ทำงานด้วยเศษผ้าศิลปะตัดแปะ

ศิลปะตัดแปะ สมัยเมื่อวัยเด็ก เคยเรียนศิลปะตัดแปะ สนุกมากกับการฉีกกระดาษมาแปะให้เป็นรูปต่างๆ กระดาษฉีกหยาบๆ ได้ตามที่ต้องการ เล็กใหญ่ก็แล้วแต่ ตัดแปะลงบนกระดาษแข็งเป็นรูปอะไรก็ได้ ฉันทำดาวบนฟ้า เพื่อนทำบ้าน บางคนทำวัว ควาย ทำร้านขายของ ทำทุ่งนา

มนุษย์เราต่างมีความฝันที่ต่างกันและเดินไปตามความหวังความฝันนั้น แต่มีความรักนำทางและผลักดัน ความรัก ความหวัง และความฝัน เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องมี

ครูโอ

เราเชื่อว่ามีรางวัลรออยู่

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ฉันไปงานเวิร์กชอปที่ร้านกาแฟบ้านเพื่อน เดี๋ยวนี้มีการทำแบบนี้กันมากขึ้น เวิร์กชอปเรื่องต่างๆ  เป็นการมาเรียนรู้ร่วมกันและทำจริง ใครสนใจอะไรก็ไปหาสิ่งนั้น บางแห่งก็ราคาสูง บางแห่งราคาต่ำ บางแห่งก็ไม่ต้องเสียเงินซึ่งก็เลือกกันได้ บางคนว่าต้องเสียเงินหน่อยถึงจะเห็นคุณค่า พวกที่เสียเงินไปก็จะพยายามเพราะเสียเงินไปแล้วมากด้วย ส่วนผู้สอนก็เช่นกัน เขาเสียเงินมาก็ต้องพยายามให้ แต่ที่กล่าวนี้ไม่เสมอไป บางคนเขาอยากแบ่งปันและผู้มาก็ตั้งใจจริงก็ได้ผลเหมือนกันโดยไม่ต้องเสียเงิน

เวิร์กชอปที่ร้านกาแฟ

ฉันชอบการเรียนรู้กันแบบนี้ เลือกได้ เป็นห้องเรียนที่มีชีวิตชีวา มีเสียงหัวเราะ มีความรื่นเริง ไม่ต้องสอบ ไม่มีคะแนน และไม่มีการแข่งขัน ประกวดเอาที่หนึ่งที่สอง

กระเป๋า

ที่เชียงใหม่มีกิจกรรมเวิร์กชอปมากมายอาจจะเรียกได้ว่ามากที่สุดและสามารถเลือกแบบราคาที่เหมาะสมกับเรา จะเลือกของฟรีก็พอหาได้อยู่

แต่ที่เพิ่งไปมานี้เป็นงานผ้าตัดเย็นปะแปะเรียกว่า ศิลปะโบโร เป็นเทคนิคงานต่อผ้าเก่าแก่ของชาวญี่ปุ่น

ฉันสนใจเรื่องนี้เมื่อมีน้องสาวคนหนึ่งเดินทางมาที่ห้องสมุดถนอมแพร เอางานของเธอมาให้ดู เธอบอกว่างานโบโร และเธอมอบงานโบโรที่เป็นกระเป๋าใส่เงินให้ฉันสามใบ

ซ่อมตกแต่งกางเกงยีน

“พี่โพสต์ขายเลยนะคะ สมทบสำหรับกิจกรรมห้องสมุด” บางคนมาดูแล้วบอกว่าเหมือนทำงานไม่เรียบร้อย ก็ต้องอธิบายว่ามันคือโบโรเขาทำแบบนี้แหละ มีความเป็นอิสระ ไม่ติดกรอบ แต่ในที่สุดก็ขายได้ทั้งสามชิ้น ถามทุกคนที่ซื้อไปว่าซื้อเพราะอยากช่วยห้องสมุดหรือเพราะชอบงานนี้ ทั้งสองคนตอบเหมือนกันว่าชื่นชอบงานโบโรและอยากช่วยห้องสมุดด้วย

เลือกเศษผ้า

เจ้าของงานเป็นหญิงสาวชื่อ โอ ทุกชิ้นงานของเธอมีคำว่า โอปะนะยิโกติดอยู่ เธอเล่าว่า

“โอทำชิ้นงานที่ตกแต่งด้วยเทคนิค boro-sachiko โบโรเป็นงานซ่อมแซมผ้าของชาวนาญี่ปุ่นสมัยโบราณ สมัยที่ผ้ายังเป็นสิ่งทอที่หายาก เมื่อผ้าขาดจึงซ่อมแซมด้วยเศษผ้าและด้นด้วยสติกทซ์ซาชิโกะ ในพิพิธภัณฑ์ของญี่ปุ่นมีงานโบโรเครื่องนุ่งห่มสมัยโบราณเก็บรักษาไว้ให้ผู้ที่สนใจเข้าชม และเครื่องแต่งกายสมัยใหม่ได้นำเทคนิคโบโรมาตกแต่งเป็นแฟชั่นรวมสมัยด้วย

งานของโอปะนะยิโก ทำมือด้วยเศษผ้าทอและวัสดุจากธรรมชาติ ตามรากดั้งเดิมของโบโรในสมัยก่อนที่เครื่องนุ่งห่มจะทอด้วยใยกันชง โอจึงใช้ผ้าทอและวัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ทั่วไป”

เธอหลงใหลงานโบโรและทำจนเป็นรายได้เป็นอาชีพ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอชอบเสื้อผ้าเก่า โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสอง นอกจากเลือกมาใช้แล้วต่อมาก็ขายด้วย เพราะงานพวกนี้มันจะมีมาบนเสื้อผ้ามือสองที่ผ่านการซ่อมแซม แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามันเป็นศาสตร์การซ่อมแซมผ้าของญี่ปุ่น ส่วนผ้าทอเก่าๆ ผ้าพื้นบ้านตามบ้านชาวบ้านชาวเขา เพราะเธอชอบเดินทาง ชอบวิถีพื้นบ้านท้องถิ่น ชอบรูปแบบของการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ทอผ้า ปลูกฝ้าย ย้อมคราม  เธอเริ่มเมื่อออกจากงาน

“ลาออกจากงานประจำสามสี่ปีก่อน จะทำงานผ้าขาย ตัดสินใจไปหาที่เรียนเย็บผ้า ไปขอเรียนกับครูป้าอ้อม ครูทำงานผ้าควิลท์ที่เชียงใหม่ เราจะทำงานผ้าแบบไหนที่เราชอบ พอเราชอบเราจะได้มีใจที่จะอยู่กับสิ่งนั้นได้ตลอด ก็มาจบที่โบโร ชอบวิถีลดขยะเอาของเก่ามาใช้  โบโรเหมือนเจอคนที่เราจะรัก มันก็เลยไม่ยากที่เราจะใช้ชีวิตกับโบโร กลายเป็นอาชีพที่เลี้ยงเราได้ เหมือนเรามีความสุขที่จะตื่นมาเจอคนที่เรารักทุกวัน”

ในงานเวิร์กชอปของโอที่ร้านกาแฟ ที่ฉันไปมา มีน้องๆ สนใจประมาณสิบคน ส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานมาจากงานผ้า งานศิลปะ งานทำมือ หรืออยู่ในวิถีการใช้ชีวิตแบบเกษตรอินทรีย์ เขาเรียนกันสนุกสนานมาก

โอจะเอาเศษผ้ามาให้เลือก เอาด้ายเอาเข็มมาพร้อม เริ่มจากเลือกผ้าชิ้นมาก่อนแล้วเลือกเศษผ้ามาวางแปะลงบนผ้าตามแต่ที่ต้องการ โอจะบอกว่าเลือกอย่างอิสระไม่ต้องติดกรอบ เมื่อวางเศษผ้าลงบนผ้าได้แล้วก็เริ่มเย็บด้วยมือแบบด้นให้ติดกัน ออกแบบได้อย่างอิสระเอากรอบออกไปจากตัวเอง

“โบโร ช่วยให้เราเข้าใจมือเราใจเรา เมื่อลงมือทำและสบตาตัวเอง แท้จริงแล้ว เราเป็นอย่างไร อยู่กับเศษผ้าชิ้นปัจจุบัน ที่วางไปแล้วต้องวางใจ และหากอยากกลับมาแก้ไข นั่นคือ ทำให้ดีขึ้นในขั้นตอนด้น”

แค่เลือกผ้าเอามาวางก็สนุกสนานแล้ว แค่ไปดูก็รู้สึกอยากทำจึงลองเอาเข็มด้ายมาด้นดูเล่นๆ เพื่อทำสายผ้าม่าน ในเวลาสี่โมงเช้าถึงสี่โมงเย็นพวกเขาทำชิ้นงานได้คนละชิ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานการทำงานโบโรที่แต่ละคนต้องกลับไปทำต่อไปฝึกฝนเอาเอง

งานที่ได้ไปจะเป็นกระเป๋าคนละใบ และมิตรภาพ ถามโอว่า จะทำเป็นผ้าห่มเลยได้ไหมน่าจะอุ่นดี ไว้ใช้หน้าหนาว แต่น่าจะมีปัญหาเรื่องซักหน่อย งานโบโรน่าจะต้องซักมือ แต่อย่างไรก็คิดว่าจะทำคงนานทีเดียวกว่าจะได้ผ้าห่มหนึ่งผืน

ถ้าดูจากที่มาของโบโรจากคนในชนบทที่เอาเศษผ้ามาต่อ หรือการปะเสื้อผ้ายุคก่อนจนมาเป็นงานศิลปะ งานแฟชั่นยุคนี้ ถือเป็นการต่อยอดมาจากชีวิต การใช้ชีวิต จนเป็นงานศิลปะได้รับความนิยมแพร่หลายมาถึงคนชาติอื่นๆ นี่เป็นเรื่องน่าสนใจยิ่ง

เพื่อนคนหนึ่งที่เป็นช่างตัดเสื้อกล่าวว่า “การต่อผ้าปะผ้านั้นเมืองไทยทำมานานแล้วคนไทยในชนบทเขาก็ปะผ้าต่อผ้าใช้กันมาก่อน แต่เราไม่ได้สร้างสตอรี่เป็นเรื่องเป็นราวและเราไม่ได้ทำงานศิลปะแบบต่อยอดจากฐานของเราหรือบันทึกเรื่องราวเล็กของเราเพื่อให้คนรุ่นหลังสืบต่อ” ต่อทัศนะนี้น่าสนใจมาก

สำหรับผู้สนใจที่อยากทำใช้เอง ทำเป็นอาชีพขายได้ ตอนนี้โบโรเป็นที่นิยม สามารถขายได้ หรืออยากใช้เวลาแบบเป็นสมาธิงานโบโรก็น่าจะช่วยได้ ใครสนใจในช่วงหนาวนี้ โอปะนะยิโก จะมีงานเวิร์กชอป งานเย็บมือง่ายๆ สนุกๆ เธอบอกว่า คนที่เย็บไม่เป็นมาก่อนก็ทำได้ งานเวิร์กชอปของโอปะนะยิโกอยู่ในราคาแบบกิจกรรมที่แบ่งปัน มีค่าใช้จ่ายค่าวัตถุดิบ ค่าอาหารเล็กน้อย ตามเฟซบุ๊กนี้เลยนะคะ https://web.facebook.com/profile.php?id=100002757230883