เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นายแพทย์ฆนัท ครุธกูล กรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง และแพทย์ประจำศูนย์หัวใจ หลอดเลือดและเมแทบอลิซึม โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ ผู้ที่กินควรเลือกอาหารเจอย่างเหมาะสม เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักกินอาหารเจที่ให้พลังงานสูงประเภทเมนูอาหารผัด ทอด หรือเมนูที่มีการใช้น้ำมันปริมาณมาก นำไปสู่ภาวะการเกิดโรคอ้วนและมีปัญหาด้านสุขภาพ

นายแพทย์ฆนัท กล่าวว่า อาหารเจที่ควรหลีกเลี่ยง 5 อันดับ ได้แก่ 1. ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วเจ ให้พลังงานถึง 568 กิโลแคลอรี 2.3 ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยเจให้พลังงาน 480 กิโลแคลอรี 3. ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเจให้พลังงาน 415 กิโลแคลอรี 4. ข้าวผัดเจให้พลังงาน 397 กิโลแคลอรี ก๋วยเตี๋ยวเจน้ำใส 1 ชาม ให้พลังงานถึง 349 กิโลแคลอรี หากไม่เลี่ยงอาหารประเภทนี้อาจส่งผลให้เทศกาลถือศีลกินเจนี้กลายเป็นการเพิ่มน้ำหนักหรือเพิ่มความอ้วนได้ 1-2 กิโลกรัม ใน 1 สัปดาห์

“ดังนั้น ใครที่กังวลเรื่องสุขภาพและน้ำหนักควรเลือกและคำนวณปริมาณอาหารที่เรากินเข้าไปอย่างพอดี และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมน้ำหนัก และทำให้สุขภาพแข็งแรงได้ ทั้งนี้มีเมนูอาหารเจแคลอรีต่ำ 10 อันดับ มาแนะนำ คือ 1. ส้มตำเจ ให้พลังงาน 55 กิโลแคลอรี 2. ต้มยำเห็ดเจ ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี 3. แกงส้มมะละกอเจ ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี 4. แกงจืดฟักเจ ให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี 5. แกงเลียงเจ ให้พลังงาน 115 กิโลแคลอรี 6. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเจ ให้พลังงาน 118 กิโลแคลอรี 7. แกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้เจ ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี 8. ยำผักหวาน ให้พลังงาน 128 กิโลแคลอรี 9. ยำวุ้นเส้นเจ ให้พลังงาน 145 กิโลแคลอรี และ 10. ต้มจับฉ่าย ให้พลังงาน 180 กิโลแคลอรี” นายแพทย์ฆนัทกล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 24 ตุลาคม 2560