แผลเป็น ดูแลได้ด้วยสมุนไพร

แผลเป็น หากใครเป็นแล้วมีแต่จะรำคาญใจเมื่อพบเห็น ฝากรอยที่ไม่อาจหายเรียบได้ดังเดิม บางคนเกิดแผลเป็นชนิดรอยนูน ก็ยิ่งทุกข์ใจ โดยเฉพาะถ้าเกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ตามข้อต่อบนร่างกายที่ใช้เคลื่อนไหว อาจจะทำให้คนไข้ขยับเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก ซึ่งต้องทำการรักษาต่อไป

ดังนั้น การดูแลป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นหรือการลดรอยแผลเป็น จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยหากท่านมีแผลเป็นใหม่ๆ ให้นวดหรือกดบริเวณนั้นอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 3-6 เดือน อีกวิธีการที่ทำได้ด้วยตนเองคือ ใช้แผ่นซิลิโคนปิดแผล หลังจากแผลหายดีแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ โดยแนะนำให้ปิดด้วยแผ่นซิลิโคนไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ควรปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง 2-3 เดือน นอกจากนั้น ยังมีวิธีการรักษาแบบอื่นๆ อีกหลายแบบ เช่น การใช้เลเซอร์ การทายา การผ่าตัด เป็นต้น ซึ่งอาจจะมีความยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง

สมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดรอยแผล จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ สมุนไพรหลายชนิดที่มีคุณสมบัติดังกล่าว สมุนไพรที่มีงานวิจัยสนับสนุนมากชนิดหนึ่งคือ หัวหอม โดยได้มีการทำเป็นสารสกัดใส่ในผลิตภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อ จากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าได้ผลดีในด้านของการลดรอยดำของแผล และยิ่งถ้าใช้ร่วมกับแผ่นซิลิโคนปิดแผล จะช่วยลดรอยนูนของแผลเป็นได้ ซึ่งน่าจะได้ผลมาจากสารกลุ่ม organosulfur ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวได้

บัวบก เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ตามภูมิปัญญาดั้งเดิมมานาน เกี่ยวกับการรักษาโรคผิวหนังมากมาย อาทิ โรคสะเก็ดเงิน ตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน นำใบบัวบกสดมาล้างให้สะอาด แล้วบดหรือโขลกจนละเอียด จึงนำมาพอกบริเวณผิวที่มีการอักเสบ ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้ดี

บัวบก มีประโยชน์ ไม่ว่าจะรับประทานหรือใช้ทาภายนอก โดยมีงานวิจัยที่สนับสนุน เช่น การศึกษาแผลของผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานแคปซูลสารสกัดบัวบก จนพบว่าแผลหายเร็วขึ้น และลดการเกิดแผลเป็นได้ โดยไม่พบผลข้างเคียงหรืออาการอันไม่พึงประสงค์ อีกงานวิจัยหนึ่งที่นำสารสกัดบัวบกมาใส่ในขี้ผึ้งสำหรับทาแผลไฟไหม้แบบตื้น พบว่า ผิวบริเวณแผลมีอัตราการสร้างเยื่อบุเร็วกว่ายาใส่แผลซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีการคำนวณว่าหากใช้ขี้ผึ้งบัวบกทาแผล จะช่วยทำให้แผลหายได้เร็วกว่ายาแผนปัจจุบันโดยเฉลี่ย 1 สัปดาห์ โดยเป็นผลจากสารเอเชียติโคไซด์ที่ช่วยทำให้แผลหายเร็ว ผ่านกลไกการเพิ่มระดับสารต้านออกซิเดชั่น ลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

เมื่อปี 2018 มีการวิจัยผลของครีมบัวบกเข้มข้น 7% ที่ผลิตจากอภัยภูเบศรเปรียบเทียบกับยาหลอก ในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนัง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามมา โดยให้ผู้ป่วยทาครีมบัวบก วันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกันนาน 12 สัปดาห์ พบว่าครีมบัวบกมีประสิทธิภาพช่วยลดรอยแผลเป็นได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเด่นในเรื่องการปรับสีผิวให้ใกล้เคียงผิวเดิมหลังการผ่าตัด

จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของบัวบกสำหรับการดูแลแผลเป็นนั้นไม่ธรรมดา อย่างไรก็ตาม การรักษาแผลเป็นนั้นต้องอาศัยเวลา พยายามเลี่ยงแสงแดดไม่ให้โดนบริเวณแผลและการทายาอย่างต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด