เผยแพร่ |
---|
“เพชรสังฆาต” เป็นสมุนไพรที่ใช้บำรุงกระดูกมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในพระคัมภีร์สรรพลักษณะ สรรพคุณแลมหาพิกัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยากล่าวถึงสรรพคุณของ “เพชรสังฆาต” ไว้ว่า “เพชรสังฆาต แก้จุกเสียด แก้บิด แก้ปวดในข้อในกระดูก ชอบแก้ลมทั้งปวงแล”
ปัจจุบัน ได้มีงานวิจัยพบว่า “เพชรสังฆาต” (ชื่อวิทยาศาสตร์ Cissus guadrangularis L.) มีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งยืนยันสรรพคุณรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน อุดมด้วยแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญมีองค์ประกอบของแคลเซียมสูงมาก รวมทั้งสารอนาโบลิก สเตียรอยด์ (Anabolic Steroids) มีฤทธิ์เร่งปฏิกิริยาการสมานกระดูกที่แตกหักโดยกระตุ้นการสร้างเซลล์ออสเตโอบลาสต์ (Osteoblast) ซึ่งทำหน้าที่สร้างกระดูกและยังช่วยให้มีการสร้างสารมิวโคโพลีแซกคาไรด์ (Mucopolysaccharides) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการสมานกระดูก ยิ่งกว่านั้นสารคอลลาเจน (Collagen) ในเพชรสังฆาตยังเป็นสารอินทรีย์โปรตีนที่มาจับตัวกับผลึกแคลเซียมฟอสเฟตจนกลายเป็นกระดูกแข็งที่สามารถรับน้ำหนักและมีความยืดหยุ่นในตัวเอง
ผลการทดลองใช้เถาเพชรสังฆาตในสตรีวัยทองซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกพรุน พบว่า ช่วยเพิ่มมวลกระดูกและรักษากระดูกแตก กระดูกหักได้ในขนาดรับประทาน ครั้งละ 2 แคปซูล (น้ำหนักแคปซูลละ 250 มิลลิกรัม) วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร
ผลข้างเคียง/ข้อควรระวัง
- ห้ามเคี้ยวสด เพราะจะระคายปาก คันคอ เนื่องจากมีผลึกแคลเซียมออกซาเลตเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
- ยังไม่มีข้อมูลการใช้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ เพื่อความปลอดภัย
- ไม่กัดกระเพาะ (มีข้อมูลว่ารักษากระเพาะได้อีกด้วย โดยออกฤทธิ์ลดการหลั่งกรด และรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ ด้วยกลไกเดียวกันกับยา omeprazole) แต่อาจเกิดอาการไซร้ท้อง ไม่สบายท้องได้ หากรับประทานตอนท้องว่าง จึงแนะนำให้รับประทานหลังอาหาร
- อาจทำให้ช่วยระบายได้เล็กน้อย หากระบายมากไป ให้ลดขนาดการรับประทานลง และฤทธิ์ระบายของเพชรสังฆาต เป็นฤทธิ์อ่อนๆ ไม่ได้ทำให้ติดยาระบาย หยุดรับประทานแล้วไม่ได้ทำให้ท้องผูก
- บางรายรับประทานแล้วแพ้ มีอาการคันยุบยิบๆ ทั้งตัว แต่ไม่มีผื่น ซึ่งพบคนแพ้น้อยมาก หากแพ้ ควรหยุดรับประทาน
เพชรสังฆาต
สรรพคุณ บำรุงกระดูก บำรุงร่างกาย แก้กระหาย ทำให้ชุ่มคอ
เพชรสังฆาตรับประทานสดจะคันคอ ให้ตัดเป็นท่อนเล็กๆ ห่อกล้วยแล้วกลืน หรือนำมาผสมกับผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะขาม มะนาว เป็นต้น จะช่วยลดอาการคันได้ ครั้งนี้จึงทำเป็นยาเกล็ดก่อนนำมาทำน้ำเพชรสังฆาต
ยาเกล็ดเพชรสังฆาต
ส่วนประกอบ
- เพชรสังฆาต 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
- น้ำสะอาด 250 มิลลิกรัม
วิธีทำยาเกล็ด
- นำเพชรสังฆาตหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปปั่นกับน้ำสะอาด กรองเอาแต่น้ำ
- ตั้งกระทะทองเหลือง หรือสแตนเลส ใส่น้ำตาลลงไปและน้ำเพชรสังฆาต เคี่ยวด้วยไฟอ่อน
3 .เคี่ยวต่อเรื่อยๆ จนสังเกตเห็นว่าน้ำระเหยออกจนหมด จะมีลักษณะคล้ายฟองฟูๆ ปิดเตาไฟคนเร็วๆ จนกว่าจะได้เป็นเกล็ดน้ำตาล
น้ำเพชรสังฆาต
- ยาเกล็ดเพชรสังฆาต 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- น้ำต้มสุก 1 แก้ว (150 ซีซี)
วิธีทำน้ำเพชรสังฆาต
นำยาเกล็ดผสมในน้ำต้มสุก และเติมมะนาว เกลือ ชิมรสตามใจชอบ แช่เย็นก่อนรับประทาน จะสดชื่นยิ่งขึ้น
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560