| เผยแพร่ |
|---|
เชื่อว่าในปัจจุบัน หลาย ๆ คนคงจะมีความเชื่อเรื่องสีมงคล สีนำโชค หรือสีที่ถูกโฉลกกับตัวเอง และพยายามเลือกใช้แต่สิ่งของที่เป็นสีเหล่านั้น เช่นเดียวกับรถยนต์ที่หลาย ๆ คนมองว่า สีรถที่ถูกโฉลกกับตัวเอง จะช่วยให้การขับขี่ราบรื่น แคล้วคลาดปลอดภัย แต่รู้หรือไม่ว่า การเปลี่ยนสีรถนั้นจำเป็นจะต้องแจ้งกับกรมการขนส่งทางบกและบริษัทประกันให้เรียบร้อยก่อนเสมอ แล้วมีอะไรที่ต้องรู้เมื่อเปลี่ยนสีรถมาแล้วบ้าง ไปดูกันเลย
เปลี่ยนสีรถใหม่ต้องแจ้งขนส่งภายในกี่วัน
สำหรับคนที่เปลี่ยนสีรถมาแล้ว จะต้องทำการแจ้งกับกรมการขนส่งทางบนภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนสีนั้น หากเกินกำหนด เจ้าของรถจะมีความผิดตามมาตรา 60 ระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
- ยื่นคำขอนำรถเข้ารับการตรวจสอบ พร้อมเอกสาร
- รอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจ แล้วรับใบแจ้งผลการตรวจสอบรถ
- ชำระค่าธรรมเนียม
- รอรับเอกสารต่าง ๆ คืนจากกรมขนส่ง
เอกสารที่ต้องใช้
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการเปลี่ยนสีรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าจ้างทำสีรถ
ค่าใช้จ่าย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จะมีค่าแก้ไขรายการในทะเบียน 50 บาท ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท และค่าคำขอ 5 บาท
เปลี่ยนสีแบบไหนไม่ต้องแจ้ง
หากเป็นการเปลี่ยนสีรถเฉพาะบางจุด ที่ไม่เกิน 30% ในตัวถังไม่จำเป็นจะต้องแจ้ง เช่น กรณีสีคาด หรือแถบคาดที่ใช้ตกแต่งรถ สติกเกอร์ลายการ์ตูนบางลาย เป็นต้น ซึ่งสติกเกอร์ตกแต่งเหล่านี้จะต้องไม่ทำให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงไป สำหรับคนที่เปลี่ยนสีบริเวณฝากระโปรงหน้ารถ หรือกระโปรงท้ายรถให้เป็นอีกสีที่แตกต่างจากเดิม จะต้องแจ้งกับกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อย
เปลี่ยนสีรถใหม่ทั้งคันต้องแจ้งประกันมั้ย
แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้มีการระบุว่า หากเปลี่ยนสีรถจะต้องแจ้งกับบริษัทประกันภัยที่ทำอยู่ แต่เพื่อให้บริษัทประกันมีข้อมูลสภาพรถที่ตรงกัน ก็ควรจะแจ้งไว้ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตอนเคลมเพราะสภาพรถไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ก่อนซื้อประกันรถยนต์
สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะเปลี่ยนสีรถให้ถูกโฉลกกับตัวเอง ก็อย่าลืมจัดตารางในการไปแจ้งเรื่องการเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อย เพราะหากไม่ไปแจ้งตามเวลาที่กำหนด ก็อาจทำให้คุณต้องเสียทั้งเวลา และเงินค่าปรับ
