วัลลภาฟาร์มสเตย์ ลพบุรี เลี้ยงม้าไว้เป็นเพื่อนและใช้งาน

แน่ใจว่าผู้อ่านที่รักการท่องเที่ยวเชิงเกษตรส่วนใหญ่ ต้องเคยได้ยินชื่อหรือมีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับ “วัลลภาฟาร์มสเตย์” ฟาร์มสเตย์ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองลพบุรี เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้พักไปด้วยในตัว ซึ่งจุดเด่นหนึ่งของฟาร์มสเตย์แห่งนี้คือ มีม้าไว้สำหรับนักท่องเที่ยวขี่ ทั้งยังเปิดคอร์สขี่ม้าเพื่อบำบัดสมาธิให้กับเด็กพิเศษ

สำหรับฟาร์มสเตย์แห่งนี้ มี คุณศราวุธ ค้าขาย หรือ คุณเต้ เป็นผู้ดูแลกิจการโดยรวม มีคุณพ่อ คือ ร.ต.ต. สมนึก ค้าขาย เสมือนผู้ดูแลหลักอีกคน และนอกเหนือจากนั้น ร.ต.ต. สมนึก เองก็เป็นผู้ควบคุมดูแล “ม้า” ซึ่งเป็นจุดเด่นหนึ่งของฟาร์มสเตย์แห่งนี้

เมื่อถามถึง “ม้า” ร.ต.ต. สมนึก เล่าให้ฟังว่า เดิมทีรับราชการตำรวจ มีหลายโอกาสที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับม้า ม้าเป็นสัตว์สังคม มีความนุ่มนวล จำแม่น แต่ขี้ระแวง ซึ่งความนุ่มนวลของม้าเป็นผลให้คนที่ใกล้ชิดมีความสุขและได้รับรู้สัมผัสที่แท้จริงจากสัตว์ ดังนั้น หากใครยังไม่เคยสัมผัสม้า จึงอยากให้ลองสัมผัส เพื่อรับรู้ความนุ่มนวลจากสัตว์ได้อย่างที่ ร.ต.ต. สมนึกรู้สึกมาแล้ว

“ผมชอบเลี้ยงสัตว์ทั่วไป โดยเฉพาะม้า เพราะมีสัมผัสที่นุ่มนวล เลี้ยงไว้ก็มีประโยชน์ ใช้งานได้ ขี่ได้ สร้างความสุขให้เราได้ ผมเริ่มตระเวนหาซื้อราว 20 ปีก่อน ไปตามฟาร์มบ้าง ตลาดนัดบ้าง เพราะหวังจะได้ม้าดีๆ มาไว้ครอบครอง”

ร.ต.ต. สมนึก ได้ม้าคู่แรกมาจากการตระเวนหาซื้อม้าที่ตลาดนัดวัวควาย แม้ครั้งแรกตัดสินใจซื้อเพียงตัวเดียว แต่เมื่อนึกได้ว่า ม้าเป็นสัตว์สังคม จึงตัดสินใจซื้อจากแหล่งเดียวกันมา 1 คู่ เป็นเพศผู้และเพศเมีย เมื่อเลี้ยงไปไม่นาน ก็ได้ลูกม้าน่ารักเกิดใหม่มาเพิ่ม

ม้าเกิดใหม่ที่เจริญเติบโตขึ้นมา ร.ต.ต. สมนึก ให้เวลาอย่างเต็มที่ในการเลี้ยงดู ตามการศึกษานิสัยและพฤติกรรมของม้า เพื่อให้ม้ามีความสุขมากที่สุด ระหว่างนั้นยังคงตระเวนหาม้าที่รูปร่างดี ถูกใจ พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เท่าที่หาได้มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีม้าเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในฟาร์ม

สำหรับคนที่คิดจะเลี้ยงม้า ร.ต.ต. สมนึก เตือนว่า ให้แน่ใจเสียก่อนว่าต้องการเลี้ยงจริง เพราะอายุของม้ายาวนาน 25-30 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล

ร.ต.ต. สมนึก ค้าขาย

ม้า เป็นสัตว์กินพืช อาหารเสริมจึงไม่จำเป็น แต่สำหรับม้าที่มีปัญหาร่างกายขาดโปรตีน จำเป็นต้องเพิ่มโปรตีนในรูปของอาหารเสริมเข้าช่วย แต่แม้ว่าม้าจะเป็นสัตว์กินพืช แต่ก็มีอาหารเม็ดสำหรับม้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีธาตุอาหารครบถ้วนตามที่ม้าต้องการ ดังนั้น การปล่อยให้ม้ากินอาหารหยาบ ประเภทหญ้าหรือฟาง อาจไม่ได้ทำให้ม้ามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เพราะวิตามินต่ำ ควรมีอาหารเสริมร่วมด้วยจะเป็นการดี อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนอาหารเม็ดสำเร็จรูปให้กับม้า ไม่ควรทำบ่อย เพราะม้าเป็นสัตว์ที่ระวังตัวสูง การเปลี่ยนอาหาร อาจทำให้ม้าไม่กินอาหาร ต้องใช้เวลากว่าจะยอมรับอาหารอีกชนิดได้

สำหรับปริมาณอาหารของม้า หากเทียบกับอาหารหยาบ ได้แก่ หญ้า ควรให้ม้ากินวันละ 15-20 กิโลกรัม ต่อตัว และต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นหญ้าแห้งหรือหญ้าสด หากเป็นหญ้าสดต้องให้ปริมาณมากกว่า เพราะหญ้าสดมีน้ำเป็นส่วนประกอบ

การผสมพันธุ์ สำหรับม้าที่วัลลภาฟาร์มสเตย์ ใช้วิธีจูงตัวหนึ่งเข้าไปหาอีกตัวหนึ่ง โดยจะเลือกจูงเพศเมียไปหาเพศผู้ หรือเพศผู้ไปหาเพศเมีย ก็ไม่ผิด ควรสังเกตดูวงจรการเป็นสัดของม้า โดยปกติม้าจะมีวงจรการเป็นสัดอยู่ที่ รอบละ 21-22 วัน การเป็นสัดในแต่ละครั้งอยู่ที่ 4-5 วัน เมื่อเริ่มเป็นสัด ก็สามารถนำไปผสมพันธุ์ได้ทันที

การผสมภายในฟาร์ม ปล่อยให้ม้าผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติ ยกเว้น แม่พันธุ์หรือพ่อพันธุ์มีความแตกต่างกันมาก ควรช่วยประคองระหว่างการผสมพันธุ์ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย กรณีม้าล้มระหว่างการผสมพันธุ์

บริเวณคอก ควรมีพื้นที่มากพอสำหรับม้าหมุนตัว กลับตัว นอนและลุกขึ้นได้สะดวก เพราะปกติแล้วคอกนอนของม้าจะปล่อยไว้คอกละ 1 ตัว ไม่ให้เกิดการเตะหรือเบียดกันเกิดขึ้น และควรมีหลังคาหรือโรงเป็นที่หลบฝนและร่มให้ด้วย

หลังการผสมพันธุ์ สามารถจดบันทึกและกำหนดวันคลอดของม้าได้ โดยนับจากวันผสมพันธุ์ไปอีก 11 เดือน หรือประมาณ 340 วัน

ระหว่างการตั้งท้อง ควรมีแคลเซียมสำหรับม้าให้กินเสริมจากอาหารปกติ เพื่อบำรุงลูกม้าในท้อง รวมถึงแม่ม้าหลังคลอดด้วย

เมื่อม้าใกล้คลอด ให้สังเกตสะโพกม้าจะลดลง ท้องเริ่มย้อย ฐานนมเต่ง นมทั้งสองเต้าตึง ก่อนคลอดเมื่อเริ่มมีลักษณะเช่นนี้ในม้าสาว หรือม้าท้องแรก ควรจับนมม้าบ้าง เพื่อให้เกิดการคุ้นชิน หลังที่ลูกม้าคลอดมาจะได้กินนมได้อย่างคุ้นเคย

ม้าจะคลอดเองตามธรรมชาติ บริเวณคลอดก็คือภายในคอกของม้า ควรทำความสะอาดรอไว้ เมื่อใกล้วันคลอด และควรมีฟางจำนวนหนึ่งไว้ซับของเสียที่เกิดระหว่างการคลอด ควรดูแลคอกให้แน่นหนา เพราะเพียง 1 ชั่วโมงหลังคลอด ลูกม้าจะเดินได้และเข้าไปดูดนมแม่เอง ในกรณีที่ลูกม้าลุกเดินเองไม่ได้เกินกว่า 2 ชั่วโมง โอกาสที่ลูกม้าเสียชีวิตมีสูง เพราะร่างกายจะเริ่มอ่อนแอลง หากไม่แน่ใจว่าลูกม้าจะกินนมเองได้หรือไม่ ควรรีดนมแม่ม้ามาให้ลูกม้าดมหรือเลีย จากนั้นธรรมชาติของม้าจะหานมแม่กินเอง

หลังคลอด ควรระวัง เพราะม้าจะเป็นสัดเร็วมาก ภายใน 7-10 วันหลังคลอดจะเริ่มเป็นสัด หากผสมก็สามารถทำได้ทันที แต่ควรให้แม่พันธุ์แข็งแรงก่อน โดยทิ้งช่วงการผสมพันธุ์นานอย่างน้อย 2-3 เดือน

การเลี้ยงลูกม้า ควรปล่อยให้แม่ม้าเลี้ยงลูกเองตามธรรมชาติภายในคอกเดียวกัน โดยลูกม้าจะกินนมแม่ม้านานถึง 6 เดือน หลังจากนั้นจึงแยก หากแยกลูกม้าออกมาต่ำกว่านั้น ภูมิต้านทานโรคในลูกม้าจะมีน้อย ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและความแข็งแรงเมื่อม้าเจริญเติบโตขึ้น

ข้อควรระวังอันตรายจากม้า ร.ต.ต. สมนึก เล่าว่า แท้จริงแล้วภัยจากม้า มี 5 อย่าง คือ

  1. การกัด โดยใช้ฟันบนและล่างกัด
  2. การโขก โดยใช้หัวโขกลง
  3. การสับ โดยการยกขาคู่หน้าขึ้นแล้วทิ้งลง
  4. การดีด โดยการใช้ขาคู่หลังงอเข้าหาตัว แล้วดีดออก
  5. การเตะ โดยใช้ขาเตะออกไปด้านข้างลำตัว

ซึ่งภัยทั้ง 5 ชนิด โอกาสเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ตกใจ ระแวง และป้องกันอันตรายที่จะเข้ามาถึงตัว รวมถึงต้องพิจารณาไปถึงสายพันธุ์ของม้าด้วย นอกจากนี้ การเลี้ยงดูม้าก็มีผลต่อนิสัยของม้า

“หากเราทำร้ายม้า ม้าเป็นสัตว์ความจำดี เขาจะจำ แล้วเมื่อมีโอกาสก็จะทำร้ายเรากลับ”

ดังนั้น ร.ต.ต. สมนึก จึงแนะนำว่า การเข้าหาม้าอย่างถูกวิธี มีข้อห้ามที่สำคัญคือห้ามเข้าด้านหลังม้า และเมื่อจะเดินเข้าหาม้า ควรเรียกชื่อ หรือส่งเสียงให้ม้ารู้ตัว ว่าเรากำลังเดินเข้าไปหา และการพูดคุยหรือออกคำสั่งกับม้า ควรใช้น้ำเสียงเนิบหรือลากเสียงยาว เพราะม้าเป็นสัตว์ที่ประสาททางความคิดช้า จะตอบสนองไม่ทันหากเราพูดเร็วเกินไป

ภายในวัลลภาฟาร์มสเตย์ มีม้าทั้งสิ้นราว 40 ตัว เป็นม้าลูกผสมเกือบทั้งหมด ที่เหลือเป็นม้าไทย ร.ต.ต. สมนึก บอกว่า ที่ไม่เลี้ยงม้าเทศหรือม้าสายเลือดร้อย เพราะการดูแลค่อนข้างยาก

อย่างไรก็ตาม ร.ต.ต. สมนึก ย้ำว่า การนำม้าใหม่เข้ามาในฟาร์ม ควรตรวจเลือดก่อนทุกครั้ง และหลังจากนำเข้าฟาร์มไปแล้ว 5-6 เดือน ควรตรวจเลือดซ้ำอีกครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่แฝงมากับม้า โดยโรคที่พบและเป็นอันตรายกับม้ามากที่สุดคือ โรคเอดส์ในม้า และโรคเซอร่า หรือโรคพยาธิในเลือด รวมถึงโรคโลหิตจางในม้า เพราะหากปล่อยไว้เกิดการระบาดขึ้นภายในฟาร์ม อาจสูญเสียม้าทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว

วัลลภาฟาร์มสเตย์ นอกจากจุดเด่นในเรื่องของการทำฟาร์มสเตย์แล้ว ยังสามารถชม เล่น และมีกิจกรรมร่วมกับม้าได้อีกด้วย หรือหากติดใจอยากมีม้าไว้เป็นสัตว์เลี้ยงหรือเป็นเพื่อนเล่น ลองสอบถาม ร.ต.ต. สมนึก ได้ตลอดเวลาที่หมายเลขโทรศัพท์ (082) 717-5633 หรือเยี่ยมชมฟาร์มได้ที่ วัลลภาฟาร์มสเตย์ ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561