อุดร สินประเสริฐ คนสมุทรสาคร พัฒนาดินปลูกเมล่อน ได้ผลผลิตคุณภาพถึง 3 รุ่น

อุดร สินประเสริฐ อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ที่ 6 ตำบลนาโคก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่ดินเค็มเพราะน้ำทะเลท่วมถึง และระดับน้ำใต้ดินขึ้นมาสูงเกือบถึงหน้าดินตลอดปี เป็นป่าชายเลน นากุ้ง บ่อเลี้ยงปลา และยกร่องปลูกมะพร้าว

เตรียมตัดส่งลูกค้าที่จอง

คุณอุดร ใช้เวลาว่างจากงานประจำที่เป็นช่างไฟฟ้ามาทำสวนเกษตรเป็นรายได้เสริม ไม่ได้ทำเชิงพาณิชย์ ที่น่าสนใจตรงที่ใช้น้ำทะเลปลูกไม้ผล เริ่มจากเมล่อนก่อน แล้วกำลังปลูกมะเขือเทศกินผล ช่วงแรกปลูกเมล่อนแบบแปลงเปิด ปรากฏว่าโดนแมลงโจมตี แล้วแก้ปัญหาด้วยการสร้างโครงท่อ พีวีซี ขึงด้วยมุ้ง แต่มาเจอปัญหาฝนตกอีก ทำให้ผลเมล่อนแตกจนในที่สุดต้องสร้างโรงเรือน มีเพียงโรงเรือนเดียว

ผลติดแบบแฝด ถ้าจะเก็บไว้ต้องให้ต้นสมบูรณ์มาก

ส่วนวิธีปลูก มีทั้งแบบใส่ถุงและลงดิน แต่จะปลูกลงดินมากกว่า เมื่อปลูกเมล่อนในช่วงแรกพบว่า รสหวาน หอม แต่ติดเค็ม ทำให้คุณอุดรสันนิษฐานว่า ความเค็มที่ติดรสเมล่อนมาจากนาเกลือ เพราะพื้นที่ปลูกเมล่อนอยู่ห่างจากนาเกลือราว 500 เมตร ซึ่งก็เกิดขึ้นกับผลไม้ชนิดอื่นที่ชาวบ้านปลูกอยู่ละแวกนี้เช่นกัน แม้ความเค็มจะช่วยเรื่องคุณสมบัติของรสชาติที่ทำให้หวาน แต่ต้นมักจะโทรมเร็ว และอายุไม่ยาว ที่เป็นเช่นนั้นคุณอุดรคาดว่าอาจเป็นเพราะสารอาหารถูกส่งไปที่ลูกมากกว่าต้น เพราะดินที่มีความเข้มข้นจากเกลือมาก

ดอกที่ผสมเกสร

เมื่อจำเป็นต้องนำดินมาปลูกเมล่อน คุณอุดรจึงแก้ปัญหาด้วยการขุดดินเป็นร่อง ปูทับด้วยพลาสติก แล้วปรับปรุงดินใหม่ โดยนำวัสดุปลูก อย่าง แกลบดิบ แกลบดำ ขุยมะพร้าว ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ในอัตราส่วน 1:1:1 แล้วนำไปผสมกับใบก้ามปูอีกประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะใบก้ามปูมีธาตุอาหารที่สมบูรณ์ครบถ้วน เพื่อให้คุณสมบัติของดินมีธาตุอาหารที่หลากหลาย โดยนำดินที่ผสมแล้วลงใส่ในร่องปลูก

กระตุ้นตาดอก โดยให้น้ำเล็กน้อย อย่าขาด เพราะต้องการเร่งราก

เมล่อนที่คุณอุดรปลูก ใช้พันธุ์จันทร์ฉายกับไข่ทองคำ โดยเริ่มจากนำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำอุ่น ที่อุณหภูมิ 45-50 องศา สัก 1-3 ชั่วโมง แล้วนำไปห่อด้วยผ้าฝ้าย ใส่กล่องพลาสติกเก็บไว้ในที่มืด เพื่อบ่มเมล็ด ใช้เวลาประมาณ 1 คืน แล้วย้ายลงแปลงปลูก ให้สังเกตว่าคุณอุดรไม่นำเมล็ดที่บ่มใส่ในถาดเพาะเหมือนรายอื่น แต่จะนำไปปลูกในแปลงเลยเพราะต้องการให้ต้นอ่อนได้สะสมอาหารเต็มที่เพื่อจะได้มีความแข็งแรง
การกำหนดระยะปลูกต้นเมล่อนแบบร่อง ต้องดูแดดเป็นหลัก เนื่องจากแดดมีความสำคัญต่อการสร้างผลให้มีความสมบูรณ์ ถ้าช่วงไหนแดดมากจะใช้ระยะประมาณ 50 เซนติเมตร แต่ถ้าเป็นช่วงที่แดดน้อย จะต้องใช้ระยะปลูก 80-100 เซนติเมตร

เตรียมไว้แขนง 12 ถึง 15 เพราะต้องการไว้ลูกที่ข้อ 12 ถึง 15 เพื่อให้ผลมีขนาดใหญ่

นอกจากนั้น วิธีการปลูกแบบร่องมีพื้นที่มาก มีที่จะเป็นแหล่งอาหารมากมายเอื้อประโยชน์ทำให้ต้นเมล่อนดูดซับสารอาหารและเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ต้นแข็งแรง มีความต้านทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ เป็นข้อดีที่ทำให้ได้ผลผลิตมากกว่า

เตรียมไต่เชือกขึ้นค้าง

วิธีให้น้ำ มีทั้งแบบน้ำหยด สปริงเกอร์ และใช้ฝักบัว ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใส่ปุ๋ยประเภทใด ส่วนน้ำคุณอุดรใช้เป็นน้ำดิบผสมกับน้ำทะเลจากคลองแถวบ้านที่มักมีน้ำทะเลขึ้น-ลง เป็นประจำ เมื่อวัดค่าของน้ำที่นำมาจากคลอง พบว่ามีค่าความเค็มประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นปริมาณที่เหมาะสม จะเริ่มใช้น้ำทะเลผสมน้ำดิบรดเมล่อนตั้งแต่ใบที่ 5 เพราะในช่วงนั้นต้นมีความแข็งแรง แล้วในช่วงเดียวกันนี้ต้องใส่ปุ๋ยหมักปลาเล็กน้อย เพิ่มปุ๋ยสูตร 0-52-34 เพื่อกระตุ้นตาดอก โดยให้น้ำเล็กน้อย อย่าขาด เพราะต้องการเร่งราก
“น้ำหมักปลาทะเล จะเริ่มใส่ตั้งแต่ปลูก โดยใส่อัตรา 1-2 ช้อนแกง ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วใส่ฝักบัวรด รดสัปดาห์ละครั้ง พอได้ใบที่ 5 หยุดรดชั่วคราว แล้วให้พ่น 0-52-34 เพื่อสร้างตาดอก จากนั้นในช่วงไว้แขนง อาจรดน้ำหมักปลาไปด้วย”

ผลตาข่ายมีความสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม น้ำทะเลผสมกับน้ำดิบต้องใส่เกือบทุกครั้ง เพื่อให้ความเค็มสะสมในดินเพียงพอสำหรับดูดไปใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพ และคุณสมบัติน้ำทะเลจะช่วยเปลี่ยนแป้งและไขมันให้เป็นน้ำตาล อีกทั้งยังส่งผลดีต่อ รุ่นที่ 2-3 ด้วย

ส่วนการลิดแขนง คุณอุดร อธิบายว่าใช้วิธีที่ต่างจากรายอื่น โดยเขาคิดว่าจะเอาลูกไว้ข้อไหน ให้ลิดแขนงถึงข้อที่ต้องการไว้ลูก พอติดลูกแล้วค่อยลิดแขนงออก ให้เหลือสัก 8 ใบ ซึ่งวิธีนี้ดูตัวอย่างจากในคลิปของประเทศอิสราเอลที่เพื่อนนำมาให้ดู ซึ่งสามารถเก็บลูกได้ถึง 3 รุ่น ต่อต้น ด้วยสูตร 2:1:2 คือ รุ่น 1 ทำ 2 ลูก รุ่น 2 ทำ 1 ลูก และ รุ่น 3 ทำ 2 ลูก ซึ่งตอนแรกก็ทำ 2 ลูก มาตลอด แล้วทดลองอีก ก็สามารถได้ถึง 3 ลูก โดยยังมีคุณภาพสมบูรณ์ทุกอย่าง เพราะดูแลบำรุงต้นอย่างดี

ใบมีขนาดใหญ่ สมบูรณ์มีส่วนช่วยสร้างคุณภาพผล

การไว้ลูก ปกติทั่วไปจะไว้ที่ ข้อ 9-12 แล้วมักไว้ลูกเดียวต่อต้น แต่สำหรับคุณอุดรจะไว้ลูก ที่ข้อ 11-13 เพื่อจะได้เก็บไว้ 2 ลูก ต่อต้น แล้วเก็บไว้เผื่อ รุ่นที่ 3 ด้วย เขาชี้ว่าการปลูกลงดินแบบร่องช่วยให้ต้นเมล่อนได้อาหารอย่างเต็มที่ ทำให้ต้นแข็งแรง ลูกเมล่อนมีคุณภาพ ได้ผลขนาดใหญ่ มีรสหวาน และกลิ่นแรง แล้วที่กล้าการันตีเพราะได้ทดลองจนสำเร็จแล้ว
หลังจากผสมเกสรติดลูก ใช้เวลา 7-10 วัน เมื่อลูกมีขนาดเท่าไข่ไก่ก็ให้คัดลูกที่สมบูรณ์ไว้ โดยหลังจากผสมเกสรไปจนเก็บผลผลิต ใช้เวลาประมาณ 38-40 วัน คุณอุดร บอกว่า ถ้าเมล่อนรุ่นนั้นเก็บที่ 38 วัน พอถึงวันที่ 30 ต้องทดสอบความหวาน ถ้าได้ความหวานสัก 13-14 บริกซ์ ก็พอใจ แต่ถ้าหวานน้อยเกินไป จะพ่น 0-0-50 ทางใบช่วย เพราะเวลาที่เหลือจะทำให้ได้ความพอดี

เริ่มตัดได้บ้างแล้ว

การป้องกันโรค/แมลงศัตรู จะใช้วิธีทางธรรมชาติและพยายามหลีกเลี่ยงสารเคมี โดยวิธีตามธรรมชาติจะใช้นมสด 1 กล่อง ผสมน้ำดิบ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบตอนช่วงแดดจัดเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟ เพราะเมื่อนมแห้งจะไปติดกับตัวเพลี้ยทำให้เพลี้ยหายใจไม่ได้แล้วตาย จากนั้นจึงค่อยพ่นด้วยน้ำอีกครั้งเพื่อล้างออก

เริ่มรดด้วยน้ำทะเลผสมน้ำดิบ

คุณอุดร บอกว่า การปลูกเมล่อนด้วยการใช้น้ำทะเลยังไม่มีใครทำ เพราะวิธีนี้สังเกตมาจากเมื่อคราวปลูกผลไม้ อีกทั้งยังทดลองมาหลายครั้ง จนมั่นใจแล้วจึงนำมาใช้กับเมล่อน ดังนั้น การปลูกเมล่อนของคุณอุดรเปรียบเสมือนการหาคำตอบ จึงไม่ได้มุ่งปลูกเชิงพาณิชย์ แต่เพื่อเป็นรายได้เสริม โดยผลผลิตจะขายให้กับชาวบ้านในชุมชนแถวนั้น ราคากิโลกรัมละ 80 บาท มีน้ำหนักประมาณ 2-2.5 กิโลกรัม ต่อผล

ช่วงขยายขนาดผลได้ดี

เมล่อนที่คุณอุดรปลูกครั้งล่าสุดเก็บผลผลิตไปหมดแล้ว อยู่ระหว่างพักแปลง แล้วกำลังเตรียมปลูกมะเขือเทศกินผลสด โดยจะใช้แนวทางเดียวกับเมล่อน เพราะคุณอุดรมองว่าน้ำทะเล น้ำหมักปลา และการปรับปรุงดินให้มีคุณภาพจะช่วยให้มะเขือเทศมีคุณภาพสมบูรณ์เช่นเดียวกับเมล่อน

เตรียมแปลงปลูกด้วยการปรับปรุงดินจากวัสดุปลูกตามธรรมชาติ

หากท่านใดที่สนใจวิธีปลูกเมล่อนตามแบบอย่างคุณอุดร สอบถามรายละเอียดโดยตรงได้ที่ โทรศัพท์ 086-767-6890

ต้นกล้าเริ่มโต