ผ้าไทยลือเลื่องสากล นวัตกรรมใหม่’ยีนส์ผ้าไหม’

เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และให้ความสำคัญการอนุรักษ์อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหมให้เป็นอาชีพสำหรับประชาชนในชนบท กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงจัดงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ครั้งที่ 12 ประจำปี 2560

การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดงาน ณ ฮอลล์ 3-4 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมนกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2560 และผู้ชนะเลิศตามกิจกรรมที่กรมหม่อนไหมไปส่งเสริม รวม 30 รางวัล จากนั้นทรงตัดแถบแพรเปิดงาน ทอดพระเนตรนิทรรศการตรานกยูงฯ อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการส่งเสริมอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมการทอผ้าไหม, นิทรรศการตราสัญลักษณ์นกยูงพระราชทาน ประกอบด้วย ตรานกยูงพระราชทานสีทอง สีเงิน สีน้ำเงิน และสีเขียว ในการรับรองคุณภาพผ้าไหมไทย, นิทรรศการผ้าไหมมัดหมี่โลก จัดแสดงผ้าไหมจาก 14 ประเทศทั่วโลก และผ้ามัดหมี่จากทุกภูมิภาคของประเทศไทย ก่อนเสด็จฯกลับ

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า งานตรานกยูงพระราชทานฯ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสานวัฒนธรรมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้คงอยู่กับคนไทย โดยทรงให้ความสำคัญกับอาชีพการปลูกหม่อนไหม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม รวมถึงทรงทำให้ผ้าไหมไทยเป็นที่เลื่องลือสู่สากล เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องหมายตรานกยูงเพื่อรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยที่เน้นแหล่งที่มาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และต้องผลิตในไทยเท่านั้น

ภายในงานมีนิทรรศการและการออกบูธที่น่าสนใจ อย่างไฮไลต์การเปิดตัวครั้งแรกของนวัตกรรมยีนส์ที่ทำจากผ้าไหม

นางสาวทัศนีย์ สุรินทรานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ หจก.เรือนไหม-ใบหม่อน กล่าวว่า คนทั่วไปมักบอกว่าชุดผ้าไหมใส่ในชีวิตประจำวันไม่ได้ จะใส่ได้ก็ต่อเมื่อออกงาน และคนที่ใส่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ ซึ่งเราก็นำมาขบคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนทั่วไปสามารถใส่ผ้าไหมได้ในชีวิตประจำวัน สามารถใส่ได้ในทุกวัน จึงพยายามคิดค้นนวัตกรรมยีนส์ที่ทำจากผ้าไหม โดยนำผ้าไหมมาย้อมกับครามหรือภาษาพื้นถิ่นสุรินทร์เรียกว่า ผ้าตรม ซึ่งคิดค้นอยู่หลายปีจนมาประสบความสำเร็จได้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเอามามาแสดงโชว์ครั้งแรกในงาน โดยตัดเป็นกางเกงยีนส์ต้นแบบ ทั้งทรงผู้ชายและผู้หญิง

“ผ้ายีนส์ไหมไทย สวมใส่นุ่มสบายกว่าผ้ายีนส์ทั่วไป ช่วยปรับสภาพอุณหภูมิผิว อย่างไปเจออากาศร้อนก็จะเย็น เจออากาศเย็นก็จะอุ่น เหมาะสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ ขณะที่ครามมีคุณสมบัติกันรังสียูวีได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกับผ้าไหมทั่วไป ส่วนพวกที่บอกว่าใส่ผ้าไหมแล้วร้อน ชี้แจงว่าที่ร้อนเพราะผ้าไหมดังกล่าวไปอัดกาวมา ถ้าใส่ผ้าไหมปกติก็จะมีคุณสมบัติข้างต้น อย่างไรก็ดี สำหรับผ้ายีนส์ไหมไทยราคาไม่แพง เพราะเป็นไหมราคาต่ำ ยิ่งหากในอนาคตเป็นที่นิยม คาดว่าราคาจะต่ำกว่าผ้ายีนส์ด้วยซ้ำ” นางสาวทัศนีย์กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบันผลผลิตการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ไม่เพียงแต่นำไปถักทอเป็นเสื้อผ้า แต่ยังถูกพัฒนาต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ข้าวของเครื่องใช้ และของกิน ให้ทั้งประโยชน์และความสวยงาม และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกร

กางเกงต้นแบบยีนส์ผ้าไหม ยีนส์ผ้าไหม
ยีนส์ผ้าไหม

ผลิตภัณฑ์จากไหม
ทัศนีย์ สุรินทรานนท์