วาเลนไทน์ปีนี้คึกคัก อ.ส.ค. เนรมิตฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค จัดวิวาห์สุดเท่จดทะเบียนบนหลังม้า

นายณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีนโยบายในการยกระดับฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำคัญของ จ.สระบุรี เนื่องจาก อ.ส.ค. มีอาณาจักรฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค กว้างขวางถึง 2,700 ไร่ ซึ่งมีทัศนียภาพทุ่งหญ้าที่สวยงาม ประกอบกับมีฟาร์มโคนมขนาดใหญ่มีโคนมจำนวนกว่า 400 ตัว ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้

ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.ส.ค. ให้การสนับสนุน จ.สระบุรี และสมาคมการท่องเที่ยวจ.สระบุรี ในการใช้พื้นที่อาณาจักรฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค จัดงานกิจกรรม “14 กุมภาพันธ์ สัญญารัก วิวาห์คาวบอย” ประจำปี 2561 เพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึง โดยภายในงานคู่บ่าว-สาว จะแต่งกายชุดคาวบอย-คาวเกิร์ล แสดงอัตลักษณ์ของเมืองคาวบอยซึ่งมีขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.นี้

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว อ.ส.ค. จะสนับสนุนให้จ.สระบุรี ใช้โลเคชั่นที่งดงามไปด้วยทุ่งหญ้าที่มีอาณาจักรกว้างขวางกว่า 2.7 พันไร่ของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ในการจัดงานเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดซึ่งมีฟาร์มของ อ.ส.ค. อยู่ในแผนดังกล่าวด้วย โดยธีม การจัดงานให้เป็นรูปแบบคาวบอยที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต สภาพภูมิประเทศ

โดยไฮไลต์กิจกรรมในงาน ได้แก่ กิจกรรม “การจดทะเบียนสมรสบนหลังม้า” ซึ่งคู่บ่าว-สาวสวมชุดแต่งงาน ด้วยธีมคาวบอย คาวเกิร์ล และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมงานเลี้ยงฉลองให้กับ คู่บ่าว-สาว ในสไตล์คาวบอย ซึ่งได้นำอาหารเด่น และมีชื่อเสียง ของ จ.สระบุรี อาทิ นมคุณภาพดี จากฟาร์ม อ.ส.ค. สเต็กเนื้อนุ่ม บาร์บีคิว หมูหัน ฯลฯ พร้อมชมการแสดงคาวบอย และดนตรีสไตล์คันทรี นอกจากนี้ ได้จัดที่พักท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา ให้แก่คู่บ่าว-สาว 1 คืน สำหรับ การจัดงาน “14 กุมภา สัญญารัก วิวาห์คาวบอย ในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 2

ตลอด 55 ปีที่ผ่านมา อ.ส.ค. ได้ผลักดันให้ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค เป็นฟาร์มตัวอย่างและศูนย์กลางการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมในประเทศ ปัจจุบัน อ.ส.ค. ยังเปิดให้ฟาร์มแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส และชื่นชมความงามของธรรมชาติพร้อมเรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรตั้งแต่การ ทดลองรีดนมโค, การป้อนนมลูกโค การทำปุ๋ยอินทรีย์จากนม

และยังได้สัมผัสบรรยากาศคาวบอยที่มีฝูงโคนมใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ มีกิจกรรมสำหรับผู้รักการผจญภัย เช่น การขับรถเอทีวี, ขี่จักรยานเสือภูเขาหลากกิจกรรมเหล่านี้ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ในอัตราค่าบริการที่ถูกและคุ้มค่าล่าสุดยังได้จัดกิจกรรม“ดื่มนมชมฟาร์ม ตามรอยเท้าพ่อ” โดยเปิดให้ประชาชนเที่ยวฟาร์มในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ทางรถไฟในราคาเพียง 249 บาท/ท่าน (เป็นราคาที่ไม่ได้รวมค่าตั๋วรถไฟ) โดยนักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถชมวิวทิวทัศน์ สูดอากาศบริสุทธิ์ และพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งได้เรียนรู้ในเรื่อง“โคนมอาชีพพระราชทาน” จากในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วย

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์