เทรนด์เทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการแข่งขันในอนาคต

5 แนวโน้มเทคโนโลยี ที่องค์กรต้องศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมกับคลื่นดิจิทัลระลอกใหม่ที่กำลังถาโถมเข้ามา ซึ่งเจาะจงไปที่กลุ่มเทคโนโลยีที่แสดงให้เห็นว่า จะสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระดับสูงได้ในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า มีอะไรใหม่ๆ บ้างมาดูกัน
#TrendsTech #bangkokbank #bangkokbanksme #sme

การ์ทเนอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี เปิดเผยรายงาน Hype Cycle for Emerging Technologies, 2020 ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ต้องจับตามอง และเทคโนโลยีบางประเภทที่อยู่ในวงจรการพัฒนาเทคโนโลยีของการ์ทเนอร์ (Hype Cycle) จะสมบูรณ์แบบในอีกไม่นาน นับเป็นเรื่องที่ผู้นำด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีทุกคนต้องรู้ว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างโอกาสอะไรให้บ้าง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงหรือจะมีผลกระทบสูง

รายงานชิ้นนี้เน้นเจาะจงไปที่กลุ่มเทคโนโลยีที่แสดงให้เห็นว่าจะสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระดับสูงได้ในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งมีอยู่ 5 แนวโน้มหลัก ดังนี้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

  1. ดิจิทัล มี (Digital me) : เทคโนโลยีกำลังหลอมรวมเข้ากับชีวิตผู้คนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเป็นตัวแทนของผู้คนเหล่านั้นบนโลกดิจิทัล เช่น หนังสือเดินทางดิจิทัลและเทคโนโลยี การเว้นระยะห่างทางสังคม แบบจำลองผู้คนและวัตถุในโลกดิจิทัลหรือแฝดดิจิทัล (Digital Twins) ของมนุษย์ทำให้เกิดโมเดลและเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ที่สามารถใช้เป็นตัวแทนของเขาเหล่านั้นทั้งในโลกทางกายภาพและดิจิทัล วิธีปฏิสัมพันธ์ของผู้คนกับโลกดิจิทัลนั้นก้าวไปไกลกว่าแค่หน้าจอและคีย์บอร์ด แต่ยังหมายรวมถึงการใช้รูปแบบการโต้ตอบอื่นๆ ร่วมกัน (เช่น เสียงพูด การมองเห็น การแสดงท่าทาง)

หรือแม้แต่การเป็นสมองเพื่อคิดแทนเราได้โดยตรง ซึ่งเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ได้แก่ เทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม, Health Passport, แฝดดิจิทัลของบุคคล, แฝดดิจิทัลของพลเมือง, ประสบการณ์แบบหลากหลาย และการติดต่อกันโดยตรงระหว่างคลื่นสมองกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ 2 ทาง (2-Way BMI: Brain Machine Interface)

 

  1. สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน (Composite architectures): เทคโนโลยี Composable Enterprise (CE) ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการรวบรวมความสามารถทางธุรกิจที่สร้างขึ้น จากโครงสร้างข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นไว้ในที่เดียวกัน สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานจะถูกนำไปใช้กับโซลูชั่นด้านการบริหารจัดการแอปพลิเคชั่นขององค์กร ระบบอัจฉริยะที่ฝังมาพร้อมจะกระจายความสามารถ และขยายต่อไปสู่อุปกรณ์ปลายทางต่างๆ จนถึงผู้ใช้ปลายทาง

เทคโนโลยีต่อไปนี้จะช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น ได้แก่ Composable Enterprise, การจัดการแอปพลิเคชั่นขององค์กร, การจัดการข้อมูลที่กระจายกันอยู่ตามจุดต่างๆ , 5G ส่วนบุคคล, การฝังเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และคอมพิวเตอร์บอร์ดเดี่ยวราคาประหยัดที่เป็นอุปกรณ์ปลายทาง

 

3.ปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นแบบแผน (Formative AI): คือชุดข้อมูลของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เกิดใหม่และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สัมพันธ์กัน สามารถปรับเปลี่ยนแบบไดนามิกเพื่อตอบสนองต่อการแปรผันของสถานการณ์ บางส่วนของเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำไปใช้โดยนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นและนักออกแบบด้าน UX เพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ๆ โดยใช้เครื่องมือที่รองรับเทคโนโลยี AI เทคโนโลยีอื่นๆ ช่วยให้สามารถพัฒนาแบบจำลอง AI แบบไดนามิก เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตลอดเวลา และการพัฒนาขั้นสูงสุดคือ สร้างโมเดลใหม่ทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะได้

องค์กรที่กำลังสนใจนำเทคโนโลยี AI ไปปรับใช้ควรพิจารณาด้านการออกแบบโดยใช้ AI (AI-assisted design), การพัฒนาเพิ่มเติมโดยใช้ AI (AI augmented development), การแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลและกราฟ (ontologies and graphs), ข้อมูลขนาดเล็ก  AI แบบผสมผสาน (composite AI), แมชชีนเลิร์นนิ่งที่ปรับตัวได้ (adaptive ML), การเรียนรู้ด้วยตนเอง generative AI  และ generative adversarial networks

  1. Algorithmic trust : โมเดลความน่าเชื่อถือต่างๆ ที่ทำงานตามความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ กำลังจะถูกแทนที่ด้วยโมเดลความน่าเชื่อถือแบบอัลกอริทึ่ม เพื่อความมั่นใจในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล แหล่งที่มาของข้อมูล และการระบุตัวตนของบุคคลและองค์ประกอบอื่นๆ โมเดลความน่าเชื่อถือแบบอัลกอริทึ่มนี้ จะช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่าจะไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงและต้นทุนจากการสูญเสียความไว้วางใจจากลูกค้า พนักงาน และคู่ค้าต่างๆ

เทคโนโลยีใหม่ที่เชื่อมโยงกับโมเดลความน่าเชื่อถือแบบอัลกอริทึ่ม ได้แก่ Secure Access Service Edge (SASE), Differential Privacy Authenticated, Provenance Bring your own identity, Responsible AI and Explainable AI.

 

  1. ล้ำกว่าซิลิคอน: กว่าสี่ทศวรรษที่กฎของมัวร์ (Moore’s Law) อธิบายถึงจำนวนทรานซิสเตอร์ในวงจรรวมหนาแน่น (IC) จะเพิ่มขึ้นสองเท่าในทุกๆ สองปี คือตัวชี้นำอุตสาหกรรมไอที เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาจนใกล้ทะลุขีดจำกัดทางกายภาพของซิลิคอน ส่วนประกอบที่ล้ำสมัยใหม่ๆ กำลังสร้างโอกาสที่สำคัญหลายประการที่ทำให้เทคโนโลยีมีความรวดเร็วขึ้นด้วยขนาดเล็กลง เทคโนโลยีสำคัญที่ต้องพิจารณา ได้แก่ DNA computing, เซ็นเซอร์แบบย่อยสลายได้ และทรานซิสเตอร์ที่ผลิตจากคาร์บอน เป็นต้น

 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<  

Uniqlo ใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานคน

‘โดรน’ เทคโนโลยีทางเลือกภาคเกษตร ตอบโจทย์การทำงานฟาร์ม

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ
คลิกหรือสายด่วน1333