เผยแพร่ |
---|
พช. ชู “โครงการตลาดอะเมซิ่ง ของกินของใช้” เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ OTOP ขายออนไลน์ จับมือ Shopee หนุนผู้ประกอบการเข้าร่วมต่อเนื่อง 4 แคมเปญ กว่า 1,000 ร้านค้า พลิกฟื้นฝ่าวิกฤต เดินหน้าพัฒนาช่องทางการตลาด สร้างงาน สร้างรายได้
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคม มุ่งเน้นสร้างรายได้และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยให้ภาคเอกชนและภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมดำเนินกับภาครัฐเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงาน “โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” (OTOP) ที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง โดยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาอาชีพ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ
นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานด้าน OTOP ที่ผ่านมา มีความเป็นรูปธรรม สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี อาทิ OTOP Midyear ช่วงกลางปี หรือ OTOP City ช่วงปลายปี แต่ละงานมียอดขายรวมนับพันล้านบาท แต่จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมในเชิงเศรษฐกิจและสังคมต่อประชาชนในท้องถิ่นทั่วประเทศ ทำให้ขาดรายได้ในการดำเนินชีวิต ทั้งยังส่งผลต่อการผลิตและการพัฒนาคุณมาตราฐานของผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้จัดทำ “โครงการตลาดอะเมซิ่ง ของกินของใช้” ในครั้งนี้ต่อเนื่องจากโครงการพัฒนาช่องทางการตลาดก่อนหน้า ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจทั้งจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมและจากประชาชนที่สนใจร่วมสนับสนุนสินค้า OTOP ผ่านช่องทางออนไลน์
“โครงการนี้กรมได้ร่วมมือกับ Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดี จัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายรวม 4 แคมเปญต่อเนื่อง แคมเปญละ 30 วัน ระหว่างกันยายน 2565-4 มกราคม 2566 ประเดิมด้วย “OTOP Amazing 2022” ต่อด้วย “OTOP Amazing Grand Sale” ตามด้วย “OTOP Amazing Year End” และปิดท้ายด้วย “OTOP Amazing Gift Fest” โดยได้เชิญชวนผู้ประกอบการโอท็อปทั้งที่มีร้านอยู่เดิม และร่วมเปิดร้านค้าออนไลน์ใหม่บน Shopee เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดและพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยให้มีศักยภาพในการแข่งขันไปพร้อมกัน มีการคัดเลือกสินค้า OTOP ที่มีความหลากหลาย จัดบุคลากรของกรมคอยให้คำแนะนำการเปิดและบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ การประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย พร้อมส่วนลดสำหรับประชาชนที่สนใจร่วมสนับสนุนสินค้าโอท็อปออนไลน์ด้วย โดยผลตอบรับมีผู้ประกอบการเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องกว่า 1,000 รายที่ได้พัฒนาศักยภาพและเพิ่มช่องทางการตลาด เป็นหนึ่งในโครงการที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว
ด้าน ผู้แทนช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการรายแรกที่ได้ร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ “โครงการตลาดอะเมซิ่ง ของกินของใช้” ได้จัดทำแคมเปญพิเศษถึง 4 แคมเปญ และจะอยู่ในช่วงที่แพลตฟอร์มมีกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษทุกเดือน อาทิ 9.9, 10.10, 11.11, หรือ 12.12 ที่ผู้ใช้แพลตฟอร์มรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับพันธสัญญาของช้อปปี้ในการเดินหน้าส่งเสริมการฟื้นตัวของร้านค้าและผู้ขาย เพื่อช่วยให้ร้านค้าและผู้ขายสามารถเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ด้วยศักยภาพของแพลตฟอร์มช้อปปี้ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในทั่วประเทศ จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยผลักดันและเสริมศักยภาพให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถปรับตัวเข้าสู่วิถีชีวิตรูปแบบใหม่และสร้างธุรกิจให้แข็งแรงและเติบโตได้ในระยะยาวต่อไป