เกษตรชวนคนเลิกทำนา

ผมอ่านข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เกี่ยวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชวนชาวนาเลิกปลูกข้าวพื้นที่ไม่เหมาะสม ชี้เป็นสาเหตุที่ยังทำให้เกิดความยากจนอยู่ จวกข้าราชการต้นเหตุทำให้ชาวนาไม่กล้าที่จะเปลี่ยน ดังนั้น จึงต้องลงพื้นที่ชี้แจงข้อมูลขู่หากไม่ทำตามสั่งโดนหนักแน่

สั่งข้าราชการทุกกรมลงพื้นที่ ไปแนะนำให้เลิกปลูกข้าว ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกร ชาวนา ไม่ผิด แต่ข้าราชการผิด เพราะไม่บอกว่าถ้าเปลี่ยนแล้วการเพาะปลูกดีอย่างไร ให้เกษตรกรมั่นใจให้ได้ว่าวันนี้ถ้าไม่กลับไปปลูกข้าวกำไรดีกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่จับกลุ่มคุยชวนลองดูสักปี เจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ ทุกจังหวัด มาช่วยเกษตรกร ถ้าไม่ช่วยโดนเล่นงานหนักแน่ๆ ถ้ายังปลูกข้าวอยู่ไม่เลิกจนแน่

ผมอ่านแล้วตกใจ กระทรวงเกษตรฯย้อนกลับไปมองตัวเองหรือไม่ ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนสร้าง อดีตที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯมีไม่กี่กรม ทำงานแบบบ้าล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง Single commander การสั่งการ การตัดสินใจไปในแนวทางเดียวกัน หลังจากมีการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการใหม่ ยุบกรมการข้าว แตกออกเป็น กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตร แบ่งงานจากกรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตร มาตั้งใหม่เพิ่มอีก 2 กรม คือ กรมข้าว และกรมหม่อนไหม

ผมอยากจะพูดว่า อดีตที่ผ่านมางานด้านการเกษตรพี่น้องเกษตรกรมีความเชื่อมั่นและศรัทธาการทำงานของเจ้าหน้าที่เกษตรเป็นอย่างมาก แนะนำ ส่งเสริมอย่างไร พี่น้องเกษตรกรจะคล้อยตามด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นในความรู้ของเจ้าหน้าที่ และแนวนโยบายแห่งรัฐ มีการวางแผนล่วงหน้าทั้งด้านการผลิตที่สอดคล้องกับการตลาด จนประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสินค้าเกษตรติดลำดับต้นๆ ของโลก

ปัจจุบัน การทำงานที่ไม่สอดคล้องของหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯเอง แต่ละกรมทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่เอื้อการทำงานกับกรมอื่นที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงพาณิชย์ที่รับผิดชอบเรื่องการตลาด ก็ไม่ทำงานให้สอดคล้องกับกระทรวงเกษตรฯ

กล่าวคือ

– กรมวิชาการมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องงานวิจัยด้านการเกษตร มีงานวิจัยมากมาย แต่ไม่ส่งให้กรมส่งเสริมการเกษตรที่มีหน้าที่ในการส่งเสริม ว่าควรปลูกพืชใด ในพื้นที่ใด

– กรมพัฒนาที่ดินที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของดินแต่ละพื้นที่ว่าเหมาะสมกับปลูกพืชใด ก็ไม่ส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปส่งเสริม

กรมส่งเสริมการเกษตร มีหน้าที่ในการส่งเสริม ก็ไม่ไขว่คว้าหาข้อมูลมาสนับสนุนในการส่งเสริมให้กับเกษตรกร

เรื่องการตลาด กระทรวงเองไม่เคยเอาตลาดมานำเพื่อวางแผนการผลิต แล้วก็ต้องมาแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาดอยู่ร่ำไป

กระทรวงการต่างประเทศ มีเอกอัครราชทูต และรวมเอาสำนักงานที่ปรึกษาด้านการเกษตร การพาณิชย์ ไปอยู่ภายใต้สถานทูต แล้วทำอะไรกันบ้าง เคยบอกไหมว่าประเทศที่ตนเองไปอยู่เขาต้องการอะไรบ้าง ยังขาดอะไรบ้าง เราควรไปทำอะไรบ้างที่เป็นการค้า

รัฐจะเอาเงินนับหมื่นล้านไปแก้ปัญหา แจกไร่ละ 1,000 บาท งดปลูกข้าวนาปรัง ท่านเอาเงินไปสร้างระบบน้ำให้เกษตรกรดีกว่า ต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน แต่ละปีรัฐต้องจ่ายเงินชดเชยเรื่องปัญหาภัยต่างๆ ปัญหาผลผลิตทางการเกษตร 6-8 หมื่นล้านบาททุกปี ทำไมไม่เอาเงินจำนวนนี้มาแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

หรือมันมีอะไรอยู่ในเม็ดเงินจำนวนนั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก ไพโรจน์ ลิ้มจำรูญ