น้องเหมียวหน้าบี้ สายพันธุ์เปอร์เซีย (หิมาลายัน)

“ร้องเรียกเหมียว เหมียว เดี๋ยวก็มา”

ถ้าออกเสียง “เมี๊ยว หรือ เหมียว” ลากเสียงสักหน่อย รับรองว่า น้องเหมียวรายไหนรายนั้น เป็นต้องแสดงตัว กระโดดมาหาหรือไม่ก็เคลียคลอไม่ห่างจากที่มาของเสียง

ความพิเศษของเจ้าเหมียวมีอยู่ในทุกสายพันธุ์ ขึ้นกับความชอบของผู้เลี้ยง อย่างเจ้าเหมียวลูกผสมที่ก่อกำเนิดจากแมวสายพันธุ์ไทยกับแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ ที่กำลังจะเอ่ยถึงต่อไปนี้

“หิมาลายัน” เป็นชื่อเรียกแมว ที่มีเชื้อสายจากสายพันธุ์เปอร์เซีย บ้างเรียกว่า แมวเปอร์เซีย หิมาลายัน หรือเรียกสั้นๆ ว่า หิมาลายัน ก็ไม่ผิด

หากจะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับน้องเหมียวหิมาลายันถึงลักษณะนิสัย หรือพฤติกรรมอื่นๆ ของเขา คงต้องมีผู้รู้มาตอบคำถามให้ “เทคโนโลยีชาวบ้าน” จึงพามารู้จักกับ คุณอัญญาศิริ ยิ่งวิริยะ ผู้มีความรักและหลงใหลในแมวเปอร์เซียน หิมาลายัน ทั้งยังเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์จำหน่ายมานานกว่า 10 ปี

ถึงคุณอัญญาศิริ จะปฏิเสธไม่ใช่ผู้รู้ในทุกเรื่องเกี่ยวกับแมวเปอร์เซีย หิมาลายัน แต่ในทุกคำถามก็ได้รับคำตอบที่กระจ่างแจ้งเป็นอย่างดี

“จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงแมว เกิดจากความรักจากใจ เป็นความบังเอิญที่ได้รับช่วงต่อจากเพื่อนบ้านที่รักแมวและเลี้ยงแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย หิมาลายัน ส่งต่อลูกแมวมาให้ 1 ตัว หลังจากนั้นก็เริ่มเลี้ยงเรื่อยมากระทั่งโต จึงลองผสมพันธุ์ด้วยการซื้อสายพันธุ์เปอร์เซีย หิมาลายันเพศผู้มาให้ผสม และได้ลูกออกมาครอกแรก”

หากไม่สังเกตให้ดี อาจเห็นว่าภาพแมวในคอลัมน์นี้ ไม่แตกต่างจากแมวเปอร์เซียทั่วไป ทำไมจึงเรียกว่าแมวเปอร์เซีย หิมาลายัน หรือ แมวหิมาลายัน

ข้อแตกต่างตรงนี้ คุณอัญญาศิริ อธิบายว่า  แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน ส่วนแมวหิมาลายัน เป็นแมวเปอร์เซียอีกชนิดหนึ่ง เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวเปอร์เซียและแมวไทย พันธุ์วิเชียรมาศ ทำให้มีลักษณะรูปร่างหน้าตา และขนยาว เหมือนแมวเปอร์เซีย แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ 9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1 หู 2 ขาทั้ง 4 หาง 1 และอวัยวะเพศ 1 ยกเว้นในเพศเมียที่มีเพียง 8 จุด มีขนยาวปกคลุมร่างกายคล้ายละอองหิมะ มีนัยน์ตาสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเท่านั้น ซึ่งแมวหิมาลายันได้รับการผสมครั้งแรกในแถบเทือกเขาหิมาลัย จึงได้ชื่อว่า แมวหิมาลายัน

“บางครั้งอาจเรียกว่า แมวหิมะ จุดสังเกตสำคัญจริงๆ ว่าเป็นแมวหิมาลายันแท้หรือไม่ ให้ดูที่ดวงตา ต้องตาสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเท่านั้น ไม่เฉพาะสีตาที่ผู้ซื้อควรสังเกต แต่ควรดูที่แต้มว่ามีหรือไม่ ซึ่งลูกแมวเกิดใหม่จะมีแต้มจะยังไม่ชัด ต้องรอให้ลูกแมวอายุ 45 วันไปแล้ว จึงจะสังเกตได้ชัดเจน”

ในกลุ่มผู้ซื้อคนไทยที่นิยมแมวหิมาลายัน ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกว่าเป็นแมวลูกผสมจากแมวไทย ทั้งยังมีแต้ม 9 จุด ซึ่งถือเป็นแมวมงคล ผู้ซื้อส่วนใหญ่นิยมซื้อเลี้ยงเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้ การเลือกซื้อยังดูใบหน้าของแมว ความนิยมในแมวหน้าบี้มากกว่าแมวหน้าตุ๊กตา

หน้าบี้ ระดับจมูกกับตาจะเป็นแนวเดียวกัน

หน้าตุ๊กตา จมูกจะยาว หล่นลงมา

หากครบตามคุณลักษณะ พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ นำเข้าจากต่างประเทศ และมีใบรับรองพันธุ์ประวัติ หรือใบเพ็ดดิกรี (Certificate Pedigree) ด้วยแล้ว ราคาแมวหิมาลายันอาจสูงกว่า 20,000 บาท เลยทีเดียว

เมื่อถามถึงการดูแลเอาใจใส่ คุณอัญญาศิริ บอกว่า เหมือนการเลี้ยงดูแมวทั่วไป ยกเว้นอาการแพ้อากาศที่จะพบง่ายในแมวชนิดนี้ เนื่องจากโพรงจมูกสั้นและตีบ ทั้งยังอยู่ติดกับรอยต่อสมอง หากเป็นหวัดจะมีอาการมากกว่าแมวชนิดอื่น

ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรให้อยู่ในที่เย็นมาก หากเลี้ยงในห้องแอร์ ควรใส่เสื้อหนา โดยเฉพาะลูกแมวที่ขนน้อย หากป่วยนานจะทำให้มีอาการทางปอดตามมา การรักษาจะค่อนข้างยาก ดังนั้น เมื่อพบว่าแมวมีอาการจาม หรือมีน้ำมูกใสๆ ควรให้ยาแพ้อากาศได้ทันที

“ลูกแมวก็เหมือนเด็กอ่อน ถ้าพบว่าจามหรือเริ่มมีน้ำมูก ควรให้ยาของเด็กอ่อนทานลดอาการได้ ยกเว้นมีไข้ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ ซึ่งตัวยาที่ได้รับกลับมาจะอยู่ในกลุ่มยาฆ่าเชื้อ ยาลดน้ำมูก และยาลดไข้ และควรระวังลูกแมวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน หากเลยวัยนี้ไปแล้ว แมวจะแข็งแรงและป่วยน้อย”

คุณอัญญาศิริ เล่าว่า ในแมวแต่ละตัว ภูมิต้านทานต่อโรคจะไม่เท่ากัน เช่น ลูกแมวครอกเดียวกัน จำนวน 5 ตัว มีสีเผือก 1 ตัว ซึ่งถือว่าแปลกแตกต่างกว่า ขายได้ราคาดีกว่า แต่จะพบด้วยว่า เขาอาจป่วยได้ง่ายกว่าทุกตัว

การเริ่มต้นเลี้ยงแมว คุณอัญญาศิริ แนะว่า หากต้องการเลี้ยง ควรเลือกให้เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ ควรมีวิธีการเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์

พ่อพันธุ์ จมูกได้ระดับ รูจมูกไม่ถึงกับตีบมากไป ลำตัวสั้น ป้อม ขาใหญ่ รอบกะโหลกศีรษะมีใหญ่

แม่พันธุ์ ลำตัวยาว ท้องกว้าง

เหตุผลที่คุณอัญญาศิริ แนะนำให้เลือกลักษณะพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ตามนี้ เนื่องจาก ลูกที่ได้จะได้รับยีนจากพ่อพันธุ์มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแม่พันธุ์มีเหตุผลสนับสนุนเพียงคลอดลูกได้ง่าย และได้ลูกจำนวนมากเท่านั้น

ที่สำคัญ อายุของแมวที่มีสภาวะเหมาะสำหรับการเพาะ และขยายพันธุ์ ต้องมีอายุ 1 ปีขึ้นไป

การผสมพันธุ์ในแมว จำเป็นต้องให้แมวเป็นอิสระ โดยปล่อยให้ตัวผู้และตัวเมียอยู่ด้วยกัน ให้ผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติจะดีที่สุด ยกเว้น ฟาร์มแมวที่รับผสมพันธุ์ อาจมีวิธีผสมโดยไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม คุณอัญญาศิริ เตือนว่า ควรระวังการผสมพันธุ์ โดยไม่ทราบที่มาของคู่ เพราะอาจติดโรคได้ และโรคติดเชื้อดังกล่าวแพร่กระจายได้รวดเร็วมาก อาจทำให้สัตว์เลี้ยงอื่นที่เลี้ยงไว้ด้วยกันติดเชื้อไปด้วย

การตั้งท้องในแมวหิมาลายัน ควรอยู่ระหว่าง 60-65 วัน หากต่ำหรือนานกว่านั้น ลูกแมวที่คลอดมาจะมีสภาพไม่สมบูรณ์ อาจมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งได้

โดยปกติของการคลอดในแมว คุณอัญญาศิริ ให้ข้อมูลว่า แมวก็เหมือนสัตว์ทั่วไปที่สามารถคลอดเองได้ เลียและกัดรก ให้ความอบอุ่นลูกหลังคลอด แต่แมวหิมาลายันบางตัวอาจช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จำเป็นที่ผู้เลี้ยงต้องทำคลอดให้ เนื่องจากแมวหิมาลายันที่นิยมเลี้ยงเป็นพันธุ์หิมาลายันหน้าบี้ หากหน้าบี้มากความคล่องตัวที่จะเลียและกัดรกให้กับลูกแมว อาจทำไม่ได้หรือไม่ถนัด หรือแม่แมวอาจเลือกไม่ทำ

การให้วัคซีน เป็นไปตามตารางการให้วัคซีนของกรมปศุสัตว์ เช่น วัคซีนรวม 5 โรค ฉีดให้ในแมวอายุ 2 เดือน เมื่ออายุครบ 3 เดือน ฉีควัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เมื่ออายุครบ 6 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลูคิเมีย หรือโรคเลือด หลังจากนั้นให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี

“ลูคิเมีย เป็นโรคที่ติดจากกระแสเลือด โอกาสเกิดขึ้นได้ในแมวทุกตัว แต่ถ้าผู้เลี้ยงทราบแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ของแมวที่เลี้ยงไว้อยู่แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคลูคิเมียก็ได้”

โรคอีกชนิดที่ควรระวัง และมักเกิดขึ้นกับแมวขนยาว คือ ลำไส้อักเสบ หรือ ลำไส้ติดเชื้อ

คุณอัญญาศิริ บอกว่า สาเหตุของโรคดังกล่าวเกิดจากการที่แมวเลียขนตัวเอง ทำให้ขนติดเข้าไปและรวมกันเป็นก้อนอยู่ในท้อง ก้อนขนดังกล่าวจะไม่ได้รับการย่อย โดยธรรมชาติแมวไทยจะกินหญ้าช่วยเรื่องการขับถ่าย ก้อนขนอาจหลุดออกมากับอุจจาระ ช่วยระบายของเสียในช่องท้องได้ แต่สำหรับแมวหิมาลายัน ไม่ได้รับการเรียนรู้การกินหญ้าช่วยในการขับถ่ายของเสีย ทำให้ก้อนขนไม่ถูกขับถ่ายออก เกิดเป็นก้อน ส่งผลให้ท้องโต เมื่อพบสัตวแพทย์จะได้รับการสันนิษฐานว่า ป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ และเมื่อก้อนขนอุดตันระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่าย จะทำให้แมวเสียชีวิตในที่สุด

การแก้ปัญหา คุณอัญญาศิริ บอกว่า เท่าที่ทราบการให้อาหารสูตรกำจัดก้อนขนจะช่วยได้ แมวจะขับถ่ายอุจจาระออกมาพร้อมก้อนขน ฉะนั้น การให้อาหารแมวปกติ ควรให้สูตรกำจัดก้อนขนร่วมด้วย

“การให้อาหารแมวก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรกะปริมาณอาหารให้พอกับจำนวนแมวที่เลี้ยง เพื่อให้กินในครั้งเดียวหมด ถ้าเหลือควรเก็บด้วยการปิดฝา และให้กินอีกครั้งในวันเดียวกัน ไม่ควรเหลือค้างในวันรุ่งขึ้น เพราะกลิ่นอาหารจะหายไป แมวจะไม่กิน ทำให้ต้องทิ้งอาหาร ถือเป็นการสิ้นเปลืองอย่างหนึ่ง”

เมื่อจำเป็นต้องบำรุงขน เพื่อความสวยงาม เพราะแมวหิมาลายัน เป็นแมวที่มีลักษณะเด่นที่ขนและแต้ม เทคนิคของคุณอัญญาศิริในการบำรุงขนแมวหิมาลายัน เธอทำด้วยการนำเนื้อไก่สดต้ม ใส่เกลือ จากนั้นนำเนื้อไก่มาฉีกให้เละๆ ก่อนให้แมวกิน

“เกลือที่ใส่ขณะต้มเนื้อไก่ จะช่วยรักษาระบบภายในช่องท้องของแมว ส่วนเนื้อไก่เป็นโปรตีนที่ดีที่สุดสำหรับแมว ช่วยทำให้ขนมีสุขภาพดี ผลต่อเนื่องคือ แมวมีน้ำหนัก ไม่มีโรค”

ข้อแนะนำในท้ายที่สุด สำหรับคนที่รักแมว คุณอัญญาศิริ ย้ำว่า นอกเหนือจากการเลือกแมวให้ได้คุณลักษณะที่ถูกต้องตามสายพันธุ์แล้ว ควรเลือกฟาร์มที่มีสถานที่เพาะเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน ทั้งยังควรเลือกแมวที่ได้รับการฝึกการกิน การขับถ่ายแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นภาระหลังการซื้อ

ข้อแนะนำที่มากมาย ทำให้ทราบได้ว่า การดูแลเอาใจใส่ การเลี้ยงดู การเพาะและขยายพันธุ์ ของคุณอัญญาศิริ ที่มีต่อแมวเปอร์เซีย หิมาลายัน ไม่ได้เป็นเพียงความชอบเพียงเล่นๆ แต่เป็นความรักที่ทุ่มเทได้ทั้งหมดจริงๆ

สนใจแวะเวียนไปชมน้องเหมียวขนฟูนุ่มน่ากอด สอบถามได้ที่คุณอัญญาศิริ ยิ่งวิริยะ เลขที่ 31/14 หมู่บ้านดินอุดม 1 ซอยวัดลาดปลาดุก ตำบลบางคูลัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 084-433-8933 ยินดีรับทุกสาย