ฟักข้าว…พืชผักมากคุณค่า เป็นยาดีมาแต่โบราณ

“ฟักข้าว” นับเป็นพืชโบราณ ที่เชื่อว่ามีมาตั้งแต่ก่อนจะค้นหาพืชพรรณธัญญาหาร แต่ทุกวันนี้นับวันจะหาตามธรรมชาติยากมากขึ้น บางพื้นที่หายสูญไปเลย คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะรู้จัก จะเห็นมีคนที่อายุมากสักหน่อยมักจะถามหากัน ก็อาจเป็นเพราะปัจจุบัน มีสื่อเผยแพร่สรรพคุณของฟักข้าว ว่าเป็นพืชมหัศจรรย์ มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เช่น ผิวหนัง เส้นผม และที่สำคัญต้านทานยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเอดส์และยับยั้งมะเร็ง และมีการจดลิขสิทธิ์พืชทรงคุณค่าให้ประโยชน์ของประเทศไทยแล้ว

เป็นพืชที่จัดอยู่ในวงศ์ CUCURBI TACEAE มีชื่อวิทยาศาสตร์ Momordica cochinchinensis Spreg. มีชื่อเรียกแถบภาคกลาง ว่า “ฟักข้าว” ทางเหนือที่จังหวัดตาก เรียก “ผักข้าว” แพร่-น่าน เรียก “มะข้าว” ชาวกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน เรียก “พุกู้เด๊ะ” เชียงใหม่ เรียก “ฟักข้าว” ทางอีสานทั่วไป เรียก “ฝักไฟ” จังหวัดเลย เรียก “หมากข้าว” ปักษ์ใต้ที่ปัตตานี เรียก “ขี้กาเครือ” สตูล-สงขลา เรียก “ขี้พร้าไฟ” เวียดนาม เรียก “แก็กงึก” ซึ่งที่เวียดนามนั้นมีปลูกฟักข้าวกันมาก โดยปลูกพันขึ้นไม้ระแนงข้างบ้าน

ลักษณะทั่วไปของฟักข้าวที่หลายๆ คนไม่รู้จักและอยากรู้จัก ฟักข้าวเป็นไม้เถาเลื้อย พาดพันต้นไม้ใหญ่หรือรั้วบ้าน หรือค้างไม้ เถามีสีเขียวอมเหลือง เถาแก่มีข้อโปนออกเป็นปุ่ม ผิวเปลือกเถามีเม็ดสีขาวเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป เส้นผ่าศูนย์กลางเถา 0.5-1 เซนติเมตร จุดเด่นสังเกตที่ใบ เป็นประเภทใบเดี่ยว รูปร่างคล้ายใบโพธิ์ หรือรูปหัวใจ ขอบใบหยักเว้าลึกเป็นแฉก 3-5 แฉก กว้างยาวเท่ากัน ประมาณ 6-12 เซนติเมตร มีหนวดหรือมือเกาะที่แข็งแรงมาก ดอกเป็นประเภทแยกเพศ ดอกตัวผู้สีเหลืองอ่อน ดอกตัวเมียเล็กกว่า ผลจะออกมากช่วงปลายฝนต้นหนาว

แต่ในช่วงนี้หน้าร้อน ที่มีดิน น้ำ และอายุเหมาะสมก็ให้ผลเหมือนกัน ผลดิบสีเขียวอมเหลือง มีหนามเล็กๆ รอบผลสีเหลือง ผลแก่มีสีเหลืองถึงเหลืองส้ม หรือส้มอมแดง ผลกลมรี เนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ ผลยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร กว้าง 6-10 เซนติเมตร

ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หรือแยกรากปักชำ หรือตัดเถาที่มีรากเลื้อยตามดิน ตัดขนาดยาวพอเหมาะ ปักชำไว้ในที่ชื้น และย้ายปลูกในที่ที่ต้องการ

ถ้าจะนับกันจริงๆ ถือว่าฟักข้าวเป็นไม้พื้นเมืองของไทย พบในบริเวณป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ และที่รกร้างว่างเปล่า ชาวบ้านภาคเหนือ-อีสาน และภาคกลาง นิยมปลูกไว้รับประทาน

ค้นพบว่ามีต้นฟักข้าวอยู่หลายพื้นที่ในเขตอาเซียน มีบางท่านบอกว่า ฟักข้าวน่าจะมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เมียนมา ไทย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พบว่าชาวบาหลีและชาวฟิลิปปินส์นำใบอ่อนและยอดอ่อนมาต้มกินเป็นอาหาร บางแห่งนำเมล็ดมาบีบทำน้ำมันใช้จุดตะเกียง หรือใช้เป็นน้ำมันซักแห้ง (drying oil)

ที่มาเลเซียใช้น้ำมันจากเมล็ดฟักข้าวบำบัดรักษามะเร็งตับ ฟิลิปปินส์ใช้รากฟักข้าวสระผม กำจัดเหา รากเอาไปบดหมักผม กระตุ้นให้ผมดก ประเทศจีนใช้เป็นยา มากว่า 1,000 ปี ใช้เมล็ดแก่บำบัดอาการอักเสบ บวม กลาก เกลื้อน ฝี อาการฟกช้ำ ริดสีดวง ท้องเสีย ผื่น โรคผิวหนัง

ชาวเวียดนามนิยมใช้เยื่อฟักข้าวประกอบอาหารมาก โดยนำเอาเยื่อสีแดงหรือสีส้มแดงจากผลฟักข้าวสุก พร้อมทั้งเมล็ดมาหุงกับข้าวเหนียว ใช้เป็นอาหารบำรุงสายตาดีมาก

เยื่อสีส้มแดงของฟักข้าวมีสารเบตาแคโรทีนสูงมาก มากกว่าแครอต 10 เท่า ในผลฟักข้าว 1 ผล จะได้เยื่อสีแดงประมาณ 2 ขีด มีสารไลโคฟีนมากกว่ามะเขือเทศ 12 เท่า และมีกรดไขมันดีหรือไขมันขนาดยาว ประมาณร้อยละ 10 การกินเบตาแคโรทีนจากเยื่อฟักข้าวสีแดง ซึ่งมีมากถึง 101 มิลลิกรัม บำรุงสายตาได้ดี ไลโคฟีนมีมาก ถือเป็นอาหารต้านมะเร็งที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง

ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า พบโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ HIV หรือเชื้อเอดส์ และยับยั้งเซลล์มะเร็ง มีคนเล่าว่า ที่ปักษ์ใต้กินแกงฟักข้าวใส่ปลากระทิง สามารถลดน้ำตาลและรักษาโรคเบาหวานได้ผลด้วย

การนำฟักข้าวมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน นิยมผลอ่อนและยอดใช้เป็นผัก โดยนำไปนึ่ง ลวกให้สุก รับประทานเป็นผักเครื่องเคียงน้ำพริก ผลอ่อนจะหั่นเป็นชิ้นตามยาวหรือตามขวางก็ได้ สำคัญอย่าทิ้งเปลือกที่มีหนามอ่อนและเยื่อสีแดงส้ม มีประโยชน์มากหลาย ทางเหนือจะนิยมเอาลูกอ่อนไปแกงร่วมกับปลาย่าง ชะอม ชะพลู ผักเชียงดา เป็นแกงแค แต่ไม่ค่อยนิยมใช้ยอดแกงเพราะจะขมนิดๆ เมล็ดจากผลแก่จะอร่อยมาก มีน้ำมันที่มากประโยชน์ เปลือกเมล็ดกรอบ ขบแตกง่าย เมล็ดของผลอ่อนจะนิ่ม หวานอร่อย รับประทานผลฟักข้าวช่วยบรรเทาอาการร้อนในร่างกาย

ผลฟักข้าว 1 ขีด หรือ 100 กรัม ให้พลังงาน 28 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย เส้นใย 0.8 กรัม แคลเซียม 50 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 9 มิลลิกรัม เหล็ก 0.4 มิลลิกรัม วิตามินเอ 202 IU วิตามินบีหนึ่ง 0.11 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.14 มิลลิกรัม ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 178 มิลลิกรัม

ก็อย่างที่บอกไว้ว่า “ฟักข้าว” เป็นพืชที่มหัศจรรย์ มากมายด้วยคุณประโยชน์ ยังมีหลายพื้นที่ตัดต้นทิ้งเพราะรก ขึ้นพันต้นไม้ บางพื้นที่ก็ยังมีอยู่มาก ขึ้นอยู่กับความนิยมชมชอบของคนเรา คนเรานี่ก็แปลกนะ เมื่อของมีจำกัด ก็เร่งขวนขวายเสาะหา ถ้าของมีมากไม่ชายตามอง คนวัยเด็ก วัยหนุ่มสาวไม่รู้จักกันเลย ในสื่อการเกษตรต่างๆ ก็ไม่ค่อยจะเผยแพร่มากนัก คอยดูนะ อีกไม่นานจะมีคนปลูกฟักข้าวเป็นพืชหลักประจำสวน เรียก “สวนฟักข้าว…มหัศจรรย์แห่งพรรณไม้”

เผยแพร่ครั้งแรก วันพฤหัสที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2564