สวทช. ส่งมอบรถเข็นรักษ์โลกคันแรกในโครงการ ให้ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดข้าวเหนียวหมู-เนื้อ จ.นครปฐม พร้อมเดินหน้าเปิดรับผู้ค้าสตรีทฟู้ดร่วมจับจองรถเข็นถึง 30 มิถุนายน นี้

(18 พฤษภาคม 2563) ณ ร้านข้าวเหนียวหมูหวานเฮียวัตรปังตอทอง จังหวัดนครปฐม-กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) ดำเนินการส่งมอบรถเข็นรักษ์โลกให้ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดร้านข้าวเหนียวหมูหวานเฮียวัตรปังตอทอง ซึ่งนับเป็นรถเข็นคันแรกในโครงการพัฒนา “นวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด” นับแต่เปิดตัวเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา โดยเป็นรถเข็นโมเดลรูปแบบ 1 ที่เป็นรถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัด และซิงก์น้ำ จำนวน 2 คัน ซึ่ง DECC สวทช. ได้พัฒนาขึ้นให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความสะอาดปลอดภัยของอาหารสตรีทฟู้ด ตอบโจทย์คำว่า “รักษ์โลก” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยมี คุณกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. พร้อมด้วยผู้อำนวยการศูนย์ DECC และคณะ ร่วมส่งมอบรถเข็นรักษ์โลกแก่ คุณวิวัฒน์ กุลวิจิตร์รัตน์ เจ้าของกิจการข้าวเหนียวหมูหวานฯ เพื่อนำไปใช้งานในกิจการต่อไป พร้อมระบุเปิดโอกาสแก่ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดรายอื่นๆ สามารถจับจองเป็นเจ้าของรถเข็นรักษ์โลกได้จนถึง 30 มิถุนายน 2563 นี้

ดร.อัมพร โพธิ์ใย ผู้อำนวยการศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) สวทช. กล่าวว่า สวทช. ดำเนินโครงการพัฒนา “นวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด” ด้วยจุดริเริ่มและคิดค้นหาทางยกระดับสตรีทฟู้ดไทยให้ก้าวไกลขึ้นด้วยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร สุขอนามัย ความสะอาดของร้านและผู้ปรุงอาหาร คุณภาพของการให้บริการ และความอร่อย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 จึงทำการออกแบบและพัฒนารถเข็นและอุปกรณ์ภายในร้านให้มีความสะอาดปลอดภัย ลดการสร้างมลพิษหรือขยะของเสีย ลดน้ำหนักรถเข็นให้เบาที่สุด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการดูดควันให้สามารถใช้งานในพื้นที่ปิดได้ และปรับปรุงระบบบำบัดน้ำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนเกิดเป็นนวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำเร็จแล้วในวันนี้

“สวทช. ได้ส่งมอบรถเข็นนวัตกรรมรักษโลกเพื่อสตรีทฟู้ด ซึ่งนับเป็นรถเข็นคันแรกในโครงการพัฒนา “นวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด” ตั้งแต่เปิดตัวโครงการโดยเป็นรถเข็นโมเดลรูปแบบ 1 ที่น้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัด และซิงก์น้ำ จำนวน 2 คัน ให้แก่ผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการข้าวเหนียวหมูหวาน เฮียวัตรปังตอทอง เพื่อนำไปใช้งานจริงในกิจการ ทางโครงการหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารถเข็นคันนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ ช่วยอำนวยความสะดวกในการประกอบอาหารเพื่อบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วนช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้กิจการดำเนินไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ DECC สวทช. ยังมีแผนส่งมอบรถเข็นให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่สั่งจองไว้แล้วกว่า 30 คัน ซึ่งมีทั้งโมเดลรูปแบบ 1, 2 และ 3 แก่ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดที่สั่งจองมาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งมีหลากหลายประเภทอาหาร ทั้งอาหารปิ้ง ย่าง ทอด เครื่องดื่ม และอาหารตามสั่ง โดยมีเป้าหมายส่งมอบรถเข็น จำนวนไม่น้อยกว่า 100 คัน ภายในปีนี้”

ผู้อำนวยการศูนย์ DECC สวทช. กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบโดยตรงกับการดำเนินกิจการของผู้ค้าสตรีทฟู้ด รวมทั้งกิจการร้านอาหารในรูปแบบอื่นๆ ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถเปิดขายได้ตามมาตรการของรัฐบาลที่ต้องควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยและฟื้นตัวได้ช้าเช่นนี้ย่อมกระทบกับรายได้ของผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางโครงการจึงได้ปรับแผนขยายระยะเวลาเปิดรับสมัครผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดเข้าร่วมโครงการ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งมองว่า หลังจากมาตรการผ่อนปรนระยะแรกที่จะเปิดให้กิจการร้านจำหน่ายอาหาร ขนาดไม่เกิน 2 คูหา ได้แก่ ร้านอาหารนอกห้าง ร้านอาหารริมทาง และร้านอาหารหาบเร่ กลับมาเปิดได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สถานการณ์ของร้านอาหารริมทางจะเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และสิ่งที่จะทำให้ร้านอาหารสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ควรจะต้องมีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพในการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลสุขอนามัยของตัวเองและคนรอบข้าง การประกอบการอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในสถานการณ์เช่นนี้

ด้านผู้ประกอบการสตรีทฟู้ด นายวิวัฒน์ กุลวิจิตร์รัตน์ เจ้าของกิจการข้าวเหนียวหมูหวาน เฮียวัตรปังตอทอง กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ดแล้ว พบว่าการใช้งานง่าย สะดวก และสะอาด ที่สำคัญเหมาะกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นอย่างมาก เพราะตัวรถมีการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งาน มีอ่างล้างมือ ถังเก็บน้ำ และบ่อดักไขมัน ซึ่งหาไม่ได้ในรถเข็นสตรีทฟู้ดทั่วไป ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ขายของจริงๆ เพราะการขายอาหารข้างทางที่ถูกสุขอนามัย จะทำให้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

Advertisement

“กิจการร้านเฮียวัตรปังตอทอง มีจุดเริ่มต้นมาจากตนเอง ที่อดีตเป็นพนักงานประจำที่ต้องการมองหาธุรกิจส่วนตัวหลังจากมีครอบครัว เพื่อให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น จึงตัดสินใจเลือกเป็นธุรกิจข้าวเหนียวหมู เนื่องจากชอบรับประทานตั้งแต่เด็ก จึงได้ศึกษากรรมวิธีการทำหมูและเนื้อแดดเดียวและการนึ่งข้าวเหนียวให้นุ่ม เริ่มต้นขายครั้งแรกที่จังหวัดนครปฐม ปีแรกที่เริ่มกิจการผลตอบรับดีมาก แต่พอครึ่งปีหลังเริ่มไม่ค่อยดีจนเกือบจะเลิกขาย แต่ได้ทำการพัฒนาปรับปรุงทั้งในเรื่องแพ็กเกจจิ้ง การทำตลาดใหม่ๆ ปรากฏว่ายอดขายค่อยๆ เริ่มดีขึ้น จนในที่สุดสามารถขยายสาขาได้สำเร็จ ได้วางขายในห้างสรรพสินค้า ทำให้แบรนด์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และขยายสาขาเพิ่มจนถึงปัจจุบันมี 20 กว่าสาขา โดยจุดเด่นของข้าวเหนียวหมูเฮียวัตรปังตอทอง คือคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้ตั้งแต่เนื้อหมู เนื้อวัว นำมาหมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษที่คัดมาอย่างดี ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐาน ถูกหลักอนามัย ส่วนผสมทุกอย่างใส่แบบจัดหนักเต็มที่ เพื่อให้มีรสชาติที่เข้มข้น มีให้เลือกหลากหลายเมนูไว้รับประทานคู่กับข้าวเหนียวที่นุ่มซึ่งเกิดจากขั้นตอนการนึ่งที่เป็นสูตรเฉพาะ รสชาติกลมกล่อมลงตัว หอมเครื่องเทศชัดเจน พร้อมแพ็กเกจจิ้งที่ทันสมัย เข้าถึงตลาดได้หลากหลายกลุ่ม ด้วยความพิถีพิถันในการผลิต บวกกับการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจที่ดำเนินกิจการกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง”

สวทช. เปิดรับผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดที่สนใจ “รถเข็นนวัตกรรมรักษ์โลก” โดยมีรูปแบบรถเข็นด้วยกัน 3 แบบ คือ รถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัดและซิงก์น้ำ และระบบที่เพิ่มเติมระบบดูดควัน ตลอดจนระบบที่เพิ่มเติมหัวเตาแก๊ส 2 หัว สนใจสั่งจองออนไลน์ได้ที่ http://www.decc.or.th/streetfood/ ภายใน 30 มิถุนายน 2563 นี้ หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. (02) 564-6310-11 ต่อ 101, 106 แอดไลน์ไอดี @679hqbmi

Advertisement