ปภ.เตือน 7 จังหวัดริมฝั่งเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ทำให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์น้ำกับสำนักงานชลประทานที่ 12 คาดว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยควบคุมปริมาณการไหลของน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เข้าสู่พื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกของเขื่อนเจ้าพระยา อาจส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เกษตรกรที่ปลูกพืชและเสี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการแพร้านอาหาร และงานก่อสร้างเขื่อนให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำ และประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จัดเก็บและขนย้ายวัสดุสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วมผูกยึดกระชังเลี้ยงปลาให้มั่นคงแข็งแรง รวมถึงจัดทำแนวคันกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป