“หลังอานหมาดี” บ้านมะขามคู่ ตราด

“สุนัขไทยหลังอาน” เดิมทีนิยมเลี้ยงกันในจังหวัดตราดและภาคตะวันออก เป็นสุนัขพื้นบ้านทั่วไป ไม่ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์กำหนดกฎเกณฑ์มาตรฐานแต่อย่างใด มีอานนิดๆหน่อยๆ ถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อช่วง 50-60 ปีที่ผ่านมา มีคนจากจังหวัดอื่นๆ มาเห็นและชื่นชมนำไปเลี้ยง และเป็นที่นิยมมากขึ้น สุนัขหลังอานจึงกลายเป็นสิ่งที่มีค่า มีราคา

มีการเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ กำหนดลักษณะพันธุ์ และเริ่มมีการพัฒนาสายพันธุ์ ด้วยการผสมพันธุ์เพื่อขายลูก เพาะเลี้ยงพ่อพันธุ์สวยๆ เพื่อรับผสมพันธุ์โดยคิดค่าผสมพันธุ์ ด้วยสุนัขหลังอานที่เข้าใจว่ามีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดตราด คำขวัญของจังหวัดตราดจึงกล่าวไว้ว่า ”เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา”

ช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จังหวัดตราดได้จัดประกวดสุนัขไทยหลังอานขึ้นเป็นระยะ แม้ว่าไม่ต่อเนื่องแต่ทำให้สุนัขไทยหลังอานมีผู้สนใจเลี้ยงขยายพันธุ์มากขึ้น มีแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนาสายพันธุ์ที่มีอัตลักษณ์และโครงสร้างสรีระที่สวยงาม จนกระทั่งสุนัขไทยหลังอานได้รับการจดทะเบียนกับสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ต่อมาสมาคมได้ยื่นจดทะเบียนกับสมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) และได้รับการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์เป็นสุนัขพันธุ์แท้ของโลกเมื่อปี 2536

คุณฐานพงศ์ และ คุณสมจิตร หนูจักร

ฐานพงศ์ หนูจักร-อาจารย์หมู
คอกสุนัขไทยหลังอาน “บ้านมะขามคู่”

คุณฐานพงศ์ หนูจักร หรือ อาจารย์หมู วัย 56 ปี อาจารย์สอนโรงเรียนบ้านแหลมกลัด ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เล่าว่า โดยส่วนตัวพื้นเพเป็นคนจังหวัดตราด ชื่นชอบการเลี้ยงสุนัขไทยหลังอานที่เป็นสุนัขพื้นบ้านทั่วไปมาตั้งแต่อายุ 10 กว่าปี โดยเริ่มเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์จริงจังปี 2554-2555 โดยนำพ่อพันธุ์ที่คัดเลือกลักษณะดี เด่นๆ ผสมพันธุ์กับแม่พันธุ์ที่มีลักษณะดีเด่นที่พ่อพันธุ์ไม่มี ได้พันธุ์ลักษณะดีรุ่นลูกสะสมไว้

และอีก 2 ปีต่อมา ปี 2557-2558 เริ่มขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายโดยสร้างคอกสุนัขไทยหลังอาน “บ้านมะขามคู่” อยู่ในบริเวณบ้านเป็นคอกเล็กๆ ดูแลกับภรรยา คุณสมจิตร หนูจักร คัดเลือกพ่อพันธุ์เดิมๆ ลักษณะเด่นๆ กับ-แม่พันธุ์ที่มีลักษณะเด่น เช่น ขนสีแดงเข้ม (สีเม็ดมะขาม) ต่างกัน ที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากเจ้าอาวาสวัดคิรีวิหาร (พระโสภณธรรมธาดา : อาจารย์หัน) ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด ขยายพันธุ์สู่รุ่นลูก

จากนั้นค่อยสะสมลูกพันธุ์ลักษณะดีๆ มาปั้นเป็นแม่พันธุ์พ่อพันธุ์ เพาะลูกสุนัขขายเป็นอาชีพเสริม แรกๆ มีลูกสุนัขขายปีละ 20-30 ตัว ถึงปัจจุบัน 50-60 ตัว มีพ่อพันธุ์ 4 ตัว แม่พันธุ์ 8 ตัว และลูกๆ เตรียมไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อีก 4 ตัว

อาจารย์หมูสรุปว่าลักษณะของสุนัขไทยหลังอานที่มีเอกลักษณ์ตามต้นตำรับดั้งเดิมของจังหวัดตราดมีเอกลักษณ์ 9 อย่าง คือ หน้าดำ เล็บดำ ลิ้นดำ หางดำ ปากทู่ ตัวสั้น หูตั้ง หลังอาน หางดาบ

ซึ่งอดีต คุณป้าสมคิด วัชรัมภรณ์ (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เลี้ยงอยู่ที่เกาะไม้ซี้ จังหวัดตราด และญาติๆ ได้นำมาพัฒนาสายพันธุ์ และจดทะเบียนเป็นสมาคมเอกลักษณ์สุนัขไทยหลังอาน (Unique TRD Association-ONITA) ไว้แล้ว

“สุนัขไทยหลังอานเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อปี 2530-2535 เพราะเจ้าของนำสุนัขไทยหลังอานที่พัฒนาสายพันธุ์ ชื่อ “ขุนพล” เป็นสุนัข สีแดงเข้ม ขนสั้น หูตั้ง คอเชิด หางดาบ หลังแข็งตรง หลังอาน ไปประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศระดับจังหวัดและระดับประเทศ จากนั้นมีคนมาซื้อให้ราคา 150,000 บาท แต่ไม่ได้ขายขาดให้เก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์เมื่อผสมพันธุ์แต่ละครั้งจะขอแบ่งลูกมาเลี้ยง จากนั้นทำให้มีคอกเพาะพันธุ์สุนัขไทยหลังอานเป็น 100 รายแข่งขันกันขายตามความต้องการของตลาดทั่วประเทศ เช่น จันทบุรี ระยอง ชลบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม อยุธยา โคราช อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงรายและทางภาคใต้ แต่ในจังหวัดตราดกลับไม่นิยมเลี้ยงกัน เพราะไม่รู้วิธีการเลี้ยง ไม่รู้นิสัย เลี้ยงแล้วเลิกราไป ทุกวันนี้เหลือที่ทำเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพราะใจรักประมาณ 10 รายเท่านั้น” อาจารย์หมู กล่าว

คัดพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์
ลูกลักษณะเด่นขาย 8,000-12,000 บาท
พ่อแม่พันธุ์ราคา 25,000-30,000 บาท

อาจารย์หมู เล่าถึงการขยายพันธุ์สุนัขไทยหลังอานของคอกบ้านมะขามคู่ว่า จะเริ่มต้นจาก การคัดเลือกพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์มาเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ ให้ได้รุ่นลูกที่มีลักษณะดีเด่นตามอัตลักษณ์ของสุนัขไทยหลังอาน 9 อย่าง ซึ่งต้องใช้เวลาสะสมพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ที่มีลักษณะดีครบสมบูรณ์ เพื่อให้ได้ลูกสุนัขที่มีคุณภาพดีมีอัตลักษณ์ครบถ้วนและเลือกไว้ปั้นเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์อย่างต่อเนื่อง

เคล็ดลับสำคัญ ข้อที่พึงระวังในการผสมพันธุ์เพื่อให้ได้ลูกพันธุ์ที่ดี 3-4 ข้อ คือ 1. ไม่ผสมสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกันมากเด็ดขาด เช่น พ่อแม่กับลูก พี่น้องที่เป็นครอกเดียวกัน และต้องคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ให้มีคุณสมบัติครบสมบูรณ์มาผสมพันธุ์กัน การผสมพันธุ์ทำได้ปีละ 2 รอบ

2. การคัดเลือกแม่พันธุ์ควรอายุ 1 ปี 6 เดือน ไม่เกิน 5-8 ปี เพราะแม่ยังสาวจะคลอดลูกง่าย แต่ละครอกจะเลือกลูกสุนัขที่ลักษณะดีเตรียมปั้นเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ไว้ 3. ห้ามใช้ยาคุมกำเนิดเด็ดขาด เพราะจะทำให้มดลูกอักเสบ หรือเป็นมะเร็ง ให้ใช้วิธีทำหมันหรือแยกขังกรงเล็ก

ตัวอย่างการคัดเลือกผสมพันธุ์สุนัขไทยหลังอาน ที่เห็นว่าได้ลักษณะดี เด่น เตรียมจัดส่งประกวด 2 ตัว คือ เพชรเมืองเกาะ เพศผู้อายุ 6 เดือน มีลักษณะเด่น สีน้ำตาลแดงเข้มหรือสีเม็ดมะขาม ลิ้นดำ หลังอานเป็นลูกศร ลักษณะร่างกาย สูงใหญ่ อกโต และจิตประสาทสัมผัสดี ไม่กลัวคน เป็นลูกของพ่อพันธุ์คมเพชรอายุ 5 ปีที่คัดเลือกสายพันธุ์ปั้นเป็นพ่อพันธุ์ ผสมกับ แม่พันธุ์ฟ้ารุ่ง (หรือรำไพ) อายุ 2 ปี ที่ปั้นไว้เป็นแม่พันธุ์เคยส่งประกวดปีได้รับรางวัลมาปีที่แล้ว

อานลูกศร

ส่วน ขวัญเรือน เพศเมียอายุ 6 เดือน มีลักษณะเด่นสีน้ำตาลแดงเข้ม อานลูกศร มีขวัญสะบักข้าง หางดาบ เป็นลูกพ่อพันธุ์ศรเพชรอายุ 3 ปี แม่พันธุ์ รำพันอายุ 5 ปี การผสมพันธุ์ต้องสังเกตว่าพ่อพันธุ์ขาดอะไร ต้องหาแม่พันธุ์มาเติมให้เต็มหรือหาลักษณะเด่นๆ มาผสมกัน จะได้ลักษณะเด่นๆ ดีๆ ของพ่อแม่ 80-90%

ส่วนลักษณะทั่วๆ ไปลิ้นดำ หน้าดำ หลังอาน สุนัขคอกบ้านมะขามจะมีทุกตัวอยู่แล้ว ถ้าได้ลูกสุนัขที่มีลักษณะดี จะคัดเลือกเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ไว้ หรือถ้าขายจะได้ราคาสูงตัวละ 25,000-30,000 บาท ขณะที่ทั่วไปราคา ตัวละ 8,000-12,000 บาท

“บ้านมะขามคู่จะคัดเลือกผสมพัฒนาสายพันธุ์ขายปีละ 50-60 ตัว ตัวละ 8,000-12,000 บาท ลูกค้าจองหมดไม่พอขาย ตอนนี้มีแจ้งมาประมาณ 70 ตัว ส่วนใหญ่ 80% เป็นคนต่างจังหวัด อีก 20% คนจังหวัดตราด ล่าสุดครอกของแม่รำพึงอายุ 3 ปีเป็นแม่พันธุ์สาวประกวดได้รองแชมป์ปี 2560 มีลูก 7 ตัว ตั้งใจจะคัดเลือกลักษณะเด่นๆ ไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ แต่มีลูกค้าจากภูเก็ตชอบขอซื้อเพศผู้ไปขายตัวละ 15,000 บาท และเพศเมียลูกค้ามาจากแหลมฉบังราคาตัวละ 18,000 บาท จะใช้วิธีใครจองก่อนได้ก่อน ไม่มีการเรียกเงินมัดจำ เพราะต้องการให้มาเห็นพึงพอใจลูกสุนัขก่อนค่อยตกลงซื้อ-ขาย ลูกค้าส่วนใหญ่มารับเอง บางรายให้นำไปส่งอยู่ไกลถึงชุมพร เชียงรายเราก็ยินดีและไม่คิดค่าใช้จ่าย บางรายมีสุนัขฝากเลี้ยงอย่างตอนนี้ ชื่อจอมพลเพศผู้ อายุ 6 เดือน ลูกค้าเคยซื้อไปเลี้ยงราคา 9,000 บาท มาให้ขายต่อตัวละ 18,000 บาท ผมและภรรยาเลี้ยงสุนัขด้วยใจรัก เมตตาไม่ได้ทำเชิงธุรกิจอย่างเดียว” อาจารย์หมู กล่าว

ความสะอาดในคอก

เลี้ยงดูเน้นความสะอาด
ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

เลี้ยงพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ไว้ 3-4 ตัว โดยมีกรงเล็กๆ แยกเพศผู้เลี้ยงต่างหาก และมีกรงเดี่ยวๆ เลี้ยงแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์ หรือสำหรับแม่ลูกอ่อนอีก 4-5 กรง ด้านหลังบ้านมีสวนผลไม้ หลังบ้านให้สุนัขได้เดินวิ่งออกกำลังกาย

คอก 10×51 เมตร

สุนัขจะใช้เวลาตั้งท้อง 2 เดือน คลอดลูกครั้งละหรือครอกหนึ่ง 7-11 ตัว ลูกสุนัขที่จะขายได้ต้องอยู่กับแม่จนกระทั่งอายุ 45 วันไปแล้ว เพื่อให้เติบโตแข็งแรงที่จะนำไปเลี้ยงต่อแบบไม่ยุ่งยาก อัตราผสมพันธุ์พ่อพันธุ์ : แม่พันธุ์ 1 : 5 พ่อพันธุ์ ตัวหนึ่งจะสามารถผสมแม่พันธุ์ได้ปีละเป็น 100 แม่พันธุ์ แต่ที่นี่จะไม่รับบริการ จะให้ผสมพันธุ์กันในกลุ่มคนคุ้นเคยและแบ่งลูกกัน

หน้าดำ-ลิ้นดำ อนาคตพ่อพันธุ์

อาจารย์หมูแนะนำ
การเลี้ยงดูสุนัขไทยหลังอาน

1. ควรเลี้ยงขังในกรงหรือระบบปิด ป้องกันติดเห็บ หมัด และให้อยู่ในสายตาไม่ปล่อยอิสระเพราะนิสัยจะตื่นตัวง่าย ชอบล่าสัตว์ จะไม่ไปกัดสัตว์เลี้ยงอื่นๆ 2. ความสะอาดสำคัญมาก กรงต้องโปร่งมีอากาศถ่ายเท ต้องล้างทำความสะอาดทุกวัน 3. การให้อาหารใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูป ตามขนาดอายุ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และอาบน้ำทุกวัน

4. การให้วัคซีน ต้องปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนดในช่วง 45 วัน คือ การฉีดวัคซีน ป้องกันหลอดลม-ลำไส้อักเสบ ไวรัสตับอักเสบ ป้องกันหวัด และการหยอดยาถ่ายพยาธิภายใน พยาธิผิวหนัง และมีโปรแกรมต่อเนื่องช่วงอายุ 60 วัน และ 90 วัน หลังจากลูกค้านำไปเลี้ยง

5. การออกกำลัง ต้องพาเดินจูงออกกำลังกายทุกเช้า-เย็น ครั้งละ 30 นาทีเพื่อคลายเครียดและฝึกจิตประสาท ถ้าตัวใหญ่ต้องจูงทีละตัว ลูกสุนัขตัวเล็กๆ อาจจะปล่อยหรือจูงหลายๆ ตัวได้

อายุ 18 วัน
มะขามกับลูกอายุ 40 วัน ขายหมดแล้ว

“ธรรมชาติของสุนัขไทยหลังอาน แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย เลี้ยงง่ายไม่ต้องใช้อาหารสำเร็จรูปทุกครั้ง แต่ต้องระวังอาหารที่ไม่ควรให้กิน คือ กระดูกไก่ ไก่ต้ม ทำให้ขนร่วง ทางที่ดีควรเป็นอาหารสำเร็จรูปอาจจะเพิ่มปลาต้มน้ำตาลอ้อยบ้าง ไม่ให้มีอาหารรสเค็มจะมีปัญหากับไต เมื่อลูกค้ามาซื้อจะมีคู่มือการเลี้ยงแนะนำหรืออาจจะเปิดเพจ เฟซบุ๊กบ้านมะขามคู่จะมีคำแนะนำหรือโทร.มาปรึกษาได้ตลอด” อาจารย์หมู กล่าว

หัดกินข้าว

ฟิตตัว “เพชรเมือเกาะ” และ “ขวัญเดือน”
ประกวดงานวันระกำหวาน ปี 2561

“รำไพ” และ “รำพึง” สุนัขเพศเมีย อายุ 2 และ 3 ปี ของอาจารย์หมู ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และ 1 ในการประกวดสุนัขหลังอานในงานวันตราดรำลึก และงานวันระกำหวาน ผลไม้และของดีเมืองตราด ประจำปี 2560 ของจังหวัดตราด

รางวัลปี 2560
ถ้วยรางวัล

และในปีนี้จังหวัดตราดจัดให้มีการประกวดสุนัขไทยหลังอานขึ้นในงานวันระกำหวาน ผลไม้และของดีเมืองตราด ปี 2561 ในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2561 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดตราด อาจารย์หมูได้คัดเลือก “เพชรเมือเกาะ” เพศผู้ อายุ 6 เดือน และ “ขวัญเรือน” เพศเมียอายุ 7 เดือน เข้าประกวดประเภทอายุ 6-12 เดือน

เพชรเมืองเกาะ หน้าดำ-ลิ้นดำ
ขวัญเรือน อายุ 7 ปี
เพชรเมืองเกาะ-ขวัญเรือน
มังคุด เตรียมเป็นพ่อพันธุ์ อายุ 7 เดือน

ซึ่งสุนัขที่ส่งประกวด ต้องฝึกจิตประสาทเขาให้รู้จักเข้าสังคม ไม่ตื่นตระหนกกลัวคน ไม่ล่ามไว้นานตลอด 24 ชั่วโมง ต้องนำไปฝึกจูง เช้า-เย็นครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง การจูงให้สุนัขอยู่ด้านซ้ายมือ เมื่อประกวดกรรมการจะเห็นสรีระได้ชัดเจน

“ไม่เคยคิดเลี้ยงสุนัขไทยหลังอานเพื่อส่งประกวด เลี้ยงด้วยใจรัก เห็นคุณค่าต้องการอนุรักษ์ให้คงอยู่ตลอดไป เพราะเป็นสุนัขไทยมีนิสัยน่ารัก ใจดี เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ รักบ้าน และเลี้ยงง่าย แข็งแรง เมื่อส่งประกวดครั้งแรกปี 2560 เห็นชัดเจนว่าการประกวดทำให้คนสนใจสุนัขไทยหลังอานเพิ่มมากขึ้น และเห็นว่าการเลี้ยงต้องมีทั้งการอนุรักษ์และพัฒนาสายพันธุ์ตามมาตรฐานสากล เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ ต่อไปถ้าภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันทำกิจกรรมอื่นๆ ที่สร้างสรรค์เพิ่มขึ้น จะทำให้คนทั้งภายในและต่างประเทศรู้จักสุนัขไทยหลังอานและให้ความนิยมเลี้ยงกันมากขึ้น ขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่ไว้ 8 ไร่ บริเวณริมถนนสุขุมวิท ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้สุนัขไทยหลังอานของชุมชนบ้านชำราก คาดว่าจะเปิดได้ในปี 2562 ซึ่งเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนบ้านชำราก หวังว่าจะทำให้สุนัขไทยหลังอานเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเลี้ยงกันมากขึ้น” อาจารย์หมู กล่าวในตอนท้าย

ลูกค้ามารับ อายุ 2 เดือน
ลูกค้าจากจังหวัดนนทบุรี

สอบถามรายละเอียด คุณฐานพงศ์ หนูจักร “บ้านมะขามคู่” เลขที่ 94/2 หมู่ที่ 3 ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด โทร. (082) 200-5886