เผยแพร่ |
---|
“สวก.” หนุน “มก.” พัฒนาถั่วลิสง-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ใหม่ ส่งเสริมเกษตรกรมีรายได้มั่นคงยั่งยืน
สวก. – มก. เปิดงาน “ร่วมมือ ร่วมพัฒนา ร่วมวิจัย มก. – สวก.” ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวพันธุ์ใหม่ และ ถั่วลิสง KU ARDA 20 สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรไทยในการเพิ่มผลผลิต มีรายได้มั่นคงยั่งยืน พร้อมส่งมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ใหม่ สุวรรณ 5720 และสุวรรณ 5821 จำนวน 400 กิโลกรัม ให้สภาเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมาและเกษตรกรเข้าร่วมงาน
นางสาวกุลวรา โชติพันธุ์โสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์สูงถึง 8 ล้านตันต่อปี ขณะที่ปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รวมถึงถั่วลิสงภายในประเทศกลับผลิตได้แค่ 5 ล้านตันต่อปีเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของโรงงานอาหารสัตว์ที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ แถมบางช่วงเวลาราคาการนำเข้าก็สูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ในภาพรวมสูงขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น รัฐบาลจึงมีนโยบายให้เกษตรกรลดการทำนาปรัง และส่งเสริมให้หันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย โดยข้าวโพดถือเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ใช้น้ำน้อย และยังมีความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์สูง
“สวก. เองในฐานะหน่วยงานที่มีพันธกิจในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนางานวิจัยการเกษตร ก็ได้สนับสนุนทุนวิจัยประจำปีงบประมาณ 2566-2567 ให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ในการพัฒนาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวและถั่วลิสง KU ARDA 20 ที่ให้ผลผลิตสูง เหมาะสมสำหรับการปลูกในฤดูแล้ง” นางสาวกุลวรา กล่าว
รองศาสตราจารย์ ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เสริมว่า ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ มก. มีความมุ่งมั่นในการวิจัยค้นคว้าหาองค์ความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับด้านการเกษตร เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาพันธุ์พืชให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ตอบสนองความต้องการของประชาชน และความกินดีอยู่ดีของประชากรโลก ซึ่ง มก. มีความพร้อมหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ เครื่องจักรกลทางการเกษตร รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ก็คาดว่าในอนาคตศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติจะสามารถพัฒนางานวิจัยทางด้านข้าวโพดให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
“ขอบคุณ สวก. ที่ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยต่างๆ ของไร่สุวรรณ ขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิที่มาติดตามและให้คำแนะนำในการดำเนินงานจนผลงานออกมาเป็นประจักษ์ให้ทุกคนได้เห็นในครั้งนี้ และหวังว่าทั้ง 4 โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและนักวิชาการเกษตรต่อไป” รองศาสตราจารย์ ดร.ธานี กล่าว
ว่าที่ร้อยตรี โรจนพงศ์ ไชยสิทธิ์ หัวหน้าโครงการ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดไร่ลูกผสมที่พัฒนาโดยภาครัฐ โดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม เพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไร่ในจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สืบเนื่องจากความต้องการใช้ข้าวโพดในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ผลผลิตในประเทศไทยไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเกิดปัญหาที่ว่าผลผลิตข้าวโพดสำหรับอุตสาหกรรมสัตว์ไม่เพียงพอ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ มก. จึงร่วมมือกับ สวก. พัฒนาพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม ตลอดจนการพัฒนางานวิจัยทางด้านเทคโนโลยีการผลิตทั้งพันธุ์ข้าวโพดและถั่วลิสง จนได้ข้าวโพดลูกผสมเดี่ยวพันธุ์ใหม่และถั่วลิสงพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีศักยภาพในการให้ผลผลิตสูง รวมถึงได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นด้วย
สำหรับโครงการที่ สวก. สนับสนุนให้ทุนวิจัยกับ มก. ประกอบไปด้วย 1. โครงการการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดไร่ลูกผสมที่พัฒนาโดยภาครัฐ โดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม เพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไร่ในจังหวัดนครราชสีมา และ 2. โครงการการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์เชิงธุรกิจ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมพันธุ์ใหม่ของภาครัฐ สำหรับกลุ่มเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา เป็นการพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดที่มีจุดเด่นสำคัญ คือ ต้านโรค โตไว และให้ผลผลิตสูงมากกว่า 1,600 กิโลกรัมต่อไร่ เหมาะกับพื้นที่ดินไร่ในเขตภาคกลางและภาคอีสาน โดยเป็นงานวิจัยที่พัฒนาต่อยอดข้าวโพดสายพันธุ์ สุวรรณ 5720 และ สุวรรณ 5821 จากเดิมที่มีการพัฒนาสายพันธุ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์ไปเมื่อปี พ.ศ. 2563 แต่ยังขาดเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกในพื้นที่สภาพนา เนื่องจากมีความชื้นสูง ทำให้เกิดโรคและมีปัญหาด้านการงอก โครงการวิจัยนี้จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ปัจจุบันได้มีกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 กลุ่ม รวม 65 ราย พื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ นำพันธุ์ข้าวโพดดังกล่าวไปเพาะปลูก พบว่าสามารถให้ผลผลิตถึง 1,750-1,980 กิโลกรัมต่อไร่ และพร้อมที่จะนำพันธุ์ไปขยายพื้นที่การเพาะปลูกที่เหมาะสมต่อไป
3. โครงการการประเมินผลผลิตและเสถียรภาพผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวดีเด่น เพื่อปลูกในฤดูฝนและฤดูแล้งเขตภาคกลาง เป็นการพัฒนาข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่สุวรรณ 6420 และสุวรรณ 6480 โดยชูจุดเด่นตรงที่ทนแล้งได้ดี เหมาะกับการเพาะปลูกสภาพไร่ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ที่สำคัญให้ผลผลิตสูงมากกว่า 1,700 กิโลกรัมต่อไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนพันธุ์ในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะเผยแพร่เมล็ดพันธุ์ออกสู่เกษตรกร เพื่อนำไปต่อยอดในการเพาะปลูกต่อไป
4. โครงการการพัฒนาพันธุ์ถั่วลิสงและเทคโนโลยีการผลิต เพื่อเพิ่มผลผลิตสำหรับเขตภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทย เป็นโครงการที่พัฒนาถั่วลิสงสายพันธุ์ เคยู อาร์ด้า 20 (KU ARDA 20) มีจุดเด่น โตดี ทนโรค ให้ผลผลิตสูงมากกว่า 400 กิโลกรัมต่อไร่ เหมาะกับการเพาะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง และเหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงอบกรอบและถั่วเคลือบ
ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนพันธุ์เรียบร้อยแล้ว และมีเกษตรกรได้นำพันธุ์ไปใช้ ซึ่งพบว่าผลผลิตออกมาเป็นที่พึงพอใจ สามารถสนับสนุนฐานการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการบริโภคและใช้ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ คาดว่าถั่วลิสงสายพันธุ์ เคยู อาร์ด้า 20 จะสามารถสร้างมูลค่าจากการผลิตถั่วลิสงในประเทศได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท