ขลู่ หรือ หนาดงัว … ชาสมุนไพรหอมและดี จึงบอกเพื่อน

Common name : Indian Marsh Fleabane

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pluchea indica (L.) Less

Family : ASTERACEAE/COMPOSITAE

ของดีจากพื้นที่ชายทะเลที่หลายๆ ท่านไม่รู้จักและมองข้าม ใครขับรถมาเที่ยวชายทะเลทางภาคตะวันออก เริ่มตั้งแต่บางพลี ปากน้ำ เรื่อยลงมาแปดริ้ว ถึงบางทราย ชลบุรี อ่างศิลา บางแสน บางพระ บางละมุง ฯลฯ เลยไปจนถึงระยอง จันทบุรี ตราด หากท่านสังเกตมองข้างทาง ริมถนนดีๆ จะเห็นไม้พุ่มชนิดหนึ่งขึ้นอยู่ประปราย บางทีเป็นดงเลยก็มี ดอกเป็นช่อสีขาวอมม่วงอ่อน

มองไกลๆ คล้ายๆ ดอกสาบเสือ พอแก่จะเป็นสีน้ำตาล มีปุยขาว สามารถปลิวลอยตามลมไปได้ไกลๆ ใบสีเขียวสดขอบมีจักเล็กน้อย อวบน้ำ กิ่งก้านสีน้ำตาล ปลายยอดอ่อนเขียว บางทีมีเหลือบน้ำตาลแดงนิดๆ ชอบอยู่ตามที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงและมีระดับน้ำขึ้นลงเสมอๆ จะยิ่งชอบเป็นพิเศษ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มกว้าง ดูเขียวสดใสงดงาม โดยเฉพาะฤดูฝน เมื่อถูกตัดจะยิ่งแตกยอดมาก

ขลู่ ชอบขึ้นใกล้ๆ กับชะคราม มะแว้งเครือ แถบบางแสนหากเจอขลู่ ก็มักจะต้องได้พบเพื่อนเขาทั้งสองชนิดอยู่ด้วยกันตลอด หากแต่ปัจจุบันมีการถมที่ ตัดถนน สร้างหมู่บ้านรุกที่ชายทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ ประชากรพืชท้องถิ่นป่าชายเลนเลยค่อยๆ หายไปทุกทีๆ แม้แต่ไม้ดีๆ อย่างขลู่ก็เช่นกัน เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ในทรรศนะส่วนตัวคิดว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในชุมชนน่าจะมีการให้ความรู้ หรือทำเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเหมือนที่อื่นเขา อย่างที่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี หรือหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่าง บ้านจำรุง ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ก็มีการผลิตชาใบขลู่จำหน่ายกันมานานแล้ว แต่ชลบุรีแทบไม่มีคนรู้จัก ก็เป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน

ผู้เขียนเคยเห็นมากับตา พนักงานเทศบาลตัดหญ้า ถางป่า ฟันต้นไม้ ตัดต้นขลู่ทิ้งมากมายก่ายกอง เข้าไปพูดคุยสอบถามดู ก็ไม่รู้จักว่าที่ตัดทิ้งนั่นคืออะไร ป้าๆ ลุงๆ นั่นก็บ่น แดดร้อน ปวดเอว ปวดแขน เมื่อยไปทั้งตัว บางคนก็บ่นเป็นความดัน เบาหวานพร้อม เลยบอกไปว่า คุณป้าครับ อ้ายที่พวกคุณป้าฟันทิ้งเป็น กองนั่นแหละ ยาสมุนไพรชั้นดีสำหรับคุณป้าเองเลยนะครับ ไม่เชื่อก็ลองดูได้ หลังจากนั้นไม่นานเจอกันอีก ป้าแกบอกขอบอกขอบใจ เออ! มันดีจริงว่ะพ่อหนุ่ม ก็ตัวผมเองก็จิบอยู่ประจำบ่อยๆ นี่นา ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะ ที่บ้านก็กินกันทุกคน กลับกรุงเทพฯ ทีไรก็ตัดไปฝากพ่อกับแม่ทุกครั้ง ที่เอาไปถวายพระก็บ่อย พระที่อาพาธท่านก็ชอบ เนื่องจากโดยมากพระภิกษุที่อายุมากๆ มักจะมีปัญหาเรื่องขัดเบา ปัสสาวะไม่ออก กะปริดกะปรอย เนื่องจากต่อมลูกหมากโต ได้ชาใบขลู่หอมๆ ทีนี้ฉี่สบายไม่ทรมาน นั่งสมาธิปฏิบัติภาวนาก็ไม่ค่อยปวดเมื่อยอีกด้วย

เอากันจริงๆ แล้ว ขลู่ มีสรรพคุณเยอะ ลดน้ำตาลในเลือด ปรับ Balance ความดันโลหิต ถ้าความดันสูงก็จะลด ถ้าความดันต่ำก็จะเพิ่มให้สมดุล มีฤทธิ์ขับเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดกลิ่นปาก ต้มน้ำอาบบรรเทาอาการคัน ลดเส้นเลือดขอด คลายความปวดเมื่อย ลดอาการบวมน้ำ แก้มุตกิด ตกขาวในสุภาพสตรี

ชาใบขลู่ ดื่มบ่อยๆ แล้วกลิ่นกายจะหอม บางทีเลยเรียกว่า “ชาตัวหอม” อันนี้สาวๆ ได้ยินเข้าคงเกิดอาการ “หูผึ่ง” กันเป็นแถว ก็ไปหาลองกันดูเองละกันนะครับ ว่าจริงรึเปล่า ตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่เคยเป็นตกขาวซะด้วย เลยไม่รู้จริงๆครับ ฮ่าๆๆ ที่เด็ดที่สุดของขลู่คือ เป็นยาขับปัสสาวะที่เหนือชั้นกว่ายาขับปัสสาวะ (Hydrochlorothiazide) ของฝรั่งเยอะ ยาฝรั่งนั้นจะขับเอาเกลือแร่ วิตามินดีๆ ออกมารวมกับของเสียที่เป็นของเหลวพร้อมๆ กันทั้งหมด แต่เจ้าใบไม้น้อยๆ ของเราฉลาดกว่า เพราะมันจะเลือกขับเอาแต่เฉพาะของเสียออกมาเท่านั้น เกลือแร่ดีๆ ก็เก็บเอาไว้ รู้จักแยกแยะอะไรควรไม่ควรเอาออก จึงช่วยลดอาการสูญเสียเกลือแร่ที่ยาฝรั่งทำไม่ได้ เจ๋งมั้ยล่ะครับ

ขลู่ ยังจัดว่าเป็นสมุนไพรพวกอายุวัฒนะอีกด้วย ไม่เป็นอะไร ไม่ป่วย ก็สามารถจิบแทนชาได้ทั้งวัน แต่บอกก่อนนะ จิบแล้วบางทีจะขับปัสสาวะ ทำให้ฉี่บ่อยๆ กว่าปกติ ก็ไม่ต้องตกใจอะไร เขาก็กำลังทำหน้าที่ของเขานั่นแหละ

ป.ล. จากประสบการณ์ส่วนตัว ชาจากใบขลู่นั้นสามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็นตามใจชอบ ใครชอบแบบไหนก็จัดไป จะต้มแล้วกรอกใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ดื่มแก้กระหายคลายร้อนก็ได้ หรือจะจิบอุ่นๆ แบบชาจีนก็ดี ต้มสดๆ เลยก็ได้ ตากแห้งเก็บใส่กระปุกแบบชาจีนก็ยังไหว เก็บไว้ได้นานดีด้วย แต่ที่ลองๆ มา แบบต้มสดๆ หั่นรวมทั้งกิ่ง ก้านใบไปด้วยเลยจะแรงกว่าแบบแห้งครับ

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560