กรุงเทพฯ คว้าอันดับ 1 เอเชีย เมืองดีที่สุดสำหรับ “สตาร์ตอัพ”

รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ยิ้มแฉ่ง ตลาดกลางสำหรับเหล่าคนทำงานอิสระทั่วโลกจัดลำดับให้ กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับชาวสตาร์ตอัพ ลำดับ 7 ของโลก และ 1 ในเอเชีย แซงหน้า สิงคโปร์ ฮ่องกง ชี้ธุรกิจการแพทย์ สาธารณสุข มาแรงแซงโค้งทุกอาชีพ

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า หลังจาก วท.จัดงาน “Startup Thailand 2017-Scale up Asia” จบไป เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับข่าวดีจากเจ้าของเว็บไซต์ www.peopleperhour.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนทำงานอิสระ เป็นเสมือนตลาดกลางสำหรับเหล่าฟรีแลนซ์ทั่วโลก ที่เป็นผู้จัดทำตัวชี้วัดเพื่อจัดอันดับโดยใช้เกณฑ์วัดจากค่าครองชีพ ค่าเช่า เงินเดือน และประเทศที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการประกอบธุรกิจว่ามีการจัดลำดับ เมืองที่ดีที่สุดสำหรับชาวสตาร์ตอัพในเอเชีย พบว่ากรุงเทพมหานครได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียสำหรับการเติบโตของธุรกิจสตาร์ตอัพ และเป็นอันดับ 7 ของโลก

“เราแซงฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ถือว่าเป็นสถานที่อันดับต้นที่เหมาะสมกับการเริ่มต้นธุรกิจ  และมีความสามารถในการแข่งขันสูง แต่จากผลสำรวจของ PeoplePerHour กลับกลายเป็นว่ากรุงเทพฯ มีตัวเลขของการเติบโตของธุรกิจสตาร์ตอัพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพฯ ของเราได้รับความสนใจในกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงิน และในกลุ่มอื่นๆ ด้วย ซึ่งทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางที่เหมาะสมสำหรับการผลักดันธุรกิจดังกล่าวสู่ภูมิภาคอาเซียนไปพร้อมกับประชากรจำนวนมหาศาลและการเติบโตของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” รัฐมนตรี วท.กล่าว

นางอรรชกา กล่าวว่า สำหรับการจัดอันดับของโลกนั้น ที่ 1 ได้แก่ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา อันดับ 2 คือ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี 3. เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ 4. ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส 5. สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน 6. ซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา 7. กรุงเทพฯ 8. เมลเบิร์น ออสเตรเลีย 9. ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา 10. บังกาลอว์ อินเดีย 11. กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และ 12. สิงคโปร์

“นี่คือความสำเร็จที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมตลอด 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสตาร์ตอัพอย่างจริงจัง เราใช้ทั้งกลไกสนับสนุนและการรวมพลังขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และประชาคมสตาร์ตอัพ เพื่อสร้างนักรบทางเศรษฐกิจพันธุ์ใหม่ นั่นคือผู้ประกอบการสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ ในปีนี้ สาขาธุรกิจที่มาแรง คือ กลุ่มการแพทย์และสาธารณสุข กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีเมือง และกลุ่มธุรกิจบริการ” รัฐมนตรี วท.กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน