| เผยแพร่ |
|---|
ปัจจุบันแทบทุกอย่างในชีวิตของเราใช้ไฟฟ้าและเทคโนโลยีแทบหมด ไม่ว่าจะเป็นพาร์ตของการใช้ชีวิตประจำวันธรรมดาอยู่บ้าน หรือพาร์ตของการไปทำงาน ทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนมี ‘ไฟฟ้า’ เป็นพลังงานสำคัญที่ทำให้เราใช้ชีวิตหรือทำงานได้สะดวกมากขึ้น ทั้งให้แสงสว่าง ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานได้อย่างลื่นไหล หรือในโรงงานอุตสาหกรรม เครื่องจักรทุกๆ ชิ้นก็ต้องใช้ไฟฟ้าทั้งนั้น เรียกได้ว่า หากไฟดับ หรือขาดไฟฟ้าไป หลายๆ กระบวนการย่อมหยุดชะงัก ก่อนจะตามมาด้วยความเสียหายที่ประเมินค่าแทบไม่ได้เลย ดังนั้น ‘การติดตั้งเครื่องปั่นไฟ’ ที่สำรองพลังงานไว้ใช้ในยามที่ไฟฟ้าเกิดขัดข้อง จึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายบ้าน หรือหลายธุรกิจเลือกที่จะมีติดตั้งไว้ และเครื่องปั่นไฟก็ถูกผลิตออกมาหลายรูปแบบ หลายขนาด ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่ละขนาดมีคุณสมบัติและเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน และคุ้มค่ากับราคาการติดตั้งมากที่สุด บทความนี้ขอชวนทุกคนมารู้จักเครื่องปั่นไฟทั้ง 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ว่าแต่ละขนาดมีจุดเด่น-ข้อเสียอย่างไร เหมาะกับใช้งานในระดับไหนบ้าง โรงงานหรือบ้านไหนวางแผนจะติดตั้งเครื่องปั่นไฟอยู่ ตามมาดูกันได้เลย!
เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก
เริ่มกันด้วยเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก มักมีขนาดตั้งแต่ 1-20 KVA หากเปรียบเทียบอาจมีขนาดพอๆ กับเครื่องปั๊มลมที่ใช้ในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จึงมีความสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหน พร้อมสร้างกระแสไฟฟ้าได้ทุกที่ เพียงมีน้ำมันเบนซิน/ดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เหมาะกับการใช้งานที่ไม่ต้องการกำลังไฟฟ้าสูง เช่น ใช้งานภายในบ้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มาก ใช้งานนอกสถานที่จัดงานหรือใช้ไฟในปริมาณน้อย โดยเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กจะมีทั้งแบบกระแสไฟฟ้าเฟสเดียวและแบบ 3 เฟส และพลังงานกลจะได้จากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลหรือน้ำมันเบนซิน ซึ่งจะต่างจากเครื่องปั่นไฟดีเซลโดยสิ้นเชิง
จุดเด่นของเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก
– ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย เนื่องจากพลังงานหลักใช้จากน้ำมันเบนซินที่มีราคาถูกกว่าพลังงานอื่นๆ
– เคลื่อนย้ายและใช้งานได้สะดวก เนื่องจากมีขนาดเล็กและเบา โดยเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กบางรูปแบบอาจมีการติดตั้งล้อสำหรับเคลื่อนที่ไว้ด้วย
– เหมาะกับใช้งานที่หลากหลายทั้งภายในบ้าน นอกสถานที่แบบอิสระ ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าสาธารณะ หรือสายไฟที่อาจขัดข้อง
ข้อเสียของเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก
สำหรับข้อเสียของเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก คืออาจมีเสียงค่อนข้างดัง เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ในการทำงาน และอาจมีควันและก๊าซขณะที่ใช้อยู่ เนื่องจากใช้การเผาผลาญพลังงานเคมี นอกจากนี้ ยังมีกำลังไฟที่จำกัด เนื่องจากมีขนาดจำกัด ปรับแต่งไม่ได้ 100%
เครื่องปั่นไฟขนาดกลาง
ขยับขนาดขึ้นมาหน่อยกับเครื่องปั่นไฟขนาดกลาง ที่เป็นเครื่องผลิตไฟฟ้าแบบ 3 เฟส มีแรงดันไฟฟ้า 220/380 โวลต์ และมักมีขนาดตั้งแต่ 20-50 KVA เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการไฟฟ้าสํารองสูง เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับหลักการทำงานของเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดกลางนี้จะขับเคลื่อนการทำงานด้วยโรเตอร์ (Rotor) ที่เป็นส่วนที่เคลื่อนที่และสร้างสนามแม่เหล็ก เพื่อให้ขดลวดอาร์เมเจอร์ที่เป็นส่วนที่ไม่เคลื่อนที่และสร้างแรงดันไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังสามารถสตาร์ตด้วยมือ (Manual) ได้ง่ายๆ เมื่อไม่มีไฟฟ้าหลักด้วย
จุดเด่นของเครื่องปั่นไฟขนาดกลาง
– เป็นเครื่องปั่นไฟที่มีกำลังไฟฟ้าสูง จึงสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการและลักษณะการใช้งาน
– มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากใช้เบนซินที่มีพลังงานเคมีสูง
– มีความทนทานมากกว่าเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก เพราะผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ
ข้อเสียของเครื่องปั่นไฟขนาดกลาง
มีราคาค่อนข้างสูง อาจเพราะประกอบด้วยเทคโนโลซีที่ซับซ้อนมากกว่าเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก และต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันและกรองให้ตรงตามรอบ ทั้งนี้ ยังมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เนื่องจากใช้การเผาผลาญพลังงานเคมีนั่นเอง
เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่
สุดท้ายกับเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ที่มีขนาด 4,000 KVA ขึ้นไป ถือว่ามีขนาดใหญ่มาก เป็นเครื่องกลที่ใช้พลังงานจากแหล่งต่างๆ เช่น ความร้อน น้ำ หรือแก๊ส เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสู่ระบบไฟฟ้าของประเทศ หรือเขตพื้นที่ จึงเหมาะสำหรับโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาคารสูงๆ และธุรกิจแทบทุกระดับ สำหรับหลักการทำงานของเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่นี้จะใช้หลักการเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้า โดยดีเซล 5 กิโลวัตต์จะเหนี่ยวนำจากการให้ตัวนําตัดผ่านสนามแม่เหล็ก และมีส่วนสําคัญ 2 ส่วน คือ โรเตอร์ (Rotor) ที่เป็นส่วนที่หมุนเพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก และสเตเตอร์ (Stator) ที่เป็นส่วนที่อยู่กับที่เพื่อสร้างแรงดันไฟฟ้าขึ้นมานั่นเอง
จุดเด่นของเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่
– สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปริมาณมาก เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีเครื่องจักรและใช้กำลังไฟเยอะ
– มีศักยภาพ สามารถเป็นกำลังหลักในการผลิตไฟฟ้าของโรงงาน
– สามารถใช้เชื่อมต่อกับระบบจำหน่ายไฟฟ้าได้ด้วย
ข้อเสียของเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่
สำหรับข้อเสียของเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่นั้น คืออาจต้องการการบำรุงรักษามากกว่าเครื่องปั่นไฟแบบเฟสเดียว และต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ในการติดตั้ง จึงไม่เหมาะกับโรงงานที่มีการวางระบบพื้นที่แคบ หรือมีขนาดเล็กจนเกินไป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเบื้องต้น จุดเด่น ข้อเสีย รวมถึงความเหมาะสมกับการติดตั้งไว้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าสำรองของเครื่องปั่นไฟทั้งสามขนาด เล็ก กลาง และใหญ่ โดยภาพรวมแล้ว เราจะเห็นได้ว่า เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่จะมีการผลิตไฟฟ้าที่สูงกว่าเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กและขนาดกลาง และจะมีการผลิตไฟฟ้าที่พร้อมใช้งานกว่า ด้วยหลักการทำงานที่ผลิตออกมาให้มีระบบแตกต่างกัน ดังนั้น หากเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก จึงควรเลือกติดตั้งเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่เป็นหลัก ส่วนหากเป็นธุรกิจนาดเล็ก หรือเพียงอยากได้ไฟฟ้าสำรองไว้ใช้ฉุกเฉินในบ้าน หรือขณะออกไปทำงานนอกสถานที่ชั่วคราวก็อาจเลือกเป็นเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือกลางแทน ทั้งนี้ เพื่อลดการเกิดอันตรายและเลือกติดตั้งเครื่องปั่นไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด แนะนำให้คำนวณปริมาณไฟฟ้าที่ต้องการใช้อย่างละเอียด พร้อมกับบวกกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้พร้อมกัน (Load Calculation) เพื่อหาค่า Wattage ของเครื่องปั่นไฟด้วย
แต่สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกเครื่องปั่นไฟขนาดและรูปแบบไหนให้เหมาะสมกับบ้านและธุรกิจอุตสาหกรรมของตนเองดี Siam Generator ผู้นำด้านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนาน มีเจ้าหน้าที่มืออาชีพที่มีประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษา และผลิตภัณฑ์เครื่องปั่นไฟมากมายหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ ดำเนินการควบคุมและดูแลโดยวิศวกรมืออาชีพ มีทีมเซอร์วิสในการส่งมอบ ติดตั้ง และดูแลเครื่องปั่นไฟทั่วประเทศไทย มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับเครื่องปั่นไฟ หรือแหล่งสำรองไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
