| ที่มา | เก็บมาเล่า |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย COVID-19” ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่ารัฐบาลรวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรและประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ทั้งภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ รวมถึงภาคการเกษตรของประเทศ ซึ่งไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เกิดภาวะการว่างงาน และทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
ดังนั้น จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรที่มีบทบาทภารกิจในการช่วยเหลือดูแลเกษตรกร จัดทำ “โครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย COVID-19” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เป็นการนำร่องเพื่อสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวที่มีลักษณะเติบโตเร็ว อายุสั้นถึงอายุปานกลาง ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจทำการเกษตรในการปลูกพืชผักสวนครัว และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเปิดลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 10,000 ชุด
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เวลา 17.00 น. ปรากฏว่า มีผู้สนใจลงทะเบียนครบตามเป้าหมายภายในเวลา 18.30 น. และมีผู้ประสงค์ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 103,656 ราย จากกระแสตอบรับที่ดีของการนำร่องโครงการระยะแรก เพียง 1 ชั่วโมง เปิดให้ลงทะเบียน ก็มีผู้ลงทะเบียนครบตามจำนวน และมีผู้ไม่สามารถลงทะเบียนได้ทันเป็นจำนวนมาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย จึงได้ร่วมดำเนินโครงการนี้อย่างเต็มรูปแบบขยายผลโครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวเพิ่มเติมให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ที่สนใจทำการเกษตรปลูกพืชผักสวนครัวและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้มีพืชผักสวนครัวไว้ใช้เป็นแหล่งอาหารบริโภคภายในครัวเรือน
คุณวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จํากัด กล่าวว่า โครงการ “ตู้เย็นข้างบ้านต้านภัยโควิด-19” รอบ 2 นี้ ทางบริษัทได้ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดมอบชุดเมล็ดพันธุ์ตู้เย็นข้างบ้าน จำนวน 100,000 ชุด โดยใน 1 ชุดประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ 1. ผักบุ้ง 2. คะน้า 3. กวางตุ้ง 4. พริกขี้หนู และ 5. แตงกวา ซึ่งพืชทั้ง 5 ชนิดนี้ปลูกได้ง่าย ใช้ระยะเวลาไม่นานก็สามารถนำผลผลิตมารับประทานภายในครัวเรือนกันได้ และในการลงทะเบียนชุดเมล็ดพันธุ์จำนวน 100,000 ชุดนี้ บริษัทมีความพร้อมเต็มที่สำหรับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ชุดนี้สู่มือประชาชนทั่วประเทศ และนอกจากการมอบเมล็ดพันธุ์แล้ว ยังมีความร่วมมืออื่นๆ ที่ต่อเนื่องจากโครงการตู้เย็นข้างบ้านในครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด สร้างสุข 3 ประการ ดังนี้
สุขที่ 1 ส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีสู่ประชาชนทั่วประเทศ
ส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งนอกเหนือจากโครงการตู้เย็นข้างบ้านในครั้งนี้แล้ว ได้มีการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้กับประชาชนผ่านโครงการต่างๆ เช่น 1. โครงการถุงยังชีพเพื่อการศึกษาพระราชทาน ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับมอบให้กับนักเรียน จำนวน 10,200 ชุด หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท 2. โครงการ “ตู้เย็นข้างบ้านครั้งที่ 1” โดยกรมส่งเสริมการเกษตร 3. โครงการ “ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ภายใน 90 วัน สร้างความมั่นคงทางอาหารต้านภัยโควิด-19” โดยกรมพัฒนาชุมชน สังกัดกระทรวงมหาดไทย และ 4. โครงการ “ตู้กับข้าวหลังบ้าน” จังหวัดนนทบุรี ฯลฯ ซึ่งเมล็ดพันธุ์ของบริษัทจำนวนหลายแสนซองได้ถูกกระจายไปให้กับประชาชนทั่วประเทศสำหรับไว้ปลูกผักรับประทานเองภายในครัวเรือน
สุขที่ 2 ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการปลูกผัก
บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด มีหน่วยถ่ายทอดความรู้หรือ Knowledge Transfer โดยทีมนี้มีจุดประสงค์หลักคือ รวบรวมข้อมูลด้านการปลูกผัก โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย Wageningen (วาเกนนิงเก้น) ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด มีทีมงาน KT กระจายอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศพม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แทนซาเนีย อูกันดา ไนจีเรีย บังกลาเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย เพราะเล็งเห็นว่าการที่เกษตรกรจะประสบความสำเร็จในด้านอาชีพนี้ได้นั้น ต้องมีพื้นฐานความรู้ด้านการเกษตรที่ถูกต้อง และสามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งก็คือนโยบายหลักของบริษัท ทั้งนี้ ยังใส่ใจไปถึง กลุ่มผู้ปลูกผักมือใหม่ที่ต้องการความรู้ในด้านการปลูกพืชผัก โดยในกลุ่มนี้ข้อมูลที่สื่อสารต้องเป็นข้อมูลที่เข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน บริษัทจึงได้มีการจัดองค์ความรู้ด้านการปลูกพืชเหล่านี้ให้เข้ากับกลุ่มผู้ปลูกผักมือใหม่ โดยในเนื้อหาก็จะเป็นเรื่อง การเพาะกล้า การให้น้ำ การให้ปุ๋ย รวมถึงเรื่องการจัดการศัตรูพืชโดยไม่ใช้สารเคมี
สุขที่ 3 เสริมสร้าง Young Smart Farmer
บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ยังให้ความสำคัญกับการมอบองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ Young Smart Farmer เพราะคิดว่า Young Smart Farmer จะเป็นเกษตรกรที่มีคุณภาพอย่างยิ่งสำหรับประเทศในอนาคต โดยทำการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร หลักสูตรแรกมีชื่อว่า “การผลิตผักเพื่อการค้า” โดยเปิดการอบรมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่เชียงใหม่ ซึ่งเนื้อหาในหลักสูตรนี้มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ การย้ายกล้า จนถึงแนะนำเรื่องการตลาด เรียกว่าให้เห็นตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ว่าแต่ละขั้นตอนจะต้องทำอย่างไร เจอปัญหาอย่างไรบ้าง หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 4 วัน มี Young Smart Farmer ในเขตภาคเหนือเข้าร่วมทั้งหมด 17 คนด้วยกัน ซึ่งไม่หยุดเพียงแค่การอบรม 4 วันเท่านั้น หลังจากจบการอบรมเรายังเป็นพี่เลี้ยงให้กับ Young Smart Farmer เหล่านี้ ถ้าใครพบปัญหาหรืออยากจะสอบถามเพิ่มเติม ทางบริษัทยินดีให้คำปรึกษา เรียกว่าเป็นพี่เลี้ยงให้กับ Young Smart Farmer กลุ่มนี้อีกด้วย
เปิดอบรมอีก 2 หลักสูตร จากหลักสูตร “การผลิตผักเพื่อการค้า“ ที่ผมกล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น เรายังได้มีการพัฒนาอีก 2 หลักสูตร ซึ่งเราจะจัดที่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดลำปาง ซึ่งทั้ง 2 หลักสูตรนี้จะเกิดขึ้นในปีนี้ โดยจังหวัดสุพรรณบุรีจะเป็นหลักสูตร “การผลิตผักเพื่อการค้า” โดยเราจะเน้นในกลุ่มข้าวโพดสำหรับเกษตรกรหรือผู้สนใจที่อยู่ในเขตภาคกลาง และอีกหลักสูตรคือ “การผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อการค้า”
“จากที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนั้น บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ตู้เย็นข้างบ้านต้านภัยโควิด-19 ในครั้งนี้ เพราะเราเชื่อว่า เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดี จะเป็นจุดเริ่มต้น ให้คนที่สนใจปลูกผักประสบผลสำเร็จในการปลูกผักได้ด้วยตัวคุณเอง เราพร้อมที่จะสนับสนุนให้คนไทยปลูกผักกินเอง เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นจากผักที่มากด้วยประโยชน์และปลอดภัย” คุณวิชัย กล่าว
สำหรับผู้สนใจเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว สามารถลงทะเบียนโดยสแกน QR Code จนกว่าจะครบจำนวน เพื่อแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจทำการเกษตรในการปลูกพืชผักสวนครัว และเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบในภาวะวิกฤต ให้มีพืชอาหารบริโภคสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้ออกแบบเว็บไซต์และช่องทางการสื่อสารสำหรับให้เกษตรกร และประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
