เผยแพร่ |
---|
ใครๆ ก็อยากมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งอายุที่เพิ่มขึ้น ความเครียด มลภาวะ และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนส่งผลให้ผิวหน้าดูโทรมและแก่กว่าวัย วันนี้เรามีวิธีทำให้หน้าเด็กลงมาฝากกัน ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์ ที่ช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าเปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างปลอดภัยและไม่ต้องเสี่ยงดวง
วิธีทำให้หน้าเด็กลงแบบธรรมชาติ
ก่อนจะไปถึงวิธีทางการแพทย์ เรามาเริ่มต้นด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านกันก่อน วิธีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยขับสารพิษและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและการผลิตคอลลาเจน
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- ใช้ครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย
- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายผิว เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และนอนดึก
วิธีทำให้หน้าเด็กลงทางการแพทย์
สำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนมากขึ้น วิธีทางการแพทย์เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยมีหลากหลายวิธีที่ช่วยให้หน้าเด็กลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. เติมไขมันหน้าเด็ก
การเติมไขมันหน้าเด็ก หรือ Fat Grafting Face เป็นวิธีที่ใช้ไขมันของตัวเองมาเติมเต็มบริเวณที่มีร่องลึกหรือหย่อนคล้อย ข้อดีคือใช้ไขมันจากร่างกายของเราเอง จึงไม่เกิดการแพ้หรือปฏิเสธ และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ วิธีนี้ไม่เพียงแค่เติมเต็ม แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่งขึ้น ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 3-10 ปี
2. ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบและลดเลือนริ้วรอย สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ริมฝีปาก และคาง ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ทำจากกรดไฮยาลูรอนิก ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย จึงปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์มักอยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด
3. ฉีดสารกลุ่ม Biostimulator กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Biostimulator เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังของเราเอง ทำให้ผิวแน่นกระชับ มีความยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น ข้อดีของวิธีนี้คือให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและค่อยๆ ดีขึ้นตามเวลา โดยสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้สูงถึง 66.5% ภายใน 3 เดือนหลังฉีด และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 25 เดือน
4. ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera
Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงในการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ โดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้จะส่งคลื่นความร้อนไปยังชั้นผิวลึก ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์คือผิวหน้าที่ยกกระชับ ตึงกระชับ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำได้ทั่วใบหน้า รวมถึงคิ้ว หนังตา แก้ม คาง และลำคอ
5. ยกกระชับเหนียงและลำคอด้วย J PLASMA
J PLASMA เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการยกกระชับผิว โดยใช้พลังงานจากพลาสมาฮีเลียมและคลื่นความถี่วิทยุ ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณเหนียงและลำคอ วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อหรือเส้นประสาทข้างเคียง แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 4-5 มิลลิเมตร ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว
สรุปบทความ
การทำให้หน้าเด็กลงมีหลากหลายวิธี ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์ สำหรับวิธีธรรมชาติ เน้นการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลผิวประจำวัน ส่วนวิธีทางการแพทย์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนกว่า แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด สิ่งสำคัญคือการเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย