BEDO ปล่อยฟ้ามุ่ยคืนสู่ป่า เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO  ร่วมกับภาคประชาชน “บ้านปงไคร้” ปล่อยฟ้ามุ่ยคืนสู่ป่า เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ  BEDO ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพาะเลี้ยงฟ้ามุ่ยบ้านปงไคร้ จัดทำโครงการธนาคารกล้วยไม้ระดับชุมชนบ้านปงไคร้ ภายใต้โครงการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน เพื่อการอนุรักษ์ใช้ประโยชน์กล้วยไม้ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน กิจกรรมการปล่อยฟ้ามุ่ยคืนสู่ป่า ณ บ้านปงไคร้ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ของผู้บริหาร ประชาชนและสื่อมวลชในครั้งนี้เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

“ฟ้ามุ่ย” เป็นกล้วยไม้ที่อยู่ในบัญชี 1 ไซเตส บัญชีควบคุมทางการค้าระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมไม่ให้มีการนำต้นออกจากป่ามาจำหน่าย ต่อมาปี พ.ศ. 2547 ประเทศไทยได้เสนอให้ถอดชื่อกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยออกจากไซเตสบัญชี 1 ไปอยู่บัญชี 2 เพื่อเปิดช่องทางให้มีการพัฒนาพันธุ์เพื่อการค้ามากขึ้นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงมีพระเสาวนีย์ ผ่านสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ ให้ “ช่วยสร้างความเจริญให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นให้มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชเศรษฐกิจ พืชอาหาร พืชสมุนไพร และไม้ดอก ไม้ประดับ ฯลฯ รวมถึงการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์กล้วยไม้ไทยหายาก ปล่อยคืนสู่ป่าให้อยู่ในสภาพธรรมชาติตามเดิม”นายวันชัย อินยม ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพาะเลี้ยงฟ้ามุ่ย บ้านปงไคร้ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า BEDO ได้เข้ามาสนับสนุนส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพาะเลี้ยงฟ้ามุ่ย ดำเนินกิจกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์กล้วยไม้อย่างเป็นระบบ โดยให้ความรู้เร่ื่องการสำรวจความหลากหลายกล้วยไม้ เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้ และเทคนิคการนำกล้วยไม้ออกจากขวด รวมทั้งกระบวนการปล่อยกล้วยไม้คืนป่า ในชื่อโครงการธนาคารกล้วยไม้ระดับชุมชนบ้านปงไคร้ ภายใต้โครงการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน ที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยง และชาวบ้านร่วมกับ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จัดกิจกรรมคืนถิ่นฟ้ามุ่ยบ้านปงไคร้ นำเมล็ดกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยที่เคยอยู่ในป่า มาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์อาหารสังเคาระห์ ก่อนปล่อยคืนกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยสู่ธรรมชาติ พร้อมให้ความรู้แก่ภาคประชาชน เพื่อสร้างความตระหนักและ เห็นความสำคัญกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยในธรรมชาติว่า เป็นกล้วยไม้ไทยหายากและถูกภัยคุกคามและอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ชาวบ้านหยุดการนำพ่อแม่พันธุ์ออกจากป่า และร่วมมือในการอนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยในธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่องปัจจุบัน ธนาคารกล้วยไม้ระดับชุมชนบ้านปงไคร้ ภายใต้โครงการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน เป็นหนึ่งในกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่น มีกล้วยไม้ลงทะเบียน 200 ต้น 36 ชนิด กล้วยไม้ในธนาคารกล้วยไม้ระดับชุมชนเป็นกล้วยไม้ที่ชาวบ้านใช้ผลิตฝักกล้วยไม้ อาทิ ฟ้ามุ่ย นกคุ้มไฟ เอื้องคำ และเอื้องมอนไข่ เป็นกล้วยไม้ที่จะนำไปเพาะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนกล้วยไม้ให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ชาวบ้านมีความรู้เรื่องการเพาะต้นกล้ากล้วยไม้สำหรับจำหน่วย และเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมปล่อยกล้วยไม้คืนสู่ป่าอีกด้วย

หมู่บ้านปงไคร้ อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้ หมู่บ้านที่มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี มีป่าต้นน้ำที่อุดมสมบรูณ์ระบบนิเวศป่าดิบเขา ที่มีต้นไม้ใหญ่ หลากหลายสายพันธุ์กระจายหนาแน่นทั่วผืนป่า เป็นต้นน้ำที่สมบรูณ์น้ำไหลตลอดปีแหล่งต้นน้ำสำคัญและเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ป่าดีเด่นของจังหวัดเชียงใหม่

หมู่บ้านฟ้ามุ่ย นับเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่มีกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยในธรรมชาติ ที่มีการเพิ่มจำนวนการปลูกอย่างสม่ำเสมอ เพราะชาวบ้านดำเนินกิจกรรมนำกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยจากกการเพาะเมล็ด ปล่อยคืนสู่ป่ามาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

ทุกวันนี้ หมู่บ้านปงไคร้ เป็นแหล่งเดินป่า และชมกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยในธรรมชาติส่งผลให้ชุมชนมีวิถีชีวิต และรายได้เพิ่มขึ้น จากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวชีวภาพ ที่พัก หล่อเลี้ยงการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยเพื่อปล่อยคืนสู่ป่า ของชุมชนได้เป็นอย่างดี