่ม เข้านอน

คุณหนุ่ย บอกว่า อาหารที่ให้ที่ฟาร์มจะทำให้สุกก่อน ทั้งเนื้อสัตว์และไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพยาธิ เนื้อสัตว์และไข่มีโปรตีนและไขมันดีและแร่ธาตุที่ไก่ต้องการ ส่วนสมุนไพรสดแต่ละชนิดที่ให้ มีคุณสมบัติที่ดีต่อไก่แตกต่างกัน เช่น กระเทียมมีแคลเซียมสูง บำรุงฮอร์โมน หัวหอมมีแคลเซียมสูง ช่วยระบบย่อย แตงกวาเป็นยาเย็น ตะไคร้มีไฟเบอร์สูง กากใยสูง เป็นต้น

การผสมพันธุ์ทั้งเพศเมียและผู้ คุณหนุ่ยจะรอให้มีอายุถึง 1 ปีก่อน จึงจะผสม เพื่อความสมบูรณ์แข็งแรงทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และลูกไก่ที่จะได้ หลังผสมแม่พันธุ์ให้ไข่จะปล่อยให้ฟักเองตามธรรมชาติ และแยกลูกไก่ออกมาเมื่ออายุ 2 สัปดาห์ เพื่อนำไปเลี้ยงกรง กกไฟ ตามระบบการอนุบาลไก่

การให้ไข่ในไก่ชน ระหว่าง 7-12 ฟอง โดยเฉลี่ย 9 ฟอง

โดยปกติการนอนสุ่มจะทำเฉพาะไก่ตัวผู้ ส่วนไก่ตัวเมียที่เลี้ยงไว้เป็นแม่พันธุ์จะปล่อยคอกในโรงเรือน ขนาดคอก 2×3 เมตร คอกละ 5 ตัว ส่วนไก่ที่ยังไม่ได้เข้าข่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เตรียมชน (พ้นจากอนุบาล-อายุ 7 เดือนครึ่ง) จะปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ

การทำวัคซีนเริ่มทำตั้งแต่ฟักออกจากไข่ 2 วัน เป็นวัคซีนรวม จากนั้น ลูกไก่อายุ 1 เดือน ทำวัคซีนรวมครั้งที่ 2 หลังจากนั้น 1 เดือนครั้ง ทำวัคซีนรวมครั้งที่ 3 และเมื่อลูกไก่อายุ 3 เดือน ทำวัคซีนฝีดาษ ลูกไก่อายุ 4 เดือน ทำวัคซีนนิวคาสเซิลแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง และเว้นไปให้วัคซีนรวมปีละครั้ง

ข้อควรระวังที่ทำให้ไก่ป่วย ได้แก่ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย อากาศชื้น ฝนตกบ่อย รวมถึงแมลงขนาดเล็กที่มีพิษและสามารถลอดเข้ามุ้งมากัดต่อยไก่ชนให้เสียชีวิต เช่น ตะขาบ แมงป่อง เป็นต้น แต่ถ้าพบว่าไก่ป่วย จะให้ยารักษาตามอาการ

คุณหนุ่ย บอกว่า ลูกค้าที่มาซื้อไก่ชนจากฟาร์มไป ติดต่อมาจากทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักฟาร์มโกสยะจากปากต่อปากของลูกค้า ที่ต้องการไก่พม่า-ง่อน-บราซิล ที่ผ่านมาแต่ละปีจำหน่ายไข่ไก่ ลูกไก่ ไก่ชน พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และรับผสมพันธุ์ สร้างรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท แต่ยุคโควิด-19 ทำให้เปอร์เซ็นต์การจำหน่ายแม่พันธุ์มากกว่าพ่อพันธุ์ โดยนำไปเพาะขยายพันธุ์รอสถานการณ์ดีขึ้นได้

สำหรับการจำหน่ายไก่ชนของฟาร์ม คุณหนุ่ย กล่าวว่า ราคาไม่แน่นอน เพราะการขายมีตั้งแต่ไข่ไก่จนถึงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ สามารถขายได้ทุกช่วงอายุ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพอใจและการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หากลูกค้าสนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของฟาร์มโกสยะ ได้ที่ เฟซบุ๊ก โกสยะ ทองคำ หรือ สรรค์ชัย โกสยะมาศ และหากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว จะเข้าชมฟาร์มก็ยินดี ฟาร์มตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 21 ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์สอบถามกันก่อนได้ที่ 098-516-6682