ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ชวน ชิม ช็อป “ทุเรียนภูเขาไฟ” ในเทศกาลเงาะทุเรียน ASEAN Trade Fair 2017

หากใครเคยมีภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ว่า “ศรีสะเกษ” เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศไทย ขอให้ลบล้างความทรงจำเดิมให้หมดสิ้น เพราะทุกวันนี้ ศรีสะเกษ กลายเป็นแผ่นดินทองของดินแดนอีสานใต้ เป็นแหล่งผลิตไม้ผลเพื่อการส่งออกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย จนถูกเรียกขานว่า “ศรีสะเกษ ดินแดนมหัศจรรย์ (Amazing Si Sa Ket)” คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงนัก เพราะผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ของศรีสะเกษ สามารถปลูกไม้ผลได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเงาะ ทุเรียน มังคุด ของภาคตะวันออก สะตอ ลองกอง ของภาคใต้ ลำไย ลิ้นจี่ ของภาคเหนือ มะปรางหวาน กระท้อน ส้มโอ มะม่วง ของภาคกลาง เรียกว่า ศรีสะเกษ มีผลไม้คุณภาพดี รสชาติอร่อยให้เลือกซื้อหากันตลอดทั้งปี

“เงาะและทุเรียน” เป็นผลไม้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดศรีสะเกษมากที่สุด เป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรจำนวนมาก สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรรายใหม่และรายเก่า ขยายพื้นที่การปลูกไม้ผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ศรีสะเกษ กลายเป็นแหล่งผลิตไม้ผลขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้

 

เน้นผลิตทุเรียนคุณภาพ นำการตลาด 

คุณธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของผลผลิต โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำงานถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการปลูกดูแลผลผลิตอย่างถูกต้องและเหมาะสมแก่เกษตรกร เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ตรงกับความต้องการของตลาด

คุณธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลเกษตรกรโดยตรง ได้เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ไร่ข้าวโพดและไร่มันสำปะหลังให้เปลี่ยนมาเป็นสวนเงาะ ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ ที่มีศักยภาพทางการตลาดแทน ส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน GAP

สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษยังได้ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร ในลักษณะทุเรียนแปลงใหญ่ จำนวน 2 จุด คือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาการผลิตทุเรียนอำเภอขุนหาญ เกษตรกรต้นแบบคือ คุณธนกฤต พรหมจันทร์ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาการผลิตทุเรียนอำเภอกันทรลักษ์ เกษตรกรต้นแบบคือ คุณทศพล สุวะจันทร์ โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกับเกษตรกรต้นแบบ ซึ่งสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจแต่ละแห่งจะมีการวางแผนบริหารจัดการร่วมกัน ตั้งแต่การผลิต จนถึงการตลาด สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตมีการบริหารจัดการที่ดี นำระบบสติ๊กเกอร์ และ QR Code ติดที่ผลผลิตซึ่งใช้ในผลผลิตทุเรียนศรีสะเกษ เพื่อให้รู้ว่าเป็นผลผลิตจากสวนไหน จะมีรหัสควบคุม ทำให้รู้ถึงแหล่งที่มาและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ จึงทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพของทุเรียนศรีสะเกษมากยิ่งขึ้น

คุณธวัช ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ถ่ายภาพกับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน

“ทุกวันนี้ ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ขายดีมาก จนผลิตไม่ทันกับความต้องการของตลาด ทำให้พื้นที่การปลูกเงาะ ทุเรียน เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 10% ประมาณปีละ 500-1,000 ไร่ คาดว่า พื้นที่ปลูกทุเรียนของจังหวัดศรีสะเกษจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ไร่ ในอนาคต ทางจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณให้ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษจัดอบรมความรู้เรื่องการจัดการสวนทุเรียนคุณภาพให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนรายใหม่ได้เรียนรู้ระบบการจัดการสวนทุเรียนที่ถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งการขายสินค้าทุเรียนผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทุเรียนของจังหวัดศรีสะเกษในอนาคต” ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าว

 

เทศกาลเงาะทุเรียน ASEAN Trade Fair 2017

คุณธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ทุเรียนศรีสะเกษ มีรสชาติอร่อย ไม่แพ้ทุเรียนนนทบุรี เพราะปลูกในแหล่งดินภูเขาไฟ ซึ่งเป็นดินสีแดงที่มีธาตุอินทรียวัตถุสูงมาก ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ทำให้ทุเรียนมีรสชาติหวานอร่อย ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่นำมาใช้จัดงานเทศกาลทุเรียน ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญประจำจังหวัดศรีสะเกษมานานหลายปีแล้ว

ในปีนี้ จังหวัดศรีสะเกษเตรียมจัดงานเทศกาลเงาะทุเรียน และของดีศรีสะเกษ ASEN Trade Fair 2017 ระหว่างวันที่ 16-25 มิถุนายน 2560 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตทางเกษตร โดยเฉพาะเงาะและทุเรียน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ และส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร และภาคประชาชน

ผลไม้อร่อยนานาชนิดที่ปลูกในจังหวัดศรีสะเกษ

การจัดงานครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้พี่น้องเกษตรกรได้นำทุเรียนพันธุ์ดี เงาะ สะตอ มังคุด กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ มะพร้าวน้ำหอม ฝรั่ง มะม่วง มะละกอ รวมทั้งพืชผักอินทรีย์ สินค้าโอท็อปเด่นของ 77 จังหวัด นำมาจำหน่ายภายในงานครั้งนี้ พร้อมจัดนิทรรศการเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ด้านปศุสัตว์ การจัดการสวนทุเรียนคุณภาพ และจัดประกวดแข่งขันคุณภาพโคเนื้อ ไม้ผลประเภทต่างๆ อีกหนึ่งไฮไลต์ของการจัดงานครั้งนี้คือ มุมนิทรรศการสินค้าอาเซียน ทางจังหวัดศรีสะเกษได้เชิญประเทศเพื่อนบ้านมาเที่ยวชมงาน พร้อมนำสินค้าเด่นของแต่ละประเทศมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานครั้งนี้ด้วย

เป้าหมายสำคัญของการจัดงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกร นักวิชาการ เยาวชน และประชาชน ผู้เข้าชมงานจะได้ตื่นตาตื่นใจกับนวัตกรรมใหม่ทางการเกษตรอย่างครบวงจรและยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีการเกษตร ยุคไทยแลนด์ 4.0” เช่น เทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรและรถแทรกเตอร์ เทคโนโลยีการเพาะปลูกตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน เพาะปลูก ระบบน้ำ การเก็บเกี่ยวผลผลิต เทคโนโลยีการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตรียมจัดแสดงการใช้อุปกรณ์แอปพลิเคชั่นไลน์มาควบคุมระบบการจัดแปลงเพาะปลูกพืช เพื่อประหยัดเวลาและต้นทุนแรงงาน

 

ขยายตลาดผลไม้ ผ่าน “ประชารัฐรักสามัคคีศรีสะเกษ”

ปัจจุบัน จังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ปลูกทุเรียน กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอศรีรัตนะ และอำเภอภูสิงห์ โดยมีสวนทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้ว 2,890 ไร่ จากพื้นที่ปลูกทั้งหมด จำนวน 5,087 ไร่ เมื่อปีที่แล้ว มีทุเรียนหมอนทองขายเข้าตลาดประมาณ 4,000 ตัน ราคาขายขั้นต่ำเฉลี่ยกิโลกรัมละ 100 บาท สร้างรายได้เข้าจังหวัดประมาณ 400 ล้านบาท ในปีนี้ คาดว่าจะมีผลผลิตโดยรวมประมาณ 4,475 ตัน คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 447 ล้านบาท

“ในปีนี้ ทางจังหวัดศรีสะเกษได้ร่วมมือกับบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีศรีสะเกษ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาทางธุรกิจ “Business Matching” ภายในงานเทศกาลผลไม้ปีนี้ เพื่อเปิดประตูการค้าและการลงทุน ทำให้ผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้ขายมาพบกัน สร้างโอกาสทางการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าทางการค้า ช่วยส่งเสริมให้เกิดห่วงโซ่มูลค่า (Global Value Chain) ทางการค้าและการลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีศรีสะเกษ วางแผนนำสินค้าทุเรียนภูเขาไฟและสินค้าเด่นของจังหวัดไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศอีกทางหนึ่ง” ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าว

 

หนุนปลูกมะละกอ เลี้ยงวัว แพะ เพิ่มรายได้

ทุกวันนี้ ราคาข้าวและพืชไร่ไม่สู้ดีนัก ทางจังหวัดศรีสะเกษจึงส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกไม้ผลและเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่ากับการลงทุน เช่น “มะละกอแขกดำศรีสะเกษ” ผลงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ที่มีลักษณะเด่นคือ กินผลดิบก็ได้ ผลสุกก็ขายดี เพิ่มโอกาสการขายได้ทุกช่วงการเติบโตของต้นมะละกอ ปลูกง่ายเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลายรุ่นต่อปี โดยชักชวนให้เกษตรกรที่เคยทำอาชีพปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่อำเภอภูสิงห์ หันมาปลูกมะละกอเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่แล้วประมาณ 500 ไร่

มะละกอแขกดำศรีสะเกษ พืชทางเลือกตัวใหม่

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หันมาเลี้ยงวัว เลี้ยงแพะ และปรับพื้นที่นาบางส่วนมาใช้ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์แทน ทำให้พื้นที่ปลูกข้าวของจังหวัดศรีสะเกษปรับตัวลดลงไม่เกินปีละ 3 ล้านไร่ ทั้งแพะและวัวเป็นสินค้าขายดี เป็นที่ต้องการสูงทั้งในประเทศและตลาดส่งออก ที่สำคัญให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่ากับการลงทุน

ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรชาวศรีสะเกษ หันมาเลี้ยงวัวเนื้อกันมากขึ้น โดยจังหวัดศรีสะเกษจัดงบประมาณส่งเสริมการเลี้ยงวัวเนื้อกว่า 7 ล้านบาท ทำให้มีตัวเลขการเลี้ยงโคมากขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ แซงหน้าอุบลราชธานีและสุรินทร์ซึ่งเคยครองตำแหน่งผู้นำตลาดในสินค้ากลุ่มนี้ และรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณส่วนกลางจำนวน 90 ล้านบาท สำหรับใช้ลงทุนก่อสร้างโรงเชือดสัตว์จำนวน 4 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการเลี้ยงวัวเนื้อของจังหวัดศรีสะเกษในอนาคต

 

ขายทุเรียนพรีเมี่ยมผ่านออนไลน์

ช่วงฤดูกาลทุเรียนศรีสะเกษ ในอดีต ลูกค้าต้องแวะมาเลือกซื้อทุเรียนศรีสะเกษคุณภาพดี เกรดพรีเมี่ยมได้ในสถานที่จัดงานเทศกาลผลไม้ เมื่อปีที่แล้ว สหกรณ์การเกษตร กันทรลักษ์ จำกัด ได้เปิดช่องทางการขายใหม่ผ่านตลาดออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนไทยทั่วประเทศ สามารถเลือกซื้อทุเรียนศรีสะเกษคุณภาพสูงเกรดพรีเมี่ยม (Premium) ได้สะดวกและง่ายดายกว่าเดิม ช่วยขยายฐานผู้ซื้อไปทั่วประเทศ ทำให้เกิดกลุ่มผู้ซื้อหน้าใหม่ ซึ่งเป็นผู้มีกำลังซื้อสูง ในกลุ่มเศรษฐี ไฮโซที่มีโอกาสลิ้มลองรสชาติความอร่อยของทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ต่างติดอกติดใจไปตามๆ กัน

ทุเรียนภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัดศรีสะเกษ

ในปีนี้ ได้จัดกิจกรรมจำหน่ายทุเรียนศรีสะเกษคุณภาพดี เกรดพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่อโครงการ Direct to home#2 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยสหกรณ์การเกษตร กันทรลักษ์ จำกัด ได้ทำ MOU กับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนเกษตรแบบแปลงใหญ่ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์และอำเภอขุนหาญ วางระบบการรับซื้อ การจำหน่าย การรับประกันสินค้า การเชื่อมโยงข้อมูลการผลิต การตลาด เพื่อกระจายสินค้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วขึ้น สหกรณ์การเกษตรกันทรลักษ์ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายทุเรียนเกรดพรีเมี่ยมพันธุ์หมอนทองจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถจะสั่งซื้อสินค้าได้ 3 ช่องทาง คือ เฟซบุ๊ก : Durian Sisaket ระบบ App : co-opclick ทางเว็บไซต์ Error! Hyperlink reference not valid.

“เมื่อปีที่แล้ว จังหวัดศรีสะเกษได้จำหน่ายทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมี่ยมน้ำหนักเฉลี่ย 3 กิโลกรัม ในราคาผลละ 600 บาท ตั้งเป้าจำหน่ายประมาณ 15,000 ลูก แต่ส่งได้จริงไม่ถึงเป้าที่วางไว้ เพราะทุเรียนสุกไม่ทันกับยอดสั่งซื้อ เนื่องจากทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ทุเรียนนนท์ จึงปรับราคาขายใหม่ โดยจำหน่ายทุเรียนเกรดพรีเมี่ยม ขนาดบรรจุ 1 ผล น้ำหนัก 300 กิโลกรัม ในราคาผลละ 800 บาท ขนาดบรรจุ 2 ผล น้ำหนัก 6 กิโลกรัม จำหน่ายราคา 1,500 บาท โดยมีการรับประกันคุณภาพสินค้าทุกลูกว่า มีรสชาติอร่อยแน่นอน” ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าว

นอกจากนี้ ทางจังหวัดศรีสะเกษเตรียมคัดทุเรียนภูเขาไฟคุณภาพ GAP ออกจำหน่ายในราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท โดยสินค้ากลุ่มนี้เตรียมขายผ่านเครือข่ายสหกรณ์จำนวน 40 จังหวัด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2560 ไม่ต่ำกว่า 500 ตัน ส่วนทุเรียนตกเกรด จะมีราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ยประมาณ 100 บาท

ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษมีรสชาติหอม หวาน กรอบนอก นุ่มใน เนื้อละเอียด การสั่งซื้อทุเรียนทางออนไลน์สหกรณ์ได้มีการรับประกันทุกลูก เมื่อได้รับทุเรียนแล้วไม่ตรงกับที่สั่งหรือทุเรียนแก่ไม่เต็มที่ ทุเรียนไม่สุก ทางสหกรณ์จะเปลี่ยนใหม่ให้ ทุเรียนที่ส่งไปให้ผู้บริโภคจะติดคิวอาร์โค้ดไว้ให้ตรวจสอบได้ว่าเป็นทุเรียนสวนไหน เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน

อยากชิมทุเรียนอร่อย ต้องเลือกทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ผู้สนใจสามารถสั่งจองทุเรียนศรีสะเกษ ปีการผลิต 2559/60 ได้แล้วนะคะ ส่งตรงถึงหน้าบ้านท่านกันเลยค่ะ รีบๆ จองนะคะ…จะได้ลิ้มรสทุเรียนศรีสะเกษ หวาน นุ่ม ละมุนลิ้น ส่งตรงถึงบ้านทุกท่าน