รมช.มนัญญา เชิญชวนมอบความสุขเทศกาลปีใหม่ด้วยกระเช้าสินค้าสหกรณ์ เปิดจำหน่ายตั้งแต่ 2 ธ.ค. 62 – 12 ม.ค. 63

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลงข่าวเปิดโครงการส่งความสุขในเทศกาลปีใหม่ด้วยสินค้าสหกรณ์ ประจำปี 2563 ชูแนวคิด “ส่งความสุข ส่งความห่วงใย จากใจสินค้าสหกรณ์” คัดสรรสินค้าสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มอาชีพที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน จัดลงกระเช้าของขวัญและตกแต่งสวยงาม ให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเน้นสินค้าเพื่อสุขภาพ เปิดจำหน่ายที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2562 – 12 มกราคม 2563 พร้อมบริการส่งฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อซื้อสินค้าครบ 10,000 บาท ผู้สนใจกระเช้าสินค้าสหกรณ์สั่งซื้อได้ทางออนไลน์ Facebook : coop market และ ID Line : cpd.shop หวังขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าสหกรณ์ไปสู่ผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดทำโครงการส่งความสุขในเทศกาลปีใหม่ด้วยสินค้าสหกรณ์ โดยรวบรวมสินค้าดีมีคุณภาพของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มอาชีพจากจังหวัดต่างๆ มาจัดตกแต่งเป็นกระเช้าสินค้า เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเริ่มดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังคงจัดกิจกรรมจำหน่ายกระเช้าสินค้าสหกรณ์เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด “ส่งความสุข ส่งความห่วงใย จากใจสินค้าสหกรณ์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมกิจกรรมด้านการตลาดให้กับสินค้าของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสินค้าของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยคาดหวังว่าผู้บริโภคจะได้รับสินค้าดีมีคุณภาพ มอบให้กันเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างความสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

สินค้าที่จะนำมาจัดลงกระเช้าในปีนี้ ได้คัดสรรมาจากหลายแหล่งทั่วทุกภาคของประเทศ โดยจะคัดสรรเฉพาะสินค้าคุณภาพทั้งอุปโภคบริโภค เน้นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลสุขภาพเป็นหลัก อาทิ ผลิตภัณฑ์ประเภทข้าวเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด ข้าวกล้องหอมมะลิ และข้าว กข 43 รวมถึงสินค้าประเภทผลไม้และอาหารแปรรูป เช่น กล้วยตาก หมี่กรอบสามรส ลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง หมูทุบหมูฝอย เนื้อทุบ เนื้อกระจก กุนเชียง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ คุกกี้รสงา คุกกี้รสจมูกข้าวกล้อง ผลไม้อบแห้ง น้ำผึ้ง แยมมัลเบอร์รี่ เส้นหมี่โคราช ปลาร้าทรงเครื่อง และน้ำพริกประเภทต่างๆ

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าประเภทสมุนไพรและธัญพืช อาทิ สมุนไพรชงดื่ม ขิงผง เก๊กฮวยผง ดอกคำฝอย ชาใบหม่อนอินทรีย์ ชาเขียวข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์ประเภทนมพร้อมดื่ม นม UHT นมปรุงแต่งชนิดเม็ด น้ำผลไม้ กาแฟชงพร้อมดื่ม กาแฟดริป ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมและผ้าฝ้าย สินค้าหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์แก้วเบญจรงค์ แก้วมุก และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากยางพารา และผลิตภัณฑ์อาหารจากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาและโครงการหลวงดอยคำ

รูปแบบของกระเช้าสินค้าสหกรณ์ จะนำสินค้าของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพต่างๆ มาจัดวางและตกแต่งให้สวยงาม ราคากระเช้ามีตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป มีทั้งกระเช้าสำเร็จรูปที่จัดสินค้าและตกแต่งไว้เรียบร้อยแล้ว และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาเลือกสินค้าที่ต้องการจะให้จัดกระเช้าได้ด้วยตัวเองด้วย โดยทางกรมได้จัดเตรียมห้องจัดแสดง และจำหน่ายสินค้าที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าสหกรณ์ อาคาร 3 ชั้น 1 ภายในกรมส่งเสริมสหกรณ์ ท่าน้ำเทเวศร์ เริ่มโครงการ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2562 – 12 มกราคม  2563 จำหน่ายทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันจันทร์-ศุกร์ เปิดจำหน่าย ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.

หน่วยงานต่างๆ หรือประชาชนที่สนใจจะสั่งซื้อกระเช้าสินค้าสหกรณ์ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ สามารถดูรายละเอียดสินค้าและรูปแบบของกระเช้าสินค้าสหกรณ์ได้ทาง Facebook : coop market และทาง ID Line : cpd.shop หรือติดต่อสอบถามได้ทางโทรศัพท์ (02) 280-7506 หรือ (065) 524-1124 ซึ่งกรมมีโปรโมชั่นพิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้า ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป บริการจัดส่งกระเช้าสินค้าสหกรณ์ฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ทั้งนี้ การจำหน่ายกระเช้าสินค้าสหกรณ์ครั้งนี้จะช่วยสร้างรายได้สู่เกษตรกร เม็ดเงินจะหมุนเวียนกลับคืนสู่ชุมชนในจังหวัดต่างๆ เบื้องต้นได้ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในปีนี้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้คนไทยหันมากินของไทยใช้ของไทย ด้วยการอุดหนุนสินค้าของเกษตรกร เพื่อมอบเป็นของขวัญอันทรงคุณค่าแก่ญาติสนิท เพื่อนฝูงหรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ และจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภายนอก และประชาชนทั่วไปอุดหนุนกระเช้าสินค้าสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนการสร้างอาชีพและส่งเสริมรายได้แก่เกษตรกร และเป็นกำลังใจให้เกษตรกรได้พัฒนาและผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อสุขภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคต่อไป