“ข้าว-มันฯ” หืดจับ เจอพิษบาทแข็ง ดันข้าวไทยแซงเวียดนาม “พาณิชย์” ยัน จีนไม่แบนมันไทย

นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสําปะหลังไทย กล่าวถึง แนวโน้มการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ในช่วงไตรมาส 2 ว่า จะลดลงต่อเนื่องจาก ไตรมาส 1/2562 ที่ส่งออกติดลบ -40% หรือส่งออกได้ปริมาณ 1,813,000 ตัน ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณซัพพลาย มันสําปะหลังลดลงจากเกิดปัญหาราคา ตกต่ำเมื่อปี 2558 ทําให้เกษตรกรหันไปปลูกอ้อยแทน ประกอบกับการนําเข้าวัตถุดิบมันสําปะหลังจากเพื่อนบ้านไม่ได้เช่นทุกๆ ปี เพราะผลผลิตมันสําปะหลังของกัมพูชาลดลงจากการระบาดของโรคใบด่าง และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น

“ราคามันเส้นปรับตัวสูงขึ้น จากต้นปี 200 เหรียญ ก็เป็น 215-220 เหรียญ/ตัน ราคานี้ลูกค้าจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเรารับไม่ได้ และชะลอการสั่งซื้อออกไป ทําให้ยอดส่งออกทั้งปี ปีนี้จะติดลบถึง -30%” นายบุญชัย ระบุ

ขณะเดียวกัน สำหรับกระแสข่าวว่าจีนจะไม่ซื้อมันสำปะหลังไทย นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประสานงานกับสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังจากมีกระแสข่าวดังกล่าว โดยพบว่าจีนยังคงมีความต้องการนำเข้ามันสำปะหลังเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันนโยบายการนำเข้ามันสำปะหลังของจีนยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกมันสำปะหลังไปยังประเทศจีนได้ตามปกติ

ด้านสถานการณ์การส่งออกข้าว ร.ต.ท. เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ “ค่อนข้างชะลอตัว” จากอัตราแลกเปลี่ยน แข็งค่าทําให้ราคาข้าวไทย “สูงกว่า” ข้าวเวียดนามต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วง ไตรมาส 2/2562 จะยังไม่มีคําสั่งซื้อ ใหม่เข้ามาทั้งจากตลาดฟิลิปปินส์ที่ซื้อ ไปครบแล้ว ตลาดอินโดนีเซียคงจะ รอสั่งซื้อหลังผ่านการเลือกตั้งภายใน ไปแล้วและตลาดจีน ซึ่งยังไม่สามารถ เจรจาหาข้อสรุปการส่งมอบข้าวออเดอร์ รัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ที่เหลือได้ เนื่องจากจีนต่อรองราคาค่อนข้างต่ำ ทําให้ผู้ส่งออกข้าวประเมินว่า จะรักษาฐานการส่งออกเฉลี่ยในไตรมาส 2 ได้ประมาณ 2 ล้านตัน หรือเดือนละ 700,000-800,000 ตัน เท่ากับในช่วง ไตรมาส 1/2562