มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท หนุนโภชนาการที่ดีของเยาวชน

“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท  และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เป็นโครงการที่มีส่วนร่วมแก้ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชนไทย ตลอด  32 ปีที่ผ่านมา โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยภาวะโภชนาการของเด็กนักเรียนและเยาวชนในชนบทและพื้นที่ห่างไกลมาดำเนินการ

 

มูลนิธิฯ ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน จากการสนับสนุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ภายใต้การดูแลของสำนักงานโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขยายผลไปยังโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. และสังกัดอื่นๆ จนถึงปัจจุบัน เข้าสู่ปีที่ 33 มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ 880 โรงเรียน อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 231 โรงเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 342 โรงเรียน ภาคกลาง 138 โรงเรียน ภาคตะวันออก 56 โรงเรียน และภาคใต้ 113 โรงเรียน โดยมีซีพีเอฟเป็นภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนโครงการ  ชและหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ หรือ JCC-B (Japanese Chamber of Commerce -Bangkok)  บมจ.สยามแม็คโคร หรือ Makro  เน้นช่วยเหลือโรงเรียนในทุกภูมิภาคที่มีเด็กนักเรียนและเยาวชนมีปัญหาทุพโภชนาการ

โรงเรียนป่าไม้อุทิศ 4 จ.ตาก เป็นโรงเรียนที่เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 -มัธยมศึกษาปีที่ 6 มีจำนวนนักเรียน 1,908 คน “ดร.ศิรภัสสร ชุมภูเทพ” ผู้อำนวยการโรงเรียน  กล่าวว่า  โรงเรียนฯเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ตั้งแต่ปี 2559 จำนวนไก่ไข่ที่เลี้ยง  300 ตัว เด็กๆ ได้บริโภคไข่ไก่เป็นอาหารมื้อกลางวันสัปดาห์ละ 2 มื้อ ต้องขอขอบคุณมูลนิธิฯ และซีพีเอฟ ที่ส่งมอบโครงการดีๆ ช่วยให้เด็กเติบโตสมวัย และยังได้ความรู้เรื่องการดูแลไก่ไข่ โรงเรียนสามารถนำมาบูรณาการการเรียนการสอน เป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็ก ชุมชนเองก็ได้บริโภคไข่ไก่ในราคาย่อมเยา นอกจากนี้ โครงการนี้ ยังตอบโจทย์การผลิตอาหารที่ปลอดภัย การสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืน ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี

นายประจักสิน บึงมุม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองเรือ ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า โรงเรียนเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนมา 1 ปี สิ่งที่ได้รับจากโครงการฯหลายด้าน คือ นักเรียนมีโภชนาการที่ดีขึ้น จากการที่ได้บริโภคไข่ไก่ เป็นอาหารมื้อกลางวันทุกวัน  เป็นโครงการที่ส่งเสริมเข้าถึงโปรตีนคุณภาพ ได้เรียนรู้ และมีทักษะในการเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้ว่าการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้สู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริงนั้น ต้องมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ มีวิธีการ มีขั้นตอน ซึ่งเราได้รับการถ่ายทอดความรู้และคำแนะนำจากซีพีเอฟและมูลนิธิฯ   เช่น โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน  ที่เราต้องรู้จักบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ ระบบบัญชี การคำนวณจุดคุ้มทุน เป็นต้น

นางลักษณา พรหมพล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยลาด อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีจำนวนนักเรียน 300 คน เดิมโรงเรียนมีการเลี้ยงไก่ไข่อยู่แล้ว เพื่อนำผลผลิตมาเป็นอาหารกลางวัน แต่ก็ได้เพียงสัปดาห์ละ 1 มื้อ หลังจากที่โรงเรียนเข้าร่วมโครงการในปีนี้เป็นปีแรก เริ่มเลี้ยงไก่ล็อตแรก 200 ตัว เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผลผลิตไข่ไก่ทำให้เด็กนักเรียนได้บริโภคไข่ไก่เป็นอาหารกลางวันสัปดาห์ละ 2 มื้อ โรงเรียนมีโรงเรือนที่เลี้ยงไก่ไข่ที่ได้รับการดูแลด้านสุขาภิบาลที่ดี ไม่มีกลิ่นรบกวน  นักเรียนมีความรับผิดชอบ ได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงไก่ไข่ที่ถูกต้อง ชุมชนรอบข้างได้บริโภคไข่ไก่ที่สดและราคาย่อมเยา   

ครูมณี ฦาชา ครูผู้ดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โรงเรียนบ้านกุยแหย่ อำเภอทองผาภูมิ  จังหวัดกาญจนบุรี  เล่าว่า เริ่มต้นเข้าโครงการฯ เมื่อปี 2553 จาก 100 ตัว และเพิ่มการเลี้ยงเป็น 300 ตัว ในปัจจุบัน เพื่อนำผลผลิตไข่ไก่สำหรับเป็นอาหารกลางวันของนักเรียน 863 คน ในระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถจัดสรรอาหารกลางวันให้กับนักเรียนได้ทุกคน นอกจากนี้ เด็กๆ ได้ลงมือปฏิบัติวิชาการเกษตรเพื่อให้มีประสบการณ์จริง และปรับวิชาการเกษตรเข้าสู่หลักสูตรในวิชาเพิ่มเติมด้วย ขณะที่ชุมชน มีโอกาสซื้อหาไข่ไก่สด สะอาด ปลอดภัย  ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด

โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน  ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน ชุมชน เป็นโครงการที่มีโอกาสขยายผลไปสู่การสร้างเป็น Social Enterprise และสอดรับกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ  ในข้อ 2 – Zero Hunger ขจัดความหิวโหย  และ ข้อ 3  Good health and well-being สร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย