มหาชนก มะม่วงพันธุ์ไทย นามพระราชทาน

มะม่วงมหาชนก เป็นมะม่วงพันธุ์ที่คนไทยนิยมกินผลสุก เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์โดยบังเอิญ ระหว่างพันธุ์ซันเซทกับพันธุ์หนังกลางวันของบ้านเรา เกิดเป็นมะม่วงพันธุ์ใหม่ ตั้งชื่อว่า “มหาชนก” หรือ “ราชาทรงโปรด” เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

หลังจากนั้น มะม่วงมหาชนก กลายเป็นที่รู้จัก และได้มีการนำกิ่งพันธุ์มาขยายการปลูกให้เกษตรกรที่สนใจทั่วประเทศ

“มะม่วงมหาชนก” เป็นมะม่วงที่มีจุดเด่นคือ ผลมีขนาดใหญ่ รูปทรงยาว เปลือกหนา รสชาติอร่อย เหมาะสำหรับส่งออก ผลดิบเป็นสีเขียว รสเปรี้ยว ผลสุกผิวสีเหลืองทองจนถึงสีแดงทั้งผล มองดูสวยงาม ทั่วไปนิยมกินผลสุก เมื่อสุกจัดจะมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติหวาน หอม เนื้อแน่น เปลือกหนา เมล็ดลีบบาง รสชาติถูกใจคนไทยและต่างชาติ

มะม่วงมหาชนก เป็นพันธุ์ที่ได้จากต้นที่ปลูกโดยการเพาะเมล็ด (พ่อแม่มะม่วงพันธุ์ซันเซทกับพันธุ์หนังกลางวัน) นำไปทดลองปลูกไว้ที่สวน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เริ่มปลูกครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2529 จนในปี พ.ศ. 2533 ออกผลผลิตเป็นครั้งแรก

ดำเนินการปลูกมะม่วงมหาชนกทั้ง 6 ต้น

จากข้อมูลข้างต้น มะม่วงมหาชนก ได้รับการยอมรับว่าเป็นพันธุ์ที่ถูกต้องตามหลักเพื่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศและตามหลักวิชาการ ถือว่าเป็นมะม่วงนามพระราชทาน

ทางกรมศิลปากร จึงคัดเลือกมะม่วงมหาชนกมาจัดในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

โดยมอบหมายให้ บริษัท คอร์เดีย จำกัด เป็นผู้ดูแล

คุณไพฑูรย์ น้อยคำมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์เดีย จำกัด ให้ข้อมูลว่า สำหรับมะม่วงมหาชนกที่ใช้ในงานพระราชพิธี ปลูกลงแปลงต้นแรก ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 บริเวณแปลงติดรั้วราชวัติ ฝั่งถนนหน้าพระธาตุ มีการออกแบบจำลองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีการจัดแสดงแปลงนาข้าว มีขอบคันนาเป็นหมายเลข ๙ และได้นำไม้ยืนต้นที่เกี่ยวข้องกับ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้แก่ ต้นยางนา มะม่วงมหาชนก เป็นต้น

คุณไพฑูรย์ น้อยคำมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์เดีย จำกัด

มะม่วงมหาชนก ปลูกทั้งหมด จำนวน 6 ต้น คัดเลือกต้นที่มีรูปทรงสวยงาม ในตอนแรกเข้าใจว่าต้นพันธุ์คงหาได้ไม่ยาก แต่ต้องประสบกับข้อจำกัดของพื้นที่ ความกว้าง ความสูง ของต้นไม้ เนื่องจากทางกรมศิลปากรได้กำหนดความสูงของต้นไม้มาให้ โดยความสูงต้องอยู่ในระดับที่สวยงาม ไม่ให้บดบังอาคาร และงานสถาปัตยกรรมส่วนอื่น แต่ไม่ให้ต่ำเกินไป เพราะด้านล่างปลูกหญ้าแฝกโดยรอบ เพราะฉะนั้นความสูงที่กำหนดไว้คือ 3.5-4 เมตร ทรงพุ่ม 2.5 เมตร ซึ่งต้นขนาดความสูงเท่านี้หายากพอสมควร แต่ทางผู้ได้รับมอบหมายอยากที่จะทำให้ดีที่สุด ทำจนสุดความสามารถ จึงได้ออกตระเวนหา ติดต่อไปตามแหล่งพันธุ์มะม่วงมหาชนกมากมายหลายที่ แต่ก็หาไม่ได้ตามขนาดที่ต้องการ จึงได้ติดต่อสอบถามข้อมูลไปที่กรมวิชาการเกษตร เพราะต้องการแหล่งที่เชื่อถือได้และต้องการพันธุ์ที่ถูกต้อง

“หลังจากได้ทราบข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตร จึงดำเนินการค้นหามากมายหลายแหล่ง ทั้งจากแหล่งคนรู้จักที่เชื่อถือได้ อาทิ ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดสุโขทัย รวมถึงที่จังหวัดลำพูนก็ตามไปหามาจนได้ต้นพันธุ์ส่วนหนึ่ง และทุกพื้นที่ได้สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม คือพอพี่น้องเกษตรกร ชาวบ้านในละแวกที่ได้รับรู้ว่าเรามาหาต้นมะม่วงมหาชนก เพื่อนำไปประกอบงานพระราชพิธีประดับแปลงนาพระเมรุมาศ ทุกคนต่างรวมใจร่วมบริจาคช่วยกันหา ทุกคนทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากขอ สิ่งเหล่านี้ทำให้ทราบได้ว่าประชาชนทุกคนรักและเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้ในดวงใจตลอดมา” คุณไพฑูรย์ กล่าว

มะม่วงมหาชนก 6 ต้น สื่อถึงอะไร

ในความหมายตรงนี้คือ ทางกรมศิลปากร และฝ่ายภูมิทัศน์ มีความเห็นว่า มะม่วงมหาชนก จำนวน 6 ต้น เป็นจำนวนที่กำลังเหมาะสมในการจัดวาง และมีความสวยงาม หากมองจากด้านหน้าของงานพระราชพิธี มีความกว้าง 200 เมตร เมื่อประกอบพิธีเคลื่อนพระมหาพิชัยราชรถ ในมุมอาคารประกอบต่างๆ จะปลูกไม้ไล่ระดับกันลงมา เพราะฉะนั้นปลูกในจำนวน 6 ต้น กำลังเหมาะสม และเห็นเด่นชัด โดยปลูกติดกับคันนาหมายเลข ๙ ด้านล่างเป็นหญ้าแฝก และด้านหลังเป็นต้นมะขาม

“สำหรับการดูแลรักษา ก่อนที่จะนำต้นมะม่วงมหาชนกมาปลูก มีการดูแลที่โรงเพาะชำของบริษัท ที่คลองสิบสี่ รวมไปถึงช่วงตั้งแต่เริ่มปลูกถึงงานพระราชพิธี ปัญหาของต้นมะม่วงคือ หนอนเจาะลำต้น ต้องป้องกันดูแลด้วยวิถีอินทรีย์ ฉีดสารสะเดา น้ำส้มควันไม้ เข้าไปเพื่อไล่หนอน กำจัดแมลง ในส่วนนี้ค่อนข้างเข้มงวด เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยต่อทุกคนเป็นหลัก” คุณไพฑูรย์ น้อยคำมูล กล่าว