บ้านสวนซะป๊ะพะเยา ปลูกผักสลัดอินทรีย์ แบบ Smart Farm

ผักสลัด เป็นกลุ่มผักที่เน้นทานสด หรือนำไปปรุงร่วมกับส่วนประกอบอื่นทำเป็นเมนูอาหารได้หลายชนิด จุดเด่นของผักสลัดไม่เพียงความอร่อยและกรอบ แต่ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ จึงได้รับความนิยมจากบรรดาสายสุขภาพกันมาก แต่ผักสลัดที่ดีและมีคุณภาพควรมาจากแหล่งปลูกที่ไว้ใจและตรวจสอบได้ จึงจะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

แบรนด์ผัดสลัดอินทรีย์ที่หาซื้อได้ตามร้านสุขภาพหลายแห่ง

“บ้านสวนซะป๊ะพะเยา เป็นแหล่งผลิตผักสลัดคุณภาพแนวอินทรีย์ ในรูปแบบ Smart Farm ได้รับมาตรฐานการปลูกผักอินทรีย์ ทั้งยังร่วมกับสถาบันการศึกษาวิเคราะห์ดิน ปุ๋ย และน้ำ รวมถึงธาตุอาหารสำคัญผลิตผักสลัดได้สด ใหม่ มีความปลอดภัยเป็นของแถม สร้างความเชื่อถือและเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า

ตัดผักสด ใหม่ ให้ลูกค้าแต่เช้าค่ะ

 

‘บ้านสวนซะป๊ะพะเยา’ จัดระบบและวางแผนการทำเกษตรกรรมด้วยการยึดหลักโมเดล โคก หนอง นา ด้วยการทำนาข้าวไว้ใช้ครอบครัว เลี้ยงวัว เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ปลูกไม้ป่าเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นต้นสัก ยางนา พะยูง ตะเคียน แล้วที่โดดเด่นสร้างรายได้ให้กับสวนแห่งนี้คือ การปลูกผักสลัดอินทรีย์จำหน่าย

คุณชวฤทธิ์ งามจิตร์ หรือ คุณแจ็ค เจ้าของ ‘บ้านสวนซะป๊ะพะเยา’ อดีตช่างซ่อมบำรุงบริษัทเอกชนในนิคมอุตสาหกรรมที่ระยอง มีความฝันอยากมีอิสระทางความคิด จึงเปลี่ยนเส้นทางชีวิต จากพนักงานเงินเดือนเพื่อเสาะหาอาชีพอื่น กระทั่งมาจบที่สวนเกษตรในที่สุด ส่วนเหตุผลที่มาปลูกผักเพราะตัวเองชื่นชอบ แล้วมองว่าผักที่ทานควรทำให้ปลอดภัย จึงหาความรู้เรื่องการปลูกผักปลอดภัยแบบอินทรีย์จากแหล่งความรู้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำปุ๋ย สร้างคุณภาพดิน

หน่วยงานเข้าเยี่ยมเพื่อขอข้อมูลทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ

หลังจากนั้นทดลองปลูกผักสวนครัวหลายชนิดตามกรรมวิธีที่เรียนมาด้วยการทำปุ๋ยหมักเอง สร้างคุณภาพผักได้ผลดี อย่างไรก็ตาม ผักเหล่านี้หากทำขายอาจไม่คุ้มทุน แต่เมื่อมองไปทางตลาดกลุ่มผู้ทานผัดสดพบว่า ผักสลัดได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หากปลูกแบบอินทรีย์ที่สมบูรณ์แบบน่าจะขายทำกำไรได้ดี อีกทั้งในพื้นที่มีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้อและเหมาะสมต่อการปลูกผักสลัดได้อย่างมีคุณภาพ

สวนซะป๊ะ ใช้พื้นที่ปลูกผักสลัดอินทรีย์ จำนวน 2 งาน มีชนิดผัก 9-13 อย่าง เช่น เบบี้คอส กรีนคอส บัตเตอร์เฮด ฟินเล่ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คะน้าเคล และอย่างอื่นอีกหลายชนิด คุณแจ็ค เล่าว่า ตอนแรกปลูกกลางแจ้งแบบยกร่อง ลงมือปรับปรุงสภาพดินอย่างเต็มรูปแบบทั้งปุ๋ยหมัก น้ำหมัก จนได้ผักที่มีคุณภาพ มีลูกค้าสนใจ แต่พอเจอปัญหาภัยธรรมชาติฝนตก ลมแรง ทำให้ผักเสียหาย

เตรียมส่งผักให้ลูกค้าตามออเดอร์ทุกวัน

 

แปลงปลูกกลางแจ้ง

จึงเปลี่ยนมาปลูกในโรงเรือนไม้ไผ่คลุมพลาสติก ขนาด 3 คูณ 10 เมตร จำนวน 4 หลัง ช่วยได้มาก แต่มีข้อเสียตรงอายุใช้งานสั้น เพราะโดนมอดกิน ในที่สุดต้องเปลี่ยนมาเป็นโรงเรือนแบบมาตรฐาน ขนาด 5 คูณ 20 เมตร จำนวน 5 หลัง ส่วนแปลงปลูกกลางแจ้งยังใช้ปลูกอยู่เพื่อสำหรับขยายพื้นที่เมื่อยอดสั่งซื้อเข้ามามากในช่วงที่ผลิตไม่ทัน ขณะเดียวกันยังบริหารการปลูกด้วยการสลับพัก ไม่ปลูกซ้ำแปลงเดิม แต่จะพักแปลงชั่วคราวไว้เป็นเวลา 3-5 วัน พร้อมบำรุงดินก่อนจะปลูกรอบต่อไป

เป็นศูนย์การเรียนรู้การจัดการดินปลูกพืชอินทรีย์

เมล็ดพันธุ์ซื้อมาจากแหล่งที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ คุณแจ็คชี้ว่า เรื่องเมล็ดพันธุ์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกต่อคุณภาพผลผลิต เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้ได้ผลผลิตสมบูรณ์ไม่ผิดเพี้ยน

 

คุณชวฤทธิ์ งามจิตร์ หรือ คุณแจ็ค เจ้าของ ‘บ้านสวนซะป๊ะพะเยา’

คุณแจ็ค ให้รายละเอียดแนวทางการปลูกผักอินทรีย์ว่า ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจเรื่องของผักแต่ละชนิดที่ต้องการปลูกก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธาตุอาหาร น้ำ และอากาศ ส่วนดินที่ใช้ปลูกไม่ว่าจะมีสภาพแบบใดก็ตามควรปรับสภาพดินให้เหมาะสมก่อน ด้วยการเติมอินทรียวัตถุลงไปในดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกลบเก่า จะมีประโยชน์มากเพราะช่วยยึดโครงสร้างดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ดินมีช่องว่างสามารถถ่ายเทอากาศได้สะดวก ทำให้รากพืชหาอาหารได้ดี รวดเร็ว มีคุณสมบัติคงสภาพดินถึง 3 เดือน ได้นานกว่าใบไม้

แปลงเตรียมต้นกล้า

 

ระบบรดน้ำ และเติมปุ๋ยอัตโนมัติ

ส่วนธาตุอาหารเกิดจากการทำปุ๋ยหมักเอง ใช้รองก้นหลุม หรือหว่านในแปลงปลูก ใช้แกลบเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะแกลบมีฟอสฟอรัส ส่วนแกลบดำมีโพแทสเซียม แล้วยังมีรำละเอียดด้วย นอกจากนั้นยังทำน้ำหมัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหมักปลา น้ำหมักผลไม้ น้ำหมักหน่อกล้วย และยังเสริมด้วยกลุ่มฮอร์โมนช่วยให้มีรสหวาน ขั้วเหนียว และใบกรอบ

“บ้านสวนซะป๊ะพะเยา” มีอายุเกือบ 3 ปี จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้มีรายได้จากการขายผักดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากคุณภาพผักที่มีความอร่อย ปลอดภัย เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของลูกค้า คุณภาพผักเหล่านี้เกิดจากการควบคุมการผลิตอย่างใกล้ชิดและใส่ใจทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเรื่องการจัดหาเมล็ดพันธุ์ การพัฒนาปรับปรุงดิน การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในหลายรูปแบบ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพน้ำ รวมถึงการจัดระบบวางแผนการปลูกให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด จึงทำให้ปริมาณผลผลิตและความต้องการมีความสมดุล ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายที่กำหนดไว้ 120 บาท ต่อกิโลกรัม ตลอดทั้งปี สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผักมีคุณภาพ มีความกรอบแบบติดหวานเล็กน้อย ไม่มีรสขม พร้อมกับยังกล้าการันตี หากทานผักที่สวนแล้วมีรสขมยินดีคืนเงิน จึงทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจสั่งซื้อผักอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทั้งลูกค้ารายเก่าและใหม่” เจ้าของสวนผักสลัดอินทรีย์กล่าว

ผักสลัดที่ปลูกในโรงเรือน

“บ้านสวนซะป๊ะพะเยา” ตั้งอยู่เลขที่ 125 หมู่ที่ 10 ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โทรศัพท์ 090-964-3008  หรือติดตามทางเพจ fecbook : บ้านสวนชะป๊ะพะเยา และ Line 0909643008