| เผยแพร่ |
|---|
จังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช นับว่าเป็นหนึ่งในเมืองเอกของไทย ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 300 ปี และเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้มีความหลากหลายทางศิลปะและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะ คือมีภาษาโคราชเป็นของตนเอง มีเพลงโคราชเป็นเพลงพื้นเมือง และที่สำคัญ คือมีท้าวสุรนารี หรือย่าโม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวโคราชทุกคน ทำให้ปัจจุบันนี้ จังหวัดนครราชสีมา สามารถรวมกันเป็นปึกแผ่นถึง 32 อำเภอ ชาวโคราชเกือบ 3 ล้านคน ไม่อยากที่จะแยกตัวไปตั้งเป็นจังหวัดอื่น เพราะถือว่าคนโคราชเป็นลูกหลานของย่าโมทุกคน
สำหรับ ท้าวสุรนารี เดิมชื่อ โม หรือ โม้ เป็นบุคคลประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้กอบกู้เมืองนครราชสีมา จากกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ แห่งเวียงจันทน์ เมื่อปี 2369 โดย คุณหญิงโม เกิดเมื่อปี 2315 ในแผ่นดินพระเจ้าตากสิน กรุงธนบุรี เข้าพิธีสมรสกับเจ้าพระยามหิศราธิบดี (ทองคำ) ที่ปรึกษาราชการเมืองนครราชสีมา โดยคุณหญิงโมไม่มีบุตรสืบตระกูล และถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปี 2395 รวมอายุได้ 81 ปี
วีรกรรมของคุณหญิงโมนั้น คนไทยรุ่นหลังทราบดีว่า ท่านได้เป็นหัวหน้ารวบรวมครอบครัวชายหญิงชาวนครราชสีมา ที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ที่ทุ่งสำริด แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2369 ช่วยให้ไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด วีรกรรมของคุณหญิงโม เมื่อทราบไปถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาท่านขึ้นเป็น ท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2370
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ด้วยความกล้าหาญของท้าวสุรนารี ที่ท่านได้กอบกู้เมืองโคราชให้กลายเป็นปึกแผ่นจนถึงวันนี้ และในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 190 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาท่านขึ้นเป็นท้าวสุรนารี ทางจังหวัดนครราชสีมาจึงได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง พร้อมใจกันจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2560 ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่องานว่า “กินเข่าค่ำ รำบูชา สักการะท้าวสุรนารี”
นายปรีชา มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด กล่าวว่า ภายในงานจะมีกิจกรรมรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน หรือที่ชาวโคราชเรียกว่า กินเข่าค่ำ ในช่วงเวลา 18.00-22.00 น. ซึ่งจะมีการจัดขันโตก ที่มีอาหารพื้นเมืองของคนโคราชมากมาย ให้ผู้ร่วมงานได้จองที่นั่งรับประทานร่วมกัน พร้อมกันนี้ก็จะมีการแสดงนาฏศิลป์อันอ่อนช้อยสวยงาม ร่วมชมเรื่องเล่าแบบ 4D ตำนานเมืองโคราชจากอดีต-ปัจจุบัน ประกอบแสงสีเสียงแบบจัดเต็มโดยออร์แกไนเซอร์ชั้นนำของประเทศ ไล่เลียงตั้งแต่รากเหง้าเมืองโคราชแต่โบราณ 4,500 ปี จนมาสมัยขอมเรืองอำนาจ การก่อร่างสร้างเมืองโคราช โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และวีรกรรมคุณย่าโม ซึ่งจะมีให้ชมตลอดทั้ง 2 คืน โดยกิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในช่วงฤดูหนาวนี้ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา สามารถเดินทางไปเที่ยวต่อยังเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว และ อำเภอพิมาย ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวคึกคักได้เป็นอย่างมาก
ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน
