จุดชมทะเลหมอกแห่งใหม่ “ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น” ชุมพร

ในอดีตที่ผ่านมา หากพูดถึง “จุดชมทะเลหมอก” แล้ว หลายคนอาจนึกถึงจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ แต่ปัจจุบันเมื่อยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวคือรถยนต์มีสมรรถนะสูงมากขึ้น การเดินทางเพื่อค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ถือเป็นความท้าทายของผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแนวผจญภัย (Adventure) เพื่อสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่หลายคนยังไม่เคยได้เห็น และจังหวัดชุมพรที่ถือเป็นประตูสู่ 14 จังหวัดในภาคใต้ก็คงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เริ่มมีการค้นพบแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

คุณน้อย สวิงรัมย์

“ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น” ตั้งอยู่ในสวนยางพารา บนยอดเขาในหมู่บ้านประชาเสรี หมู่ที่ 11 ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของจังหวัดชุมพรที่เพิ่งมีการค้นพบ และกำลังได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4 wheels) ในการบุกขึ้นไปตามถนนที่ค่อนข้างโหดและสูงชัน เพื่อกางเต็นท์นอนดูดาวในยามค่ำ ก่อนตื่นขึ้นมาดูทะเลหมอกและดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามในยามเช้า ท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างเย็น มีอุณหภูมิประมาณ 18-22 องศาเซลเซียสแม้จะเป็นในช่วงหน้าร้อนก็ตาม

การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น สามารถเดินทางจากตัวเมืองชุมพรลงไปตามถนนสายเอเชีย 41 ผ่านอำเภอสวี ไปยังสี่แยกเขาปีบ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าไปยังตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จากนั้นจึงใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียม 24 ดวง (Global Positioning System : GPS) เข้าสู่ถนนดินลูกรังซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นสู่ควนตาน้อย ดอย 7 ชั้น โดยต้องผ่านสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน สวนกาแฟ สวนผลไม้ของชาวบ้าน ถนนในบางช่วงจะค่อนข้างแคบ บางช่วงก็ค่อนข้างสูงชันกว่า 45 องศาเซลเซียส ไม่เหมาะต่อการใช้รถยนต์ธรรมดาในการเดินทางขึ้นไปบนควนตาน้อย เพราะอาจเกิดอันตรายได้ แต่ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อไว้คอยบริการที่จุดจอดรถด้านล่าง ผู้ที่นำรถยนต์ธรรมดาไปสามารถจอดรถฝากเอาไว้ แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อได้

คุณน้อย สวิงรัมย์ หนุ่มใหญ่วัย 58 ปี ผู้บุกเบิกและค้นพบจุดชมวิวควนตาน้อย เปิดเผยว่า จุดชมวิวดูทะเลหมอกควนตาน้อย เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเมื่อปี 2564 แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เรื่อยมาจากถึงปี 2565 จึงทำให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้เท่าที่ควร จนเมื่อสถานการณ์ของโควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวจึงสนใจขึ้นมานอนกางเต็นท์ดูดาวในยามค่ำคืน ก่อนรอชมดวงอาทิตย์ขึ้น และเฝ้าดูทะเลหมอกในยามเช้าบนควนตาน้อยแห่งนี้ที่อยู่ใจกลางของตำบลเขาค่าย หากขึ้นมาบนควนตาน้อยจะมองเห็นชุมชนของตำบลเขาค่ายทั้ง 12 หมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของตำบลเขาค่ายในขณะนี้ เพราะหลายคนที่ขึ้นมาบอกว่าบรรยากาศบนควนตาน้อยมีความสวยงามแตกต่างจากที่อื่น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา

“บนควนตาน้อยสามารถมองเห็นได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก และยังเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังดอยตาปังและเขาทะลุที่อยู่ไม่ไกลได้ด้วย และบนควนตาน้อยสามารถกางเต็นท์ได้ไม่ต่ำกว่า 100 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละไม่ต่ำกว่าครั้งละ 200 คน ด้านล่างมีลานจอดรถที่สามารถจอดได้ไม่ต่ำกว่า 50 คัน แต่จำเป็นต้องติดต่อก่อนล่วงหน้าที่โทร. 082-815-4737 เนื่องจากต้องขึ้นกับสภาพอากาศด้วย หากมีฝนตกก็ไม่สมควรเดินทางขึ้นมา สำหรับค่าบริการนั่งรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นมาบนควนตาน้อยหากไม่เกิน 5 คนก็คันละ 300 บาท ถ้าเกิน 5 คนก็คันละ 500 บาท ส่วนจุดกางเต็นท์หากนำเต็นท์มาเองก็เสียค่าบริการหลังละ 100 บาท ถ้าเป็นเต็นท์ของควนตาน้อยก็เสียค่าบริการหลังละ 350 บาท นอนได้ 2 คน โดยจะมีชา กาแฟ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำไว้บริการ และนักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารขึ้นมาประกอบหรือรับประทานได้” คุณน้อย กล่าว

หลังจากเศรษฐกิจของประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มานานเกือบ 3 ปี เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวจึงถือสิ่งสำคัญ และการท่องเที่ยวในประเทศก็ถือเป็นการท่องเที่ยวที่สมควรได้รับการสนับสนุนจากชาวไทย ซึ่งควนตาน้อยดอย 7 ชั้น ก็อาจถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวผจญภัยในลักษณะกางเต็นท์นอนดูดาว เฝ้าดูทะเลหมอกและดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า