เผยแพร่ |
---|
สถานการณ์ประเทศไทยตอนนี้มีข่าวการเกิดไฟไหม้ที่อยู่อาศัยกันแทบจะรายวัน นอกจากเรื่องความปลอดภัยในชีวิตที่เราต้องกังวลเพิ่มแล้ว ในส่วนของตัวบ้านของเราเองถ้าเกิดไฟไหม้ขึ้นมา มูลค่าความเสียหายจากการสูญเสียบ้านที่ซื้อไว้มูลค่าหลักล้านกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ เราเองก็ยังต้องนำเงินจำนวนมากมาซ่อมแซมให้บ้านกลับมาเหมือนเดิมหรือสร้างที่อยู่อาศัยใหม่อีก การทำประกันอัคคีภัยบ้านเพื่อเป็นหลักประกันด้านค่าใช้จ่ายและชดเชยความเสียหายนี้จึงตอบโจทย์มากๆ แต่การทำประกันนั้นก็มีให้เลือกทำได้หลายปี แล้วทำกี่ปีถึงจะดีและได้เบี้ยราคาถูกที่สุดไปดูกัน
การเลือกชำระเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้าน
ถ้าเราต้องการได้เบี้ยประกันอัคคีภัยที่ถูกลง โดยปกติแล้วถ้าเราเลือกชำระเบี้ยประกันตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้น เบี้ยประกันเฉลี่ยต่อปีของเราก็จะลดลง เราก็สามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันได้มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งในปีที่ 2 บริษัทจะคิดเบี้ยประกันภัยเท่ากับ 175% และปีที่ 3 บริษัทจะคิดเบี้ยประกันภัยเท่ากับ 250% เช่น
- เบี้ยประกันอัคคีภัยบ้าน 1 ปี 1,000 บาท
- เบี้ยประกันอัคคีภัยบ้าน 2 ปี จะอยู่ที่ 1,750 บาท หรือเบี้ยเฉลี่ยต่อปี 875 บาท ทำให้ประหยัดเงินได้ 250 บาท
- เบี้ยประกันอัคคีภัยบ้าน 3 ปี จะอยู่ที่ 2,500 บาท เบี้ยเฉลี่ยต่อปี 33 บาท ทำให้ประหยัดเงินได้ 500 บาท
ข้อดีและข้อเสียของประกันอัคคีภัยบ้าน 3 ปี
จากตัวอย่างการเลือกเบี้ยประกันภัย 3 ปี นับได้ว่าคุ้มค่าเบี้ยประกันมากๆ ซึ่งนอกจากค่าเบี้ยประกันแล้วการเลือกประกันอัคคีภัยบ้าน 3 ปีนั้นยังมีทั้งข้อดีและข้อเสียอื่นๆ อีก ซึ่งจะมีอะไรกันบ้างไปดูกัน
ข้อดีของประกันอัคคีภัยบ้าน 3 ปี
- ความคุ้มครองที่ยาวนาน ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการต่ออายุประกันทุกปี
- การประหยัดค่าเบี้ยประกัน ค่าเบี้ยประกันต่อปีต่ำกว่าการทำประกันแบบปีต่อปี
- การคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น คุ้มครองภัยธรรมชาติและความเสี่ยงอื่นๆ ที่มากกว่า
ข้อเสียของประกันอัคคีภัยบ้าน 3 ปี
- การผูกมัดระยะยาว ต้องผูกมัดกับบริษัทประกันเป็นเวลานานถึง 3 ปี หากมีปัญหาหรือไม่พอใจกับบริการ การเปลี่ยนบริษัทประกันอาจเป็นเรื่องยาก
ทริก จ่ายค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านให้ถูกลง
การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันภัยต่างๆ ไว้ภายในบ้าน เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง หรือเครื่องตรวจจับควัน เป็นตัวช่วยทำให้มีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยถูกลง และอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ยังช่วยแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที ทำให้ช่วยลดความเสียหายลงได้
สรุปบทความ
หัวใจสำคัญของการทำประกันภัยคือความคุ้มค่าที่เหมาะกับตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีถ้ามูลค่าทรัพย์สินในบ้านของเราเพิ่มมากขึ้น เราเองก็ควรจะสำรวจทุนประกันภัยให้เหมาะสมกับมูลค่าทรัพย์สินด้วย นอกจากนี้ ยังควรสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยด้วย