เห็ดร่างแหสายพันธุ์ไทย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและผู้สูงวัย สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร

ในแต่ละปีประเทศไทยนำเข้าเห็ดร่างแหชนิดอบแห้งไม่ต่ำกว่า 6,500 ตัน ต่อปี คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทจากประเทศจีน

ในปี 2559-2563 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 ได้ศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเห็ดร่างแหสายพันธุ์ไทยที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคใต้ภายใต้แนวคิดเป็นเห็ดสายพันธุ์ใหม่ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยบำบัดโรค ที่สำคัญสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร และลดปริมาณการนำเข้าจากต่างประเทศได้ด้วย

จากการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีการเพาะเห็ดร่างแหพบว่า เห็ดหลินจือเป็นวัสดุผลิตเชื้อขยายที่ดี ทำให้เส้นใยเจริญได้ดี มีความหนาแน่นมาก และใช้ระยะเวลาบ่มเชื้อน้อยเพียง 30 วัน ส่วนสูตรอาหารที่เหมาะสมสำหรับการผลิตเชื้อเพาะคือ สูตรที่มีส่วนผสมของขี้เลื่อยไม้ยางพารา : รำละเอียด : ปูนขาว : ดีเกลือ : ยิปซัม อัตรา 90 : 5 : 1 : 2 : 2 ซึ่งใช้เวลาบ่มเชื้อเพียง 32 วัน และวัสดุเพาะที่เหมาะสมต่อการเกิดดอกคือ สูตรที่มีส่วนผสมของใบไผ่และกิ่งไผ่ : แกลบดิบ : ขุยมะพร้าว อัตรา 50 : 25 : 50 ทำให้การพัฒนาตุ่มดอกจนเก็บผลผลิตครั้งแรกใช้เวลาเฉลี่ย 27-35 วัน

การวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของดอกเห็ดร่างแหสายพันธุ์ไทย พบมีกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี ซีลีเนียม สังกะสี ซึ่งมีส่วนป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งลำไส้ กลุ่มสารสำคัญที่มีส่วนช่วยกระบวนการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ได้แก่ แคลเซียม และแมกนีเซียม รวมทั้งกลุ่มสารสำคัญที่มีส่วนช่วยกระบวนการทำงานของสมองด้านการเรียนรู้และการจดจำ ได้แก่ เหล็ก วิตามิน B9 และวิตามิน B12

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะเห็ดร่างแหสายพันธุ์ไทยไปสู่เกษตรกร ทั้งวิธีการเพาะในตะกร้าซึ่งให้ผลผลิตสูงสุด 794 กิโลกรัม ต่อตะกร้าเพาะ เพาะแบบวิธีขึ้นชั้นให้ผลผลิตเฉลี่ยสูง 3,170 กรัม และเพาะในแปลงให้ผลผลิตประมาณ 2 กิโลกรัม รวมทั้งได้จัดทำแปลงขยายผลร่วมกับวิสาหกิจชุมชนสวนลุงวร อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา เพื่อให้เกษตรกรสามารถประยุกต์ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่เพาะเห็ดร่างแหเพื่อบริโภคในครัวเรือนและเป็นรายได้เสริมอาชีพหลัก โดยได้ผลผลิตเฉลี่ย 5-7 กิโลกรัม ราคาขายกิโลกรัมละ 500 บาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3,500 บาท ต่อแปลงเพาะ โดยมีต้นทุนการผลิต 850 บาท ต่อแปลงเพาะ นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากเห็ดทั้งเห็ดร่างแหชนิดสดและเห็ดร่างแหชนิดแห้ง โดยเมื่อนำไปแปรรูปเป็นอาหารเห็ดร่างแหสายพันธุ์ไทยจะมีความกรุบกรอบของเนื้อสัมผัสและไม่เปื่อยยุ่ย กลิ่นไม่คาว  ซึ่งเป็นเอกลักณ์เฉพาะตัว ต่างจากเห็ดร่างแหที่นำเข้าจากจีนหากต้มเป็นระยะเวลานานเนื้อเห็ดจะเปื่อยและยุ่ย

เห็ดร่างแหสายพันธุ์ไทยมีกลุ่มสารสำคัญซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีส่วนช่วยกระบวนการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจและสมอง มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคในด้านเป็นอาหารบำรุงสุขภาพและบำบัดโรคเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยและกลุ่มผู้รักสุขภาพ ในส่วนของวัสดุที่เหมาะสมต่อการเกิดดอกเมื่อผ่านกระบวนการเก็บผลผลิตแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุปลูกให้แก่พืชผักได้อีกทางหนึ่ง  เนื่องจากมีอินทรียวัตถุและสารอาหารที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ หากสนใจเทคโนโลยีการเพาะเห็ดสายพันธุ์ไทยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา โทร. (074) 586-725