กำนันทรง องค์ชัยวัฒนะ อดีตเจ้าของท่าข้าวเปลือก นครสวรรค์ บทพิสูจน์ผลงาน ระหว่างเอกชนกับรัฐบาล

ตำนานค้าข้าวเปลือกที่มีมาช้านานของพ่อค้าตามชนบทที่มาตกข้าว (ตกเขียว) กับชาวนา ตามแหล่งที่มีมาตามท้องทุ่งจนเป็นขาประจำกัน ระหว่างชาวนากับพ่อค้าที่คุ้นเคย จนเกิดมีโรงสีข้าวผุดขึ้นมาราวดอกเห็ดในปัจจุบัน

จนกระทั่งกว่า 5 ทศวรรษได้ผุดท่าข้าวขึ้นมาที่ริมน้ำเจ้าพระยา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีการรับซื้อข้าวเปลือก ระหว่างชาวนากับพ่อค้าที่มาจากที่อื่น โดยให้ท่าข้าวเป็นคนกลางในการซื้อขาย และตกลงราคากันระหว่างชาวนากับพ่อค้าข้าวเปลือก

กำนันทรง องค์ชัยวัฒนะ อดีตเจ้าของท่าข้าวเปลือกใหญ่สุด ที่นครสวรรค์

เมื่อเป็นที่พอใจทุกฝ่ายแล้ว ท่าข้าวก็จะเป็นพยานในการตกลงราคาตามคุณภาพของข้าวเปลือก ซึ่งสมัยก่อนต้องขนข้าวลงเรือ เพราะการคมนาคมทางน้ำสะดวกกว่าทางรถยนต์ในสมัยก่อน เจ้าของท่าจะนำข้าวเปลือกที่ซื้อขายแล้วเอาไปเก็บไว้ที่ยุ้งฉาง

1 ใน 2 ของท่าข้าวที่อำเภอพยุหะคีรี มีชื่อท่าข้าวกำนันทรง ที่เป็นตลาดท่าข้าวอยู่ด้วย ที่จะกล่าวถึงต่อไป

เด่นตระหง่าน ที่นครสวรรค์

พ่อค้าที่ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ต้องจ่ายค่าเช่ายุ้งฉางของเจ้าของท่าข้าว ในกรณียังไม่พร้อมการขนส่งข้าวในทันที หากข้าวเปลือกมีความชื้นสูง เจ้าของคนใหม่ก็จะจ้างเจ้าของท่านำมาตากแดดลดความชื้นลง ในกรณีนี้พ่อค้าต้องออกค่าใช้จ่ายให้เจ้าของท่าอีก เมื่อเก็บเข้าในยุ้งฉางแล้ว และกรณีที่พ่อค้าข้าวนำเงินมาซื้อข้าวยังไม่เพียงพอก็จะให้เจ้าของท่าข้าวจ่ายส่วนที่ยังขาดอยู่ เพื่อเอื้ออารีย์ต่อกันในธุรกิจค้าข้าวเปลือกที่ล้วนเป็นพ่อค้าหน้าเดิมๆ คุ้นเคยกันมา โดยสนนราคาค่าดอกเบี้ยไม่แพงในยามขาดปัจจัยในแต่ละครั้ง

ข้าวเปลือกที่ชาวนามาขายให้พ่อค้าซื้อข้าวเปลือก ตกลงราคาแล้วพ่อค้าจะฝากไว้ที่ท่าข้าวเพื่อให้ท่าข้าวดูแลและตากข้าวเพื่อจะมารับไปวันหลัง

ต่อมา กำนันทรง องค์ชัยวัฒนะ เห็นว่า สภาพคมนาคมถนนสายเอเชียได้ก่อสร้างมาและสะดวกดี จึงย้ายมาอยู่ในเขตปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีที่ทำเลติดแม่น้ำและถนนสายเอเชีย เป็นการขนส่งทางบกก็ได้ ทางน้ำก็ดี อำนวยความสะดวกแก่การซื้อขายข้าวเปลือกกันทั้งสองฝ่าย และกิจการก็เจริญก้าวหน้า มีตลาดท่าข้าวเกิดขึ้นทุกหัวระแหง แข่งขันเพื่อเดินตามท่าข้าวกำนันทรงกันมากขึ้น

เป็นที่น่าภาคภูมิใจที่เอกชนทำท่าข้าวเปลือกเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะท่าข้าวกำนันทรง มีชื่อเสียงในการทำธุรกิจ จนทางราชการต้องเอาราคาข้าวเปลือกมาใช้เป็นราคากลางข้าวเปลือกจากท่าข้าวเปลือกของกำนันทรงทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ในสมัยเมื่อ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ต้องใช้ราคาข้าวเปลือกที่กระทรวงพาณิชย์รับรองว่างั้นเถอะ

ต้อนรับ อดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ชินวัตร ที่มาเยี่ยมท่าข้าว ที่ผ่านมา (ปี 2543) นครสวรรค์

ไม่แปลกใจที่นายกรัฐมนตรีที่ให้ความสนใจท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นแรงจูงใจที่นายกรัฐมนตรีไทยไปเยี่ยมกิจการท่าข้าวกำนันทรง โดยมีบุตรสาวคนโตของกำนันทรง ที่ชื่อ คุณวาสนา อิสรานุรักษ์ เป็นผู้จัดการดูแลที่ท่าข้าวกำนันทรง

ต้องขอเอ่ยชื่อนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ อดีตนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ คุณบรรหาร ศิลปอาชา คุณชวน หลีกภัย และ คุณทักษิณ ชินวัตร ที่มาเยี่ยมก่อนจะเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยปี 2543

ร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อนสมาชิกวุฒิสภา ปี 2538-2543

ความผันผวนของตลาดท่าข้าวที่เป็นธุรกิจขยายไปอย่างกว้างขวางต้องหยุดชะงักลง เมื่อรัฐบาลมีนโยบายในการจำนำข้าว หรือประกันราคาข้าวเปลือก นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

ขอย้อนประวัติ กำนันทรง องค์ชัยวัฒนะ หรือเรียกว่าเป็น “คุณูปการ” แก่ชาวนาก็ว่าได้ กำนันทรง เป็นชาวจังหวัดพิจิตร เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เขาเข้าไปหาพ่อ หรือบิดาบังเกิดเกล้า ที่มีเชื้อสายชาวจีน มารดาเป็นคนไทย เพื่อจะขอลาออกจากบ้านไปเร่ร่อนหางานทำ แล้วทิ้งท้ายไว้ให้ผู้เป็นบิดา ว่า

“ถ้าผมไม่รวยจะไม่ขอกลับมาที่บ้านอย่างเด็ดขาด” ลูกผู้ชายอย่างกำนันทรง ผู้ตงฉิน พูดแล้วไม่คืนคำ

กำนันทรง (ซ้ายสุด) ร่วมคณะกับสมาชิกวุฒิสภา ออกไปเยี่ยมราษฎรยังต่างจังหวัด

อะไรคือต้นเหตุที่กำนันทรงต้องออกจากบ้านไปตั้งแต่ยังเล็ก เหตุเพราะคุณพ่อเป็นคนดุ โมโหร้าย และตัวเองชอบถกเถียงบ่อยด้วย จึงต้องมีปากเสียงกันบ่อยๆ

ผลที่สุดต้องตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพื่อไปแสวงโชคเมื่ออายุ 15-16 ปี

ในที่สุดเขาก็เข้ามารับจ้างทำงานที่ย่านสถานีรถไฟบ้านเนินมะกอก ปากน้ำโพ ด้วยความขยัน มุ่งมั่น เป็นที่ไว้วางใจนายจ้าง จนกระทั่งได้ครอบครัวที่เป็นคนกว้างขวางระดับกำนันที่ดูแลในท้องถิ่น ที่ทุกคนให้ความรักใคร่ ความขยัน อดทนของกำนันทรง ที่มีอุปนิสัยชอบช่วยเหลือคนจึงเป็นขวัญใจชาวเนินมะกอกตลอดมา และได้สืบสานเป็นกำนันสืบแทนพ่อตามาจนได้กำนันแหนบทองคำจากกระทรวงมหาดไทย

ชาวนารอฤดูเก็บเกี่ยวข้าวให้ได้ผลดีเพื่อนำไปขายที่ท่าข้าว

ความดีของกำนันทรงนั้นนับตั้งแต่เป็นกำนันมา ได้รับปริญญาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไว้เป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลองค์ชัยวัฒนะ

ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา 3 สมัย ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ พลเอก สุจินดา คราประยูร และ คุณบรรหาร ศิลปอาชา ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2538-2543

การหยุดกิจการของท่าข้าวกำนันทรง ที่เป็นธุรกิจมาช้านาน หลังปี 2544 เป็นต้นมา ทำให้ธุรกิจค้าข้าวเปลือกที่เป็นท่าข้าวต้องหยุดชะงัก เมื่อรัฐบาลออกนโยบายจำนำข้าว หรือประกันราคาข้าวก็ดี ชาวนาได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด เพราะปัญหามันเกิดขึ้นมาจากผู้เกี่ยวข้องกับนโยบายที่เป็นฟันเฟืองตัวจักรกล ถ้าหากขาดประสบการณ์ หรือความไม่โปร่งใสขึ้นมาเมื่อไร ผลก็จะตกอยู่กับประเทศชาติและชาวนาไทย

นโยบายนับว่าเป็นเรื่องดีต้องควบคู่กับงบประมาณมิใช่น้อย รัฐบาลอาจไม่ทันเกม เกษตรกรบางรายที่มีการประกันราคาข้าวเปลือก ชาวนาแจ้งพื้นที่มากไปเพื่อหวังเงินประกันสูงขึ้น ข้าราชการอาจจะไม่ทันชาวบ้านที่มีเล่ห์เหลี่ยมตามพื้นที่ที่มีการรับประกันข้าว หรือโครงการรับจำนำข้าว ด้วยงบประมาณมหาศาล ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณอาจจะไม่โปร่งใส มีการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ เหตุเพราะขาดประสบการณ์หรือแรงจูงใจ เม็ดเงินก้อนใหญ่ที่ต้องมาพัวพันจนเกิดปัญหา ตามที่มีข่าวออกมาเท็จจริงประการใดอยู่ที่ศาลจะพิจารณาว่ามาจากมวลเหตุใด

ต้องยอมรับนโยบายแต่ละรัฐบาลที่แถลงออกมาล้วนมีผลดีต่อชาติบ้านเมืองเพื่อนำสู่ความเจริญแก่ประชาชนได้รับการช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ อย่างในกรณีชาวนาไทยที่ตกระกำลำบาก

ทำอย่างไรถึงจะทำให้เม็ดเงินของรัฐบาลได้อุ้มชูเกษตรกรไทยได้ถึงตัวเต็มเม็ดเต็มหน่วย มาตรการการควบคุมดูแลของส่วนราชการ และการเอาจริงเอาจังกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อลงโทษคนทำผิดให้เข็ดหลาบ หากพิสูจน์ว่าผิดจริงยอมรับโทษทันที

อดีตที่ผ่านมา การบริหารงานที่เอกชนทำมานั้น อย่าง ท่าข้าวเปลือก ได้ดำเนินงานอย่างราบรื่น การเสนอขายข้าวเปลือกราคาของชาวนาต้องพอใจกับคุณภาพที่เสนอมา เพราะมีการแข่งขันกัน ท่าข้าวกำนันทรง นั้นอุปนิสัยตรงกับอาชีพคือ รักความยุติธรรมและเป็นคนตงฉิน ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ความเป็นคนไม่คดโกง กำนันทรงจึงได้รับความไว้วางใจจากชาวนาที่นำข้าวมาเสนอขายต่อพ่อค้าข้าวที่มีหลายคน กำนันทรงจะรู้จักอุปนิสัยใจคอของพ่อค้าดี เขารู้ว่าชาวนาจะเสียเปรียบก็จะทำหน้าที่แทนทันที เพื่อจะไม่ถูกพ่อค้าใช้เล่ห์มาคดโกง ข้าวเปลือกที่เสนอขายจึงได้รับราคาความยุติธรรมอยู่เสมอมา

ส่วนที่กำนันทรงมีรายได้จากการได้รับค่าเช่ายุ้งฉางที่พ่อค้าฝากไว้ การนำข้าวมาตากแดดเพื่อให้ข้าวมีคุณภาพดี ลดความชื้น ที่พ่อค้าต้องจ่ายมาให้กำนันก็จะนำไปไว้เป็นค่าจ้างลูกน้องที่มาดูแล

หรืออีกกรณีฉุกเฉิน พ่อค้านำเงินมาจ่ายค่าข้าวไม่เพียงพอ กำนันทรงก็จะออกเงินให้ก่อน โดยวิธีการเสียดอกเบี้ยน้อยเป็นที่พอใจแก่พ่อค้าและชาวนาที่จะได้รับเงินสดไปทันที เมื่อตกลงราคาข้าวกันแล้ว

เวลาผ่านไปที่ตลาดท่าข้าวต้องหยุดกิจการไปเพราะรัฐบาลเอาไปทำเสียเอง ธุรกิจท่าข้าวที่เคยเป็นคุณูปการแก่ชาวนาที่ต้องการความสะดวกในการขายข้าวเปลือกอย่างรวดเร็ว ใครทำข้าวเปลือกมีคุณภาพดี พ่อค้าต้องมารีบเสนอราคาอย่างรวดเร็ว และแข่งขันกัน ทำให้เกิดการทำนาข้าวได้พัฒนาคุณภาพไปในตัว

เมื่อเทียบกับนโยบายจำนำข้าว หรือประกันราคาข้าวเปลือกของรัฐบาลที่ผ่านมา ผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่า รัฐบาลอาจจะขาดประสบการณ์ หรือเป็นงานใหญ่เกินตัว จนถึงกับดูแลไม่ทั่วถึงอาจจะเกิดการรั่วไหลได้ เพราะเป็นเงินงบประมาณที่มากมายจนเกิดปัญหาความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นได้

นอกจากปัญหานโยบายของรัฐบาลที่ต้องจัดสรรหางบประมาณมาดำเนินการ เป็นที่ครหาถึงระบบการตรวจสอบที่ไม่รัดกุม ทำให้เกิดมีเสียงครหานินทาจากชาวบ้านที่เป็นเจ้าของภาษีไม่กล้าไว้วางใจอีก เกรงว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสจากเจ้าหน้าที่รัฐ

เป็นที่น่าเสียดายงบประมาณที่นำมาใช้กับโครงการช่วยเหลือชาวนาในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ชาวนาได้รับผลประโยชน์และมีฐานะความเป็นอยู่เหมือนชาวนาประเทศที่เจริญแล้ว อย่าง ไต้หวัน ญี่ปุ่น ที่รัฐบาลอุ้มชูชาวนาให้อยู่ดีกินดี ให้ราคาข้าวเปลือกแพง

ในกรณีท่าข้าวเปลือกที่มีไปทั่วไปได้หยุดกิจการมาหลายปี ต้องมาทอดทิ้งเสียหายและขาดทุนไปโดยไม่มีใครมารับผิดชอบได้

ผลพวงท่าข้าวทั้งหลายที่เคยเป็นที่พึ่งพิงแก่ชาวนามาน่าจะนำมาพิจารณากันร่วมมือกับภาครัฐแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ เชื่อว่าเอกชนทำงานได้ดีกว่ากลไกของรัฐที่จ้องจะกอบโกยผลประโยชน์จากรัฐ การคัดเลือกคนเข้าทำงาน ถ้าภาคเอกชนทำงานโดยมีผลประโยชน์ตอบแทนบ้าง เพราะเป็นเจ้าของสถานที่ เจ้าหน้าที่รัฐอาจจะไม่กล้าหรือเกรงใจ อย่าปล่อยให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจมากเกินไป ผลเสียอาจจะตามมาอย่างที่เคยมีมาแล้ว

ชาวนารอต้อนรับสมาชิกวุฒิสภา กำนันทรง ขวัญใจชาวนาไทย

แสดงว่าที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ของภาครัฐบาลแล้วว่า โครงการรับจำนำข้าว หรือประกันราคาข้าวเปลือกที่รัฐบาลรับไปทำเองต่างล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกว่าเอกชนที่เคยค้าท่าข้าวมาปัญหาไม่เกิดขึ้น เอกชนดูแลกันเอง แข่งขันกัน เป็นทางเลือกของชาวนา

บทสรุปผลงานของนโยบายข้าวเปลือก จำเป็นต้องหาทางแก้ไขจากบทเรียนที่ผ่านมา เพื่อที่จะจัดระบบการทำงาน อย่าปล่อยให้รัฐทำฝ่ายเดียว ประชาชนเขาไม่เชื่อถืออีกแล้ว เอางบประมาณมาเผาผลาญเล่น อาจต้องให้เอกชนเข้ามาร่วมงาน เพื่อให้มีทางเลือกและท่าข้าวกับโรงสีคงจะชั่งกันลำบาก จากบทเรียน “ท่าข้าว” ไม่มีบทบาทอะไรเลย

สิ่งที่น่าเป็นห่วงใยบุคลากรที่เคยค้าขายท่าข้าวเปลือกมาช้านาน ได้เปลี่ยนแปลงอาชีพเป็นอย่างอื่นหมดแล้ว คงเหลือแต่ซากท่าข้าวเท่านั้นเป็นอนุสาวรีย์ไว้ดูต่างหน้า

อย่างบุคลากรที่เป็นคุณูปการ อย่างกำนันทรง ก็คงจะสู่เข้าวัยชราภาพ ด้วยวัย 80 ปี กับภรรยา คุณอำนวย ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจากบ้านเนินมะกอก ปากน้ำโพ คงหมดโอกาสจะกลับมาบริหาร คงปล่อยให้ลูกสาวทำงานแทน

สินค้าเกษตรได้หลับสนิททุกประเภทเป็นเวลามา 5 ปีแล้ว คงรอฟ้าใหม่ รัฐบาลใหม่ จะเข้ามาแก้ไขอย่างไร ยากที่จะฟื้นฟูได้ฉับไว อนิจจา…ชาวนาไทย

ในโอกาสที่ได้มาเขียนเรื่องราวของท่าข้าวกำนันทรง เป็นเพราะว่าท่านได้บุกเบิกและเปิดตลาดท่าข้าวมาช้านาน นับว่ากำนันทรงที่ได้สร้างสิ่งที่ดีงามแก่มวลเกษตรกรชาวไทยและส่วนของทางราชการจนกล่าวได้ว่า ท่านได้รับเกียรติประวัติรางวัลในชีวิตมามากมาย สมควรที่ยกย่องเป็นเยี่ยงอย่างของคนรุ่นหลังต่อไป

ด้วยวัย 85-86 ปี แม้จะเยื้องย่างด้วยไม้เท้าคู่ใจ จึงใคร่ขอให้ท่านกำนันทรง จงมีสุขภาพและพลานามัยที่แข็งแรง ในฐานะคุณูปการของท่าข้าวเปลือกต่อชาวนาไทย ที่สร้างผลงานไว้ยากที่ลืมลง