กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ควนขนุน สร้างความเข้มแข็งในชุมชน

ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงตำบลปันแต บ้านเลขที่ 102  หมู่ที่  11 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558 มีสมาชิก จำนวน 50 คน  ซึ่งเป็นเกษตรแปลงใหญ่ตามนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบัน มีรังผึ้งทั้งผึ้งโพรงไทยและชันโรงที่ให้ผลผลิตแล้ว จำนวน 1,100 รัง เก็บเกี่ยว 2 ครั้ง ต่อเดือน ผลผลิตต่อปี กว่า 10,000 กิโลกรัม สร้างรายได้หมุนเวียน กว่า 4 ล้านบาท ต่อปี

คุณวีระพล ห้วนแจ่ม ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงตำบลปันแต บอกว่า ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่เกษตรกรประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ยางพารา ข้าว ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล โดยรวมกลุ่มและมีมติจากชุมชนในการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยในนามวิสาหกิจชุมชน

ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ได้เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชน ด้วยการนำหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้พระราชทานไว้

หลักการที่สำคัญของโครงการคือ ให้ชุมชนเป็นผู้กำหนดโครงการผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และบริหารจัดการด้วยตนเอง เน้นการทำเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ ในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้าได้มาตรฐาน

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ได้รับสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 1,250,000บาท เนื่องจากเป็นเกษตรแปลงใหญ่ โดยแบ่งออกเป็นผลิตรังผึ้ง จำนวน 614,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 636,000 บาท เป็นค่าแรงแก่คนในชุมชน

คุณวีระพล บอกอีกว่า วันนี้ โครงการแล้วเสร็จ จะนำรังผึ้งที่ได้จากโครงการจำหน่าย จำนวน 500 รัง และอีก 500 รัง จะมอบให้กับเกษตรกรแบบมีเงื่อนไข โดยจะมอบให้คนละ 1 รัง พร้อมขาตั้งและหลังคา หลังจากนั้นจะขอผลผลิตคือน้ำผึ้งโพรงไทยคืน คนละ 2 กิโลกรัม วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงตำบลปันแต ปัจจุบัน ได้ใช้นวัตกรรม โดยการนำถังสลัดน้ำผึ้ง แทนการกรีดรังผึ้ง ข้อดีคือไม่ทำให้รังผึ้งเสียหาย และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร

“คาดว่าอนาคตอันใกล้นี้ทางกลุ่มสามารถผลิตน้ำผึ้งที่มีคุณภาพออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดได้มากกว่า 5 ล้านบาท ต่อปี นอกจากนี้ยังตั้งใจที่จะจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ รวบรวมผึ้ง ชันโรง และผีเสื้อ โดยเน้นแมลงผสมเกสรเป็นหลัก เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนตลอดถึงเกษตรกร” คุณวีระพล กล่าว

สนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายวีระพล ห้วนแจ่ม โทรศัพท์ (081) 166-2462