เผยแพร่ |
---|
กรมการค้าภายใน นำผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้ารับซื้อมะม่วงแฟนซี ในราคานำตลาดเพื่อกระจายออกสู่ตลาดปลายทางที่มีความต้องการสูง ผ่านกลไก “อมก๋อยโมเดล” ควบคู่ไปกับโครงการ “Fruit Festival 2023” พร้อมกัน มั่นใจดันราคาปีนี้อยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ นำผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตมะม่วงแฟนซี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ R2E2 จินหวง งาช้างแดง แดงจักรพรรดิ์ ในพื้นที่อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ปริมาณรวมแล้วกว่า 1,000 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท และเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการรับซื้อผลผลิตมะม่วงแฟนซี 4 สายพันธุ์ จากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ณ จุดรับซื้อในพื้นที่อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ โดยตัวแทนเกษตรกรได้ให้ความชื่นชมและขอบคุณกรมการค้าภายในและจังหวัดแทนพี่น้องเกษตรกรที่เข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่ต้นฤดูกาล ส่งผลให้มะม่วงมีราคาสูงขึ้น
“การที่กรมพาผู้ประกอบการเข้ามาช่วยรับซื้อมะม่วงในราคา 10-12 บาทต่อกิโลกรัมนั้น ช่วยให้คุ้มกับค่าต้นทุนในการผลิต เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าห่อ และค่าแรง และอยากฝากให้มีการเข้ามารับซื้อแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
ส่งผลให้ปัจจุบันราคามะม่วงน้ำดอกไม้เชียงใหม่ ปีนี้อยู่ที่ 30-40 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ราคา 12-25 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 89 และมะม่วงแฟนซี ราคาปีนี้อยู่ที่ 10-12 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ราคา 5-10 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 47
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ลงพื้นที่อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการ “อมก๋อยโมเดล” ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจัดให้มีพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงมาตรฐาน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรับซื้อมะม่วง ในราคานำตลาด โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายภาคเอกชน 10 ราย ประกอบด้วย ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก อาทิ บริษัท เอ็ม ที ฟรุ๊ตแลนด์ จำกัด บริษัท มาตา เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท นานา ฟรุ๊ต จำกัด บริษัท สตูดิโอ จีบาร์ จำกัด และ บริษัท มิสเตอร์ฟรุ๊ตตี้ จำกัด ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง อาทิ แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เดอะมอลล์ และท็อปส์ สถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ พีที และบางจาก เข้ามารับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร จำนวน 6 กลุ่ม 2 จังหวัด กว่า 100 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอเวียนหนองล่อง จังหวัดลำพูน ปริมาณรับซื้อรวม 38,800 ตัน (มะม่วงน้ำดอกไม้ 6,000 ตัน และมะม่วงแฟนซี 32,800 ตัน) คิดเป็นมูลค่า 448 ล้านบาท
และก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 ตามนโยบายของท่านรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) โดยมีมาตรการทั้งสิ้น 22 มาตรการ ดูแลตั้งแต่การผลิต การตลาดในประเทศ ต่างประเทศ และด้านกฎหมาย เพื่อดูแลผลผลิตผลไม้ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 6.78 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% โดยได้เตรียมมาตรการหาตลาดล่วงหน้าไว้ รวมกว่า 700,000 ตัน และตั้งเป้าผลักดันการส่งออกผลไม้สดและแปรรูป 4.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10% รวมทั้งได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้ประกอบการผลไม้ ผู้แทนเกษตรกร ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมัน โลจิสติกส์ สายการบิน ผู้แทนสถาบันการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมมาตรการดูแลผลไม้ ปี 2566 ไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม “กรมจะติดตามและประเมินสถานการณ์ผลผลิต ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์เป็นระยะและเตรียมพร้อมดำเนินการรับมือด้านปริมาณและราคาไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูแลพี่น้องเกษตรกรให้สามารถขายสินค้าเกษตรได้ในเกณฑ์ดีตลอดฤดูกาล” นายกรนิจ กล่าว