ไมเกรนมีผลต่อชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง ทำไมถึงควรระวัง

ไมเกรน เป็นอีกโรคหนึ่งที่สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วย มักจะรบกวนชีวิตประจำวัน อาการจะกำเริบเมื่อได้รับแรงกระตุ้นจากสิ่งต่าง ๆ อาจจะแสง เสียง อาหารก็ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้อาการปวดไมเกรนเกิดขึ้นได้

“ไมเกรน เป็นเหมือนคนรู้จักที่เราไม่อยากให้มาเจอบ่อย ๆ” นายแพทย์ปริญญ์ บุญชัด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและสมอง ศูนย์รักษาไมเกรนโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยไมเกรนมากกว่า 1,000 เคส พูดถึงโรคไมเกรน “อาการปวดไมเกรนนั้น ไม่เหมือนการปวดหัวทั่วๆ ไป จะปวดแบบตุบๆ อาจจะปวดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ เป็นอาการปวดหัวเรื้อรังที่รบกวนชีวิตประจำวันพอสมควร”

เราจะสังเกตว่าเราปวดหัวไมเกรนซึ่งจะมีอาการบ่งชี้คือปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการปวดหัวแบบตุบๆ เป็นระยะหรือเป็นจังหวะ ลักษณะอาการปวดมักมีความรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก อาจมีอาการอื่นข้างเคียงเพิ่มเข้ามาด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีสัญญาณเตือนที่เป็นสิ่งกระตุ้นก่อนปวดหัว เช่น เห็นแสงวูบวาบ ไฟระยิบระยับ เห็นภาพเบลอ เป็นต้น โดยอาการเตือนนนั้นอาจจะเกิดเก่อนปวดหัวประมาณ 10-30 นาที

ส่วนสาเหตุของการเกิดไมเกรนนั้นยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน แต่ก็ได้กล่าวกันว่าเป็นอาการที่ระบบสมองนั้นไวกับสิ่งเร้าที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ ซึ่งสิ่งเร้านั้น ได้แก่ การอดนอน การกินอาหารไม่ตรงเวลา อากาศร้อน แสงจ้า ความเครียด สำหรับผู้หญิงยังมีเรื่องของฮอร์โมนเพศเข้ามาเกี่ยว เช่น ก่อนหรือหลังมีประจำเดือนจะมีอาการไมเกรนกำเริบขึ้นมา เป็นต้น

“ถามว่าอาการปวดไมเกรนนั้น ส่งผลเสียอย่างไรกับชีวิตประจำวันบ้าง ต้องบอกว่าหลายคนเรียนไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ใช้ชีวิตแบบปกติได้ยากลำบากกว่าคนอื่น ต้องคอยระวังสิ่งที่จะมากระตุ้นที่จะทำให้อาการของไมเกรนกำเริบขึ้นมา เวลาปวดไมเกรนทีอาจจะกินเวลาหลายชั่วโมง บางคนต้องกินยาทุกครั้งที่เกิดไมเกรนหรือรายที่เป็นมานาน ต้องใช้ยาป้องกันการปวดไมเกรน ไม่อย่างนั้นไม่สามารถจะเรียนหรือทำงานได้เลย” นายแพทย์ปริญญ์ บุญชัด กล่าวถึงผลกระทบของไมเกรนที่มีต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ไมเกรน “ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการของไมเกรนอาจจะมีอาการตาลาย พร่ามัว เหมือนเรามองอะไรที่มันสว่างๆ แล้วแสงมันค้างอยู่ยังไงก็ไม่หายค้างอยู่เป็นชั่วโมงแล้วจะเริ่มปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ อาจจะปวดหัวข้างเดียวก่อนจนทนไม่ได้ใช้ยาพาราเพื่อระงับความปวดก็ไม่หาย บางรายบอกว่าปวดจนเหมือนหัวจะระเบิด แล้วยังมีอาการข้างเคียง อย่างอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาเจียนจนน้ำดีขมๆ ออกมาหมดแรง อยากจะหลับก็หลับไม่ได้ เพราะปวดหัวจนหลับไม่ลง”

ซึ่งวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยไมเกรนนั้นมีหลายวิธี เบื้องต้นผู้ป่วยจะเลือกกินยาระงับอาการปวด สำหรับคนที่อาจจะปวดไม่มาก เช่น ยาแก้ปวดจำพวกแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน ส่วนยาที่จะช่วยระงับความปวดจากโรคไมเกรนในกรณีที่ยาแก้ปวดทั่วไปไม่สามารถระงับอาการปวดได้ เช่น ยากลุ่มทริปแทน, ยากลุ่มเออร์กอตอัลคาลอยด์, คาเฟอีนที่ผสมกับยาบรรเทาปวดชนิดอื่น ซึ่งการใช้ยาระงับอาการปวดนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยาประเภทไหน การใช้ต่อเนื่องและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีอันตรายตามมา

นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว บางรายก็จะใช้วิธีอื่นในการรักษา เช่น การกดจุด การฝังเข็ม หรือการประคบเย็น มาเป็นการรักษาไมเกรนแบบธรรมชาติโดยหลีกเลี่ยงการใช้ยา นอกจากนี้ ยังมีวิธีรักษาไมเกรนที่น่าสนใจอีกวิธีคือ โบท็อกไมเกรน ซึ่ง นายแพทย์ปริญญ์ บุญชัด บอกว่าเป็นอีกวิธีที่สามารถใช้รักษาไมเกรนได้และมีโอกาสหายขาดหรือทิ้งระยะอาการปวดได้ค่อนข้างนาน

“หลายคนคงได้ยินเรื่องโบท็อกเกี่ยวกับความงาม แต่จริง ๆ แล้วโบท็อกไมเกรนถูกใช้มานับสิบปีในต่างประเทศ ได้รับการยอมรับมานาน Botulinum toxin ชนิด A หรือ โบท็อก นั้นมีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการปวดหัวเรื้อรัง บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน รวมถึงช่วยรักษาโรคอื่นๆ ทางระบบประสาทและสมอง ด้วยไมเกรนนั้นเป็นอาการปวดที่เกิดมาจากระบบสมองถูกรบกวนโดยตรง”

“สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดไมเกรนเรื้อรัง ต้องกินยาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะต้องปรึกษากับแพทย์เพื่อการรักษาไมเกรนเพิ่มเติม เพราะการเพิ่มปริมาณยาขึ้นเพื่อระงับการปวด อาจจะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับการรักษาไมเกรน ที่ BTX MIGRAINE CENTER ศูนย์รักษาไมเกรนโดยแพทย์เฉพาะทาง มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยไมเกรนโดยเฉพาะ ที่สามารถเข้ามาปรึกษาได้ เรามีประสบการณ์ในการให้คำแนะนำและรักษาไมเกรนมากว่า 20 ปี”

“จากที่เราพบผู้ป่วยไมเกรนมาจำนวนมาก เรารู้ดีว่า เป็นอาการป่วยที่ทรมานและกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เราจึงอยากจะให้ผู้ป่วยนั้น สามารถรักษาอาการปวดหัว ทิ้งระยะห่างของอาการปวด จากสิ่งกระตุ้นต่างๆ เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันทั่วไปได้สะดวกมากขึ้น

ต้องการปรึกษาอาการปวดไมเกรนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางติดต่อได้ที่ Line@ayaclinic หรือ 090-970-0447 เพื่อจองเวลาเข้าพบแพทย์และปรึกษาวิธีการรักษาไมเกรนด้วยโบท็อกไมเกรน