ที่มา | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | เขียง มะขาม |
เผยแพร่ |
ด้วยอุบัติเหตุวันก่อน มีเหตุจะต้องคิดเมนูเอาสดๆ ร้อนๆ เมื่อไปจ่ายตลาด
ว่าจะทำอะไรเลี้ยงสายแข็งที่บ้านดี
จู่ๆ ก็นึกถึงหมูต้มเค็มหรือจะเรียกว่าหมูต้มเหล้า สูตรของ “คุณเอ้ซัง” เจ้าของร้านซูชิโคที่ธนิยะ ขึ้นมาได้
คว้าหมูสามชั้นเป็นก้อน แบบที่บางที่เขาจะเอาเชือกรัดให้เป็นปล้องๆ มาได้ 2 กิโล
หัวไชเท้าใหญ่ 2 หัว แครอต 6 หัว ต้นหอมญี่ปุ่น 2 ต้นใหญ่
คว้าขิงแก่ต้นใหญ่ติดมือมาด้วยอีกหนึ่งแง่ง
มิริน สาเกปรุงอาหาร และโชยุ เพิ่งหยิบติดมือไปเมื่อวันก่อน ฉะนั้นไม่ต้อง
มีไวน์แดงขวดยักษ์จากญี่ปุ่นที่คุณยายหิ้วมาฝาก ซึ่งหลังจากชิมแล้วลงมติแบบคิดเองเออเองว่า เอาไว้ทำอาหารน่าจะอร่อยกว่ากินเพียวๆ
เท่านี้เครื่องเคราก็ครบครัน
เริ่มต้นด้วยการหั่นหมูให้เป็นชิ้นใหญ่ หนาประมาณ 1 นิ้วหรือกว่าๆ เพื่อเวลาต้มจะได้ไม่ยุ่ยหมด จากนั้นก็เอาลงจี่กระทะน้ำมันน้อยๆ ไฟแรงนิด ให้หมูออกมาสีสวยและรัดตัวเองไปในตัว
ขิงเราเกลาเปลือกแล้วทุบแบบไม่ต้องละเอียด
แครอตกับไชเท้าก็หั่นขวาง ชิ้นใหญ่นิดก็ได้ ไม่ต้องกลัวคับปาก เพราะสุดท้ายมันจะถูกเคี่ยวจนนุ่ม
พอทอดหมูได้ที่ก็ต้มน้ำซุป เอาเครื่องทั้งหมดเว้นหมูโยนลงไป เติมน้ำให้ท่วม พอน้ำเดือดปุดๆ ก็ปรุงรสครั้งแรก
สัดส่วนคือมิริน 1 สาเก 1 โชยุ 2 (หรือถ้าจะชอบเค็มละมุนจะใช้เกลือเป็นหลักก็ได้ แล้วโชยุเหยาะเอากลิ่นทีหลัง) ไวน์แดง 4
คือทุกอย่างรวมกันแล้วเท่ากับไวน์แดง
พอใส่น้ำปรุงก็ใส่หมู เปิดไฟแรงให้เดือดจัด แล้วหรี่เป็นตุ๋นไปเรื่อยๆ
ถ้าขยันก็หมั่นช้อนฟองด้วย น้ำซุปจะได้ใสๆ
สักสองชั่วโมงก็ช้อนต้นหอมออกมา อย่าให้ยุ่ยจนน้ำข้น
ไชเท้ากับแครอต ก็เช่นกัน ดูท่าว่าจะเปื่อยก็ช้อนขึ้น จะกินค่อยใส่ลงไปใหม่
ชิมรสเอา จะหวานเค็มและเผ็ดร้อน (จากขิง)
ปรุงให้รสอ่อนไว้นิด เพราะเราตั้งใจจะซดน้ำให้ชื่นใจด้วย
ถ้าเข้มไปจะรสจัดเกิน
และถ้ามีเวลาเคี่ยวไว้ข้ามคืนได้ให้เข้าเนื้อ รับรองว่าหมูจะทั้งนุ่มทั้งหอม
ไม่เชื่อจะให้ไปทำให้กินก็ได้